ซักเคอร์เบิร์ก คอนเฟิร์ม อุปกรณ์ในยุคถัดไป จะเปลี่ยนจากมือถือ เป็นแว่นตา

ซักเคอร์เบิร์ก คอนเฟิร์ม อุปกรณ์ในยุคถัดไป จะเปลี่ยนจากมือถือ เป็นแว่นตา

ซักเคอร์เบิร์ก คอนเฟิร์ม อุปกรณ์ในยุคถัดไป จะเปลี่ยนจากมือถือ เป็นแว่นตา /โดย ลงทุนแมน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เห็นอะไรในทศวรรษถัดไป?
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา..
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก โพสต์เรื่องความท้าทายแห่งทศวรรษ
จริงๆ แล้วก็มีอยู่หลายเรื่องที่น่าสนใจ
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด
ก็คือคำทำนายของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ว่าอุปกรณ์ในทศวรรษนี้ จะไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ..
แล้วมันคืออะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
http://www.blockdit.com
╚═══════════╝
เรามาดูแพลตฟอร์มเทคโนโลยีในทศวรรษที่ผ่านมาในมุมมองของซักเคอร์เบิร์ก
เขาให้ความเห็นว่า
ในยุค 1990s คือ ยุคของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ในยุค 2000s คือ ยุคของเว็บไซต์
ในยุค 2010s คือ ยุคของโทรศัพท์มือถือ
ถึงแม้ว่ายุคโทรศัพท์มือถือจะมีดีหลายอย่าง
แต่สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับอุปกรณ์ที่เรียกว่า โทรศัพท์มือถือ ก็คือ
มันกำลังทำให้เรา “ห่างกับคนข้างๆ มากขึ้น”
อุปกรณ์ในทศวรรษนี้จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้เรา “มีตัวตนอยู่กับปัจจุบัน”
สามารถทวงคืนความสำคัญของคนที่อยู่รอบข้างกลับมาได้..
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะยังเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในทศวรรษนี้
แต่จะมีจุดหนึ่งในทศวรรษนี้ ที่ทำให้แว่นตา Augmented Reality ก้าวข้ามมาแทนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันจะมีความสามารถมากพอ ที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์เดิมของพวกเรา
ทำไม แว่นตา Augmented Reality ถึงจะมาช่วยแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ของโทรศัพท์มือถือ?
ในมุมมองของลงทุนแมน
Pain Point ของโทรศัพท์มือถือ ก็คือ “การก้มหน้า”
ทุกครั้งที่เราก้มหน้า หมายความว่า เราสูญเสียการรับรู้จากสิ่งรอบข้างไป
เทคโนโลยี Augmented Reality จะทำให้เราเพิ่มขีดจำกัดของโลกแห่งความจริง
เราไม่ต้องก้มหน้า ทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้เหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือเทคโนโลยีที่จะมาปรากฏผ่านแว่นตา ซึ่งทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น
หมายความว่าเราจะไม่สูญเสียโลกแห่งความจริงไป
ในขณะเดียวกันก็มีเทคโนโลยีมาช่วย สะดวกไม่แพ้การใช้โทรศัพท์มือถือ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวต่อว่า
นอกจากเทคโนโลยี Augmented Reality แล้ว เทคโนโลยี Virtual Reality ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
โลก Virtual Reality ในอนาคต เราจะสามารถเข้าถึงและสัมผัสคนอื่นที่อยู่ห่างไกลได้ ไม่ต่างอะไรไปจากโลกแห่งความจริง
แตกต่างจากโทรศัพท์มือถือที่เราจะเห็นแต่ภาพ ตัวอักษร วิดีโอ โดยเราจะไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึก กิริยาท่าทาง ได้เหมือน Virtual Reality ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ ความเป็นมนุษย์
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ทำนายว่า
ความสามารถในการนำเสนอ “ความเป็นตัวตนจริงๆ ของคน” จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในโลกแห่งอนาคตที่จะมาแก้ไขปัญหาทางสังคมหลายๆ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นในยุคที่ผ่านมา
ปัจจุบัน คนมากมายต้องอยู่ห่างไกลจากเมืองเกิด
เพราะต้องออกไปทำงานในที่ที่ได้รับโอกาสมากกว่า ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นที่ต่างประเทศ
ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาก็คือ ที่อยู่อาศัยในบางประเทศมีอยู่จำกัด แถมค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยก็ยังมีมูลค่าสูงมากในขณะที่คุณภาพชีวิตของเราลดลงเรื่อยๆ
ลองจินตนาการดูว่าหากเราสามารถเข้าถึงโอกาสและงานบนโลก ไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม
เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอีกก้าวกระโดดครั้งสำคัญของทศวรรษนี้เลย ก็เป็นได้
สรุปได้ว่า
โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดอยู่มาก
มันทำหน้าที่ได้เป็นแค่ตัวช่วยให้เราสะดวกขึ้นแบบ ครึ่งๆ กลางๆ
และยังก่อให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ที่ลดลงกับคนรอบข้าง
ซึ่งก็น่าคิดว่า
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่เร่งให้โลกเป็นแบบทุกวันนี้ ก็คือตัว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เองที่ทำให้คนเสพติดโทรศัพท์มือถือนั่งเล่นโซเชียลมีเดียอยู่ตลอดเวลา
มาวันนี้ตัวเขาเองกลับบอกว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้น กำลังกลายเป็นปัญหาของโลก เพราะตัวตนจริงๆ ของคนหายไป..
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ก็คงต้องยอมรับว่า
สิ่งนี้มันเป็นปัญหาสำหรับมนุษย์ในยุคนี้จริงๆ
อยู่กันต่อหน้า แต่สายตากลับจ้องมองเครื่องสี่เหลี่ยม
สิ่งแวดล้อมรอบข้างกลายเป็นตัวประกอบ ที่ไม่มีความสำคัญเท่าหน้าจอ
ในวันนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยืนยันว่าในอนาคตจะมีอุปกรณ์ใหม่มาแก้ปัญหานี้ได้ ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่ามันจะแก้ได้จริงหรือไม่
ซึ่งเราก็น่าจะเห็นไปพร้อมๆ กัน
เพราะ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยืนยันว่า
จุดนั้นมันจะเกิดขึ้น ในทศวรรษนี้..
----------------------
Blockdit แอปเขียนบล็อกอันดับ 1
http://www.blockdit.com
----------------------
Reference
-https://www.facebook.com/zuck/posts/10111311886191191
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon