ชาตรามือ คือ สุดยอดการตลาด

ชาตรามือ คือ สุดยอดการตลาด

สินค้าที่ดูน่าเบื่อ
บางทีก็กลับมาชีวิตชีวาได้.. ถ้าเจ้าของ "ตั้งใจทำ"
กระป๋องยี่ห้อ ชาตรามือ ทุกคนน่าจะเคยเห็น
สินค้าที่ดูโบราณ อยู่ดีๆก็ดังเปรี้ยง
เรื่องนี้คือ ฟลุ๊ค หรือ มีฝีมือ ?
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2468 หรือเกือบ 100 ปีที่แล้ว
บรรพบุรุษตระกูล “เรืองฤทธิเดช” ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน ก่อตั้งร้านขายชาจีนร้อน ที่เยาวราช
ต่อมาคุณ ดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช ได้ก่อตั้งโรงงานใบชาสยามเมื่อปี 2537 รับซื้อใบชาจากจังหวัดเชียงราย
ชาตรามือ เป็นชื่อทางการค้าของชาผงปรุงสำเร็จจากบริษัท สยาม เอฟ บี โปรดักส์ จำกัด
สัดส่วนจำหน่ายในประเทศ 60% และส่งออก 40%
และรู้หรือไม่ว่า ร้านกาแฟ "อเมซอน" ของ ปตท. สั่งซื้อชาจากบริษัทมากถึง 88.5 ตันต่อเดือน..
ชาตรามือมีรายได้เท่าไหร่?
ปี 2555 รายได้ 85 ล้านบาท
ปี 2556 รายได้ 114 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 206 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 268 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 366 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่ารายได้ของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด
อะไรที่เป็นเบื้องหลังทำให้รายได้เติบโตแบบนี้?
นอกจากการเน้นขายชาปรุงสำเร็จเพื่อเจาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขายน้ำชงแล้ว
ในช่วง เกือบ 10 ปีที่ผ่านมาชาตรามือได้พัฒนาธุรกิจด้วยฝีมือของทายาทรุ่นที่ 3 ผ่านการเปิดร้านเครื่องดื่ม ”ชาตรามือ” เพื่อเข้าถึง end user โดยตรง เพื่อขายเครื่องดื่มที่เราคุ้ยเคยอย่างเช่น ชาเย็น ชาดำเย็น ชามะนาว
ถึงแม้ร้านเครื่องดื่มจะไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่บริษัท แต่การเปิดหน้าร้านนั้นทำให้สินค้าชาตรามือเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่ผู้ดื่ม ถือเป็นการสร้าง Brand Awareness ที่ดีเลยทีเดียว
หากยังจำกันได้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาร้านชาตรามือได้สร้างปรากฏการณ์ที่ถือว่าเป็น talk of the town นั่นก็คือเครื่องดื่ม “ชากุหลาบ” ที่ออกมาในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์
จากการรีวิวของผู้บริโภคผ่านสื่อโซเชียลที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ด้วยสรรพคุณที่กล่าวว่า ดื่มแล้วขับถ่ายจนหมดไส้หมดพุง จนเรียกว่า ชาขรี้แตก
ผู้คนต่างอยากทดลองเจ้าเครื่องดื่มชากุหลาบตัวนี้จนทำให้แถวหน้าร้านยาวเหยียด
ถือเป็นความประสบความสำเร็จในการสร้าง word of mouth ได้อย่างดีเยี่ยม
ปัจจุบันร้านเครื่องดื่มชาตรามือมีสาขาทั้งหมดกว่า 60 สาขาในประเทศไทย กระจายอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รวมไปถึงตามสถานีรถไฟฟ้า BTS โดยทุกสาขาเป็นการลงทุนเองของทางบริษัท
อีกทั้งยังได้เปิดสาขาในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนผ่านการขายแฟรนไชส์ ทั้งในมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ซึ่งมีรสนิยมการดื่มคล้ายกับบ้านเรา และล่าสุดได้ไปเปิดที่ประเทศที่คิดไม่ถึงอย่างเกาหลีใต้ด้วย
สำหรับชาวต่างชาติแล้ว
ชาตรามือถือเป็นของฝากที่ต้องซื้อกลับไปยังบ้านเกิดตัวเอง
ด้วยการที่ชาตรามือขยายสาขาตามสนามบินและแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักแบรนด์มากขึ้น เกิดเป็นกระแสปากต่อปาก จนถึงกับเขียนในคู่มือท่องเที่ยวว่า หากมาเมืองไทย ต้องลองดื่ม CHA-YEN ของชาตรามือนั่นเอง
อะไรทำให้ชาตรามือกลับมาได้รับความนิยมขนาดนี้?
1. ปรับภาพลักษณ์ให้เข้ากับยุคสมัย
แตกไลน์สินค้าที่ฉีกไปจากเดิมอย่าง เช่น ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟชาไทยและชาเขียว แต่ยังคงรสชาติของใบชาที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
สำหรับลูกค้าเก่านั้นเป็นการสร้างความแปลกใหม่จากสิ่งที่เขาคุ้นเคย สำหรับลูกค้าใหม่นั่นหมายถึงการสร้างการรับรู้ว่าว่าชาตรามือคืออะไร
2. สินค้าบางชนิดมีขายเพียงไม่กี่สาขา
นั่นหมายถึงการสร้างให้ตัวสินค้ามีความน่าค้นหา ยิ่งของหายาก ผู้บริโภคก็ยิ่งอยากลอง
ชาตรามือเข้าใจวิธีในการเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภคจุดนี้ได้เป็นอย่างดี
3. กระแสการบอกต่อบนโลกออนไลน์
ชาตรามือโด่งดังในโลกออนไลน์ผ่านการรีวิวของลูกค้าที่รับประทานจริงจนเกิด แฮชแท็ก #ชาตรามือ ในสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง twitter และ facebook
นอกจากนั้นยังใช้ influencer จากเพจชื่อดังในวงการอาหารจำนวนมาก ยิ่งเป็นการกระตุ้นความอยากให้แก่ลูกค้ามากขึ้นไปอีก
ทุกอย่างที่กล่าวมาน่าจะเป็นวิธีการทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของชาตรามือ
ทำให้แบรนด์ที่ดูเหมือนจะเก่าแก่ ฟื้นคืนชีพ กลายร่างมาเป็นแบรนด์ที่คึกคักขึ้นมาทันที
เรื่องนี้ถ้าหลายคนไม่สังเกต จะไม่ได้เอะใจถึงการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อดูรายละเอียดลึกเข้าไปในแต่ละสินค้า แต่ละแคมเปญการตลาดที่แบรนด์นี้ได้ทำ
จะพบว่าสิ่งที่ชาตรามือได้มา ไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะฝีมือที่ "เจ้าของแบรนด์ตั้งใจให้เกิดขึ้น"
ถ้าจะให้ลงทุนแมนจัดอันดับแล้ว ชาตรามือ น่าจะได้ตำแหน่ง "สุดยอดการตลาด" ของประเทศไทยในปีนี้ไปครอง..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon