เฟซบุ๊กคาด โดนค่าปรับ 1 แสนล้านบาท
เฟซบุ๊กคาด โดนค่าปรับ 1 แสนล้านบาท / โดย ลงทุนแมน
“ค่าปรับ 1 แสนล้านบาท” คือจำนวนเงินที่เฟซบุ๊ก บันทึกลงในค่าใช้จ่ายไตรมาสล่าสุด ที่เพิ่งประกาศวันนี้
Federal Trade Commission หรือ คณะกรรมการการค้าแห่งชาติของสหรัฐ กำลังตรวจสอบการใช้งานข้อมูลของเฟซบุ๊ก และเฟซบุ๊กคาดว่าจะต้องจ่ายค่าปรับประมาณ 100,000 ล้านบาท ถึง 160,000 ล้านบาท
เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง คงเป็นการปรับเงินครั้งมโหฬารที่สุด ในประวัติศาสตร์โลกใบนี้
แล้วเรื่องนี้จะส่งผลอะไรกับ เฟซบุ๊ก?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จากเหตุการณ์วิกฤตในปี 2018 เฟซบุ๊กโดนทุกฝ่ายโจมตีเรื่องการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด จนทำให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบ
ซักเคอร์เบิร์กยอมรับว่า เขาในช่วงที่ผ่านมาคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกที่เปลี่ยนไป
คำพูดที่รุนแรง การเลือกตั้ง ความเป็นส่วนตัว คือปัญหาของโลกโซเชียล
เรื่องพวกนี้ไม่ใช่แค่หน้าที่ของเฟซบุ๊ก แต่เป็นหน่วยงานรัฐบาลต้องเข้ามากำหนดกติกาเพื่อดูแลเรื่องนี้
แต่สำหรับเฟซบุ๊กแล้ว เฟซบุ๊กกำลังจะเปลี่ยนไป..
ในช่วงที่ผ่านมาทั้ง เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม จะเปรียบเหมือนเป็น Town Square หรือจัตุรัสกลางเมือง ที่ให้คนมาแลกเปลี่ยนพูดคุย ทั้งการเจอเพื่อน พบเพื่อนใหม่ หาชุมชน รวมถึงการทำธุรกิจ ซื้อของขายของ
แต่ต่อไปนี้เฟซบุ๊กจะไม่เน้นการเป็น Town Square อีกต่อไปแล้ว
เฟซบุ๊ก จะเน้นการเป็น “Living Room” หรือ ห้องนั่งเล่น
เฟซบุ๊ก จะเน้นการเป็น “Living Room” หรือ ห้องนั่งเล่น
เพราะผู้คนต้องการที่จะติดต่อกันแบบมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
การเป็นห้องนั่งเล่น นั้นจะเป็นตั้งแต่ การส่งข้อความถึงกัน โดยเฟซบุ๊กจะทำให้เข้ารหัส (end-to end encryption) ซึ่งเมื่อเข้ารหัสแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครแม้แต่หน่วยงานรัฐ ก็มาตรวจสอบข้อความไม่ได้
และ เฟซบุ๊กจะหลีกเลี่ยงการตั้งที่เก็บข้อมูลในประเทศที่อ่อนแอเรื่องกฎหมาย และมีความเสี่ยงที่รัฐบาลจะเข้ามาตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้งาน
รวมไปถึงเครื่องมือเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานส่วนบุคคล เช่น การจ่ายเงิน
น่าสังเกตว่าในช่วงที่ผ่านมาเฟซบุ๊กกำลังศึกษาเรื่อง cryptocurrency ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับเรื่องนี้ว่าเฟซบุ๊กอาจจะมีการจ่ายเงินที่เป็นส่วนตัวของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเอง
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ เฟซบุ๊กเป็นห่วงเรื่องที่ถูกส่งออกไปจากเรา มันจะวนกลับมาทำร้ายเรา ซึ่งการแก้ปัญหานี้ ก็คือ การทำให้ข้อความที่ถูกส่งออกไปถูกลบทิ้ง เมื่อเวลาผ่านไป..
หลายคนเป็นห่วงว่าเรื่องราวเหล่านี้จะทำให้เฟซบุ๊กมีรายได้น้อยลง
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บอกว่า ไม่ต้องกังวล เพราะที่ผ่านมา เฟซบุ๊กไม่เคยเอาเนื้อหาในข้อความที่พูดคุยกันมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว เอาแต่ข้อมูลพฤติกรรมของเรา เช่น คลิกไลก์อะไร ชอบกดดูอะไร
การเข้ารหัสข้อความ ไม่ให้คนอื่นเห็น ก็ไม่น่าจะกระทบอะไร
ส่วนการลบข้อมูลทิ้งเมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่น่ากระทบอะไร เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลที่ล้าสมัย ก็จะใช้ประโยชน์ได้ไม่มาก
สำหรับในตอนนี้ มีคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก คือ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ว็อตส์แอป เมสเซ็นเจอร์ อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม เป็นจำนวน 2,700 ล้านคนทุกเดือน ซึ่งถือว่าเป็นชุมชนที่ใหญ่สุดในโลก
รายได้เฟซบุ๊กในไตรมาสนี้เติบโตขึ้น 26%
เฟซบุ๊กปัจจุบันมีพนักงาน 37,700 คน โตขึ้น 36%
ส่วนที่เป็นไฮไลต์ก็คือกำไร กำไรของเฟซบุ๊กไตรมาสนี้ลดลง 51% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายหลักคือ “ค่าปรับ” จากคณะกรรมการการค้าแห่งชาติของสหรัฐ ที่เฟซบุ๊กคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 1 แสนล้านบาท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ให้ทายว่าตลาดคิดยังไง?
คำตอบคือ ตลาดไม่สนใจกับค่าปรับที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
แต่ให้น้ำหนักกับ ผู้ใช้งาน และ รายได้ที่เติบโตขึ้น
แต่ให้น้ำหนักกับ ผู้ใช้งาน และ รายได้ที่เติบโตขึ้น
ทำให้หลังประกาศงบ หุ้นเฟซบุ๊กที่ซื้อขายกันหลังปิดตลาด บวก 7% เป็นที่ราคา 196.38 ดอลลาร์สหรัฐ
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในช่วงวิกฤตเฟซบุ๊กปีที่แล้ว ราคาหุ้นเฟซบุ๊กทำจุดต่ำสุดที่ 123.02 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม 2018
ในช่วงวิกฤตเฟซบุ๊กปีที่แล้ว ราคาหุ้นเฟซบุ๊กทำจุดต่ำสุดที่ 123.02 ดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม 2018
เวลาผ่านไป 4 เดือน ราคาหุ้นเฟซบุ๊กขึ้นมาแล้ว 60%..
----------------------
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆในแอป blockdit
นอกจากนั้น เรายังเขียนเองได้ และสามารถสร้างรายได้ในนี้
โหลดแอปได้ที่ http://www.blockdit.com
----------------------
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆในแอป blockdit
นอกจากนั้น เรายังเขียนเองได้ และสามารถสร้างรายได้ในนี้
โหลดแอปได้ที่ http://www.blockdit.com
สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 10.0
พิเศษ ช่วง Pre-Order รับส่วนลด 20% (จำนวนจำกัด) ได้ที่
พิเศษ ช่วง Pre-Order รับส่วนลด 20% (จำนวนจำกัด) ได้ที่