งบ CPALL ปี 2567 กำไร 25,346 ล้านบาท โต 37% โดย 7-Eleven มีรายได้จาก 7Delivery - All Online คิดเป็นสัดส่วน 11%
CPALL เจ้าของ 7-Eleven ในไทย ได้รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยปี 2567
มีรายได้ 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อน
กำไร 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1%
มีรายได้ 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อน
กำไร 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1%
ธุรกิจหลักของ CPALL แบ่งตามสัดส่วนรายได้
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ธุรกิจหลักด้วยกัน
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ธุรกิจหลักด้วยกัน
-รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 45%
-รายได้จากธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า 48%
-รายได้จากธุรกิจอื่นๆ ในประเทศไทย 7%
-รายได้จากธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า 48%
-รายได้จากธุรกิจอื่นๆ ในประเทศไทย 7%
ซึ่งธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า มีรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ Makro และ Lotus’s
ในขณะที่ถ้าเจาะลงไปที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ หรือ 7-Eleven จะพบว่า
-รายได้ขายสินค้าและบริการ 439,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1%
-กำไรสุทธิ 21,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%
-กำไรสุทธิ 21,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%
สาเหตุที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ก็มาจากเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในร้าน
ประกอบกับค่าไฟต่อหน่วยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
แม้จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าผลประโยชน์พนักงาน ค่าส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้นก็ตาม
แม้จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าผลประโยชน์พนักงาน ค่าส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้นก็ตาม
และเมื่อลองเจาะไปยังตัวเลขยอดขาย พบว่ายอดสั่ง 7Delivery และ All Online คิดเป็น 11% ของยอดขายรวม
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา 7-Eleven มี
-ยอดซื้อเฉลี่ยต่อบิล 85 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 83 บาท
-ยอดขายต่อสาขาเฉลี่ย 83,906 บาทต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 80,837 บาทต่อวัน
-จำนวนลูกค้าต่อวันต่อสาขาเฉลี่ย 978 คน
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 965 คน
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 965 คน
-จำนวนสาขา 15,245 สาขา เพิ่มขึ้น 700 สาขาจากปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ในปี 2568 CPALL วางแผนจะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีก 700 สาขาในไทย รวมถึงในกัมพูชา และ สปป.ลาว ด้วย..
นอกจากนี้ในปี 2568 CPALL วางแผนจะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีก 700 สาขาในไทย รวมถึงในกัมพูชา และ สปป.ลาว ด้วย..
