ผู้สนับสนุน..
The All-New Subaru Forester EyeSight ผู้นำเทคโนโลยีความปลอดภัย / โดย ลงทุนแมน

รู้หรือไม่ว่า ประเทศไทยเรามีอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นทุกปี..

จำนวนการรับแจ้งอุบัติเหตุจราจรทางบก
พ.ศ. 2559 อุบัติเหตุ 73,930 ราย
พ.ศ. 2560 อุบัติเหตุ 88,218 ราย
พ.ศ. 2561 อุบัติเหตุ 103,463 ราย

โดยเฉพาะปี 2561 มีผู้เสียชีวิต 8,348 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 61,137 ราย
พูดง่ายๆ ก็คือทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีคนได้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตถึง 8 คน

แน่นอนว่าความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุเหล่านี้ ย่อมสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล

ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับทรัพย์สินที่เสียหาย
ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

และคงประเมินมูลค่าไม่ได้เลย
ถ้าหากอุบัติเหตุเหล่านี้จะพรากชีวิต ของคนที่เรารักไป..

แล้วเราจะป้องกันเรื่องนี้ได้อย่างไร?

หนึ่งในคำตอบของเรื่องนี้ คือ “การลงทุนในเรื่องความปลอดภัย” บนท้องถนน

ปัจจุบันทั้งทางภาครัฐ, ภาคเอกชน รวมทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่ง ต่างมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อมาช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับ, ผู้โดยสาร และผู้สัญจรบนท้องถนน

Subaru แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่การเป็นผู้ผลิตอากาศยานหลักของประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งต่อนวัตกรรมและวิศวกรรมการผลิตรถยนต์ที่ผ่านการศึกษาวิจัยมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

ทำให้ปัจจุบัน Subaru กลายเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านวิศกรรมยานยนต์ระดับโลก
ขึ้นชื่อในเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

แล้วรถยนต์ของ Subaru โด่ดเด่นและต่างจากรถยี่ห้ออื่นอย่างไร?

แม้ว่ารถยนต์ซูบารุอาจยังไม่ใช่ผู้เล่นหลักในตลาดรถยนต์เมืองไทย แต่รถยนต์ของ Subaru ก็ประกอบด้วย 4 เทคโนโลยีหลักอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และประสานการทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

• เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ (Boxer Engine) ซึ่งเปรียบเหมือนหัวใจของรถ Subaru ทุกรุ่น โดดเด่นในเรื่อง การเป็นเครื่องยนต์ที่มีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ในระดับต่ำกว่าเครื่องยนต์แบบอื่นๆ ส่งผลให้รถยนต์ซูบารุมีการทรงตัวที่ดีกว่า และแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของลูกสูบในแนวนอนยังน้อยกว่าเครื่องยนต์ประเภทอื่นอีกด้วย

• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) อีกหนึ่งเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ ที่โด่งดังและทำให้ซูบารุสามารถชนะการแข่งขันในระดับโลกอย่างมากมาย แตกต่างจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วๆ ไป ระบบ SAWD นี้จะกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ตลอดเวลา ช่วยให้การยึดเกาะอยู่ในระดับสูงสุดในทุกสภาวะและทุกสภาพถนน ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ

• โครงสร้างตัวถังใหม่ (Subaru Global Platform) ชุดโครงสร้างรถยนต์ที่ออกแบบใหม่ ให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แข็งแรงมากขึ้น และช่วยลดแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น มั่นคง และลดเสียงรบกวนระหว่างการเดินทาง

• และเทคโนโลยีไฮไลต์ล่าสุด คือระบบ EyeSight ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยที่ทำให้ รถยนต์ Subaru โดดเด่นและแตกต่างจากรถยนต์แบรนด์อื่น

EyeSight คืออะไร? ทำงานอย่างไร? และมีจุดเด่นอะไรที่แตกต่างไปจากระบบอื่นๆ?

อธิบายให้เห็นภาพ EyeSight ก็คือ เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยที่ทำหน้าที่เสมือนดวงตาของรถยนต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ

โดยระบบ EyeSight มีอุปกรณ์และหลักการทำงานแตกต่างจากระบบอื่นๆ ตรงที่ระบบ EyeSight เป็นการผสานการทำงานของกล้อง 2 ตัว (Duo Stereo Cameras) เปรียบเสมือนการทำงานของดวงตามนุษย์ที่มี 2 ข้าง ทำให้ระบบสามารถวิเคราะห์, ประเมิน และการตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งจุดเด่นของระบบ EyeSight ที่ทำให้แตกต่างจากระบบเสริมความปลอดภัยอื่นๆ ก็ยกตัวอย่างเช่น

ฟังก์ชัน Adaptive Cruise Control ที่สามารถตั้งความเร็วที่เราต้องการในการเดินทาง โดยมีความสามารถที่จะแปรผันความเร็วตามรถคันหน้าได้อัตโนมัติ และแม้ว่ารถคันหน้าอาจชะลอความเร็วจนรถหยุดนิ่ง รถของเราก็จะหยุดตามและออกตัวอีกครั้งตามรถยนต์คันหน้าไปจนถึงความเร็วที่เรากำหนด พร้อมมีการเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยให้เสร็จสรรพ

ฟังก์ชัน Lead Vehicle Start Alert ที่จะส่งสัญญาณเสียงและโชว์ไฟแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว

หรือ ฟังก์ชัน Lane Sway and Departure Warning ที่ส่งเสียงและสัญญาณไฟเตือนเวลาเราขับรถออกนอกเลน ในยามที่เราไม่ตั้งใจ เป็นการช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุให้กับเราและเพื่อนร่วมทางอีกด้วย

และที่เป็นไฮไลต์สำคัญที่มีส่วนในการช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมากนั้น คือ ฟังก์ชัน Pre-Collision Throttle Management ที่จะตัดกำลังเครื่องยนต์เพื่อป้องกันการชน กรณีที่มีวัตถุขวางอยู่ด้านหน้า และฟังก์ชัน Pre-Collision Braking ที่สามารถแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า โดยจะเริ่มทำงานที่ความเร็วเพียง 1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เท่ากับว่า ช่วยลดความเสี่ยงตั้งแต่เราเริ่มเดินทางขับรถจากบ้าน หรือ ขับช้าๆ ออกจากลานจอดรถที่ห้างสรรพสินค้า โดยระบบจะตอบสนองด้วยการส่งเสียงเตือน จากนั้นจะเริ่มเบรกและหยุดรถ

และแม้ว่าระบบ EyeSight จะเป็นระบบเสริมความปลอดภัยที่ทันสมัย และครอบคลุมการใช้งานด้านต่างๆ เพียงใด ผู้ขับขี่ยังคงต้องเป็นผู้ควบคุมและตัดสินใจด้วยตนเองอยู่เสมอ

จากการสำรวจและการคำนวณจากสถาบัน Traffic Accident Research and Data Analysis (ITARDA) โดยพิจารณาจากรถยนต์ซูบารุที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นระหว่างปี พ.ศ. 2553 - 2557

รถยนต์ซูบารุรุ่นที่มีเทคโนโลยี EyeSight จำนวนกว่า 246,000 คัน มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุโดยรวมต่ำกว่าถึง 61%

โดยล่าสุดปี 2562 นี้ รถยนต์ The All-New Subaru Forester รุ่นที่มีระบบ EyeSight ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นยังได้รับรางวัลความปลอดภัยระดับสูงสุด Grand Prix Prize จากหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยรถยนต์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางถนนจากประเทศญี่ปุ่น หรือ JNCAP ด้วยคะแนนสูงสุดถึง 96.5 คะแนน รวมทั้งได้รับการจัดระดับความปลอดภัยในระดับ Advanced Safety Vehicle Triple Plus (ASV +++) อีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ สำหรับใครที่สนใจ “อยากลงทุนในด้านความปลอดภัย” กับรถยนต์ที่เราและครอบครัวต้องใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน

เมื่อเทียบระหว่างราคาของรถกับสิ่งที่เราจะได้รับ The All-New Subaru Forester รุ่น EyeSight นี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และน่าลงทุน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย มากที่สุดรุ่นหนึ่ง

สำหรับคนที่มองหารถยนต์ประเภท SUV ซึ่งนอกจากจะได้เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นด้านการขับขี่แล้ว ยังมีระบบ EyeSight เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาให้อีกด้วย