HUAWEI อยากก้าวข้าม Apple / โดย ลงทุนแมน

“ผมก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ด้วยเงิน 1 แสนบาท..”
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของคุณ Ren Zhengfei ผู้สร้างอาณาจักร Huawei เมื่อ 32 ปีก่อน

ปัจจุบัน Huawei กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทที่ขับเคลื่อนสินค้าเทคโนโลยีระดับโลก
ปี 2018 รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท กำไร 2.2 แสนล้านบาท

แต่กว่าจะมาเป็นวันนี้ เขาสร้างอะไรใน Huawei บ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไป 74 ปีก่อน..

คุณ Ren Zhengfei ถือกำเนิดขึ้นในมณฑลกุ้ยโจว มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน

ยุคนั้นเป็นช่วงที่ประเทศจีนอยู่ในยุคสงครามกลางเมืองระหว่างก๊กมินตั๋ง และคอมมิวนิสต์ ส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศตกต่ำ

เราลองมาดูรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GDP per Capita) ในช่วงนั้น (1950s)

ประเทศสหรัฐอเมริกา 26,000 บาทต่อเดือน
ประเทศไทย 2,250 บาทต่อเดือน
ประเทศจีน 1,600 บาทต่อเดือน..

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของคุณ Ren ที่แม้จะไม่มีเงินก็ยังตัดสินใจส่งเสียคุณ Ren จนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และเขาสามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในวิศวกรของกองทัพจีนได้สำเร็จ

หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศจีนมีการปรับนโยบายทางเศรษฐกิจโดยการสนับสนุนให้คนในประเทศสร้างธุรกิจของตนเอง และปลดพนักงานในพรรคออกกว่า 5 แสนคนในช่วงระหว่างปี 1980

คุณ Ren เป็นหนึ่งในนั้น..

เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปเมืองเซินเจิ้นเพื่อก่อตั้งธุรกิจ Huawei ขึ้นมาด้วยทุนแรกเริ่ม 1 แสนบาท
พร้อมผู้ร่วมก่อตั้งอีก 6 คน เริ่มต้นธุรกิจจากการซื้อมาขายไป

แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์และความรู้เรื่องธุรกิจเลย
พวกเขาจึงเริ่มต้นตั้งแต่ขายเครื่องเตือนสัญญาณไฟไหม้ ไปจนถึง ยาลดความอ้วน

และในที่สุด บริษัท Huawei ก็ได้นำตู้สาขาโทรศัพท์จากฮ่องกงมาขาย และขายได้ดี

ไอเดียทางธุรกิจของคุณ Ren จึงเริ่มต้นขึ้นจากจุดนี้..

คุณ Ren เริ่มมองเห็นภาพรวมอุตสาหกรรมการสื่อสารในประเทศยังล้าหลังประเทศอื่นๆ ทำให้โอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมก็มีมาก เช่นกัน

หากเริ่มก่อน ทำได้ดี และมีความน่าเชื่อถือ
ธุรกิจของเขาก็สามารถกลายมาเป็นเจ้าตลาดได้..

พอเรื่องเป็นแบบนี้ Huawei เริ่มเปลี่ยนบทบาทตนเองจากบริษัทซื้อมาขายไป กลายมาเป็นผู้ผลิตและติดตั้งระบบโทรคมนาคม และต่อยอดไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่นๆ

เมื่อเวลาผ่านไปเศรษฐกิจของประเทศจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ Huawei ได้ประโยชน์โดยตรงจากเรื่องนี้

เมื่อ Huawei ผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากก็ทำให้มีความได้เปรียบด้านราคา

และทำให้เหลือกำไรไปลงทุนกับการวิจัยสินค้ารุ่นใหม่ได้ดีกว่าคู่แข่ง

งบการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Huawei

ปี 2016 งบวิจัยมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 14.6% ของรายได้
ปี 2017 งบวิจัยมูลค่า 4.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 15.0% ของรายได้

แล้ว Huawei ในปัจจุบันเป็นอย่างไร?

บริษัท Huawei
ปี 2015 รายได้ 1.8 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 2.4 ล้านล้านบาท กำไร 1.7 แสนล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท กำไร 2.2 แสนล้านบาท

สัดส่วนรายได้มาจาก
ธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม 49.3%
โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 39.3%
ธุรกิจองค์กร 9.1% และธุรกิจอื่นๆ 2.3%

ไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 Huawei ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาด
(จำนวนเครื่อง) สูงถึง 14.6% แซงหน้าบริษัท Apple ไปแล้ว..

จากธุรกิจเล็กๆ ด้วยเงินทุน 1 แสนบาท กลายมาเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจใน 170 ประเทศ และมีพนักงาน 180,000 คน ส่งผลให้คุณ Ren Zhengfei ตอนนี้มีทรัพย์สินรวม 105,000 ล้านบาท

ถ้า 10 ปีที่แล้ว
มีคนมาถามเราว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือ Huawei ไหม?
เกือบทุกคนคงไม่รู้จักแบรนด์นี้
แต่ถ้าให้ถามคำถามนี้ ณ ตอนนี้
แบรนด์นี้อาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของใครหลายคน

ปิดท้ายด้วยคำพูดที่น่าสนใจของคุณ Ren Zhengfei

เขาเคยกล่าวขอบคุณบริษัท Apple ไว้ว่า..

“Apple เปลี่ยนโลกทั้งใบด้วยการนำโลกอินเทอร์เน็ตมาอยู่บนมือถือ
และมันกลายมาเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Huawei เติบโตได้จนถึงทุกวันนี้ พวกเรารู้สึกยินดีที่จะกล่าวขอบคุณ”

“แต่ตอนนี้เหมือนกับว่า Apple กำลังมั่นใจและเย่อหยิ่งต่อลูกค้าของพวกเขา
และสิ่งนี้ก็เป็นโอกาสอีกครั้งของ Huawei และผู้ผลิตมือถือในประเทศจีนที่จะก้าวข้ามบริษัทนี้ไปได้เช่นกัน”
----------------------
อ่านฝันร้ายกำลังมาเยือน Apple ได้ที่ https://www.blockdit.com/articles/5c2df21dd1719f164f61263f

ติดตามเรื่องราวบริษัทชั้นนำของโลก ได้ที่เพจลงทุนแมน ในแอปพลิเคชัน blockdit โหลดฟรี blockdit.com
----------------------

References
-IDC Quarterly Mobile Phone Tracker, 2018
-Technode, Ren Zhengfei Huawei Research Institute Japan, 2017
-Nationmaster GDP per Capita 1950, 2017
-Huawei Investment & Holding Co., Ltd. Annual Report 2017
-Forbes Billionaire List Real Time, 2018
-หนังสือ จากมด สู่ มังกร เขียนโดย หยางเช่าหลง สำนักพิมพ์ Amarin How-To, 2018