John W. Henry จากลูกเกษตรกร สู่เจ้าของทีมลิเวอร์พูล / โดย ลงทุนแมน

“ผมไม่เคยรู้จักทีมลิเวอร์พูลมาก่อนเลย”
คำพูดของ John W. Henry ผู้ที่ไม่เคยรู้จักฟุตบอลอังกฤษรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับสโมสรลิเวอร์พูลมาก่อน

แต่กลายเป็นว่าวันนี้เขาคือ เจ้าของทีมลิเวอร์พูล
รู้ไหมว่า ในอดีตนั้นเขาเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
แล้วทำไมเขาถึงมาเป็นเจ้าของทีมลิเวอร์พูลได้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

John W. Henry เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 1949 เป็นลูกของเกษตรกรปลูกถั่วเหลืองในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา

เขาเคยเรียนที่ University of California สาขาปรัชญาแต่ไม่จบ เนื่องจากชีวิตในช่วงนั้น เขามัวแต่สนใจในดนตรีมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ครอบครัวเขาทำอาชีพเกษตรกรรม ทำให้เขามีความรู้เกี่ยวกับสินค้าเกษตร เขาจึงเริ่มมาทำงานเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของข้าวโพด และถั่วเหลือง

แนวคิดและระบบการลงทุนของเขาตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Trend Following คือ การเข้าซื้อหรือขายสินทรัพย์ เมื่อราคาวิ่งไปพร้อมๆ กับแนวโน้มของตลาด ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยให้เขาสามารถประสบความสำเร็จพอสมควร

เขาเคยบอกว่า “ผมเชื่อว่าทั้งผมและคนจำนวนมากไม่สามารถคาดการณ์ตลาดได้ว่าจะไปทางไหน ดังนั้น การเพียงแค่ดูว่า แนวโน้มตลาดไปทางไหน แล้วทำตาม น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ดีกว่า”

หลังจากนั้น เขาเริ่มต่อยอดธุรกิจไปสู่การจัดตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ภายใต้บริษัท John W. Henry & Company ขึ้น โดยการรับเงินลงทุนจากบุคคลทั่วไปเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ

กองทุนหลักของเขาเริ่มลงทุนในปี 1984 จนถึงปี 2006 กองทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 25% หมายความว่า เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 บาท เมื่อเวลาผ่านไป 22 ปี จะกลายเป็น 135 บาท

เขาเคยบอกว่า ในโลกของการลงทุนนั้นวินัยและความอดทน มีความสำคัญกว่าความฉลาดและทักษะต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าการที่เขาเริ่มหันมาสนใจด้านกีฬามากขึ้นนั้นทำให้ผลงานในการบริหารกองทุนเริ่มลดลง จนทำให้กองทุนของเขาต้องปิดตัวลงและคืนเงินให้กับผู้ถือหน่วยไปในปี 2012

John W. Henry ชื่นชอบกีฬาหลายอย่างมากทั้ง เบสบอล, อเมริกันฟุตบอล และบาสเกตบอล ดังนั้น เขาจึงมีการสนับสนุนทีมกีฬาต่างๆ หลายทีมในสหรัฐอเมริกา

แต่การที่เขาเข้ามาเป็นเจ้าของทีมลิเวอร์พูลนั้นมาจากอีเมลเพียงฉบับเดียว ซึ่งถูกส่งจากมาแฟนฟุตบอลทีมลิเวอร์พูลรายหนึ่งไปให้ John W. Henry โดยมีเนื้อหาว่า “Please save my club” หรือ ช่วยมากอบกู้สโมสรเราด้วย”

ในช่วงปี 2010 สโมสรฟุตบอลในอังกฤษหลายแห่ง กำลังเจอวิกฤติทางการเงิน

แม้แต่ลิเวอร์พูลเอง ถ้าไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ จำนวน 14,000 ล้านบาท ได้ทัน โดยหนี้ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากสมัยที่จอร์จ จิลเลตต์และทอม ฮิกส์ ผู้ถือหุ้นเดิม ไปกู้เพื่อมาซื้อสโมสร

ตอนแรกที่เขาอ่านจดหมาย เขาบอกว่า เขาไม่รู้จักฟุตบอลอังกฤษและทีมลิเวอร์พูลเลย และได้ไปถามคู่หูของเขาคือ Tom Werner ซึ่งตอบกลับมาว่า “ถ้าเป็นชื่อทีมฟุตบอลนั้น สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอจะได้ยินมาบ้าง..”

แม้จะไม่รู้จักทีมลิเวอร์พูลมาก่อน แต่ทั้งคู่ก็มาพบกับผู้บริหารจาก Inner Circle Sports ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการให้คำแนะนำแก่นักธุรกิจเพื่อเข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ

พอ John W. Henry ได้ฟังผู้เชี่ยวชาญ เล่าถึงสถานการณ์ของทีมลิเวอร์พูล เขาเลยนึกถึงบอสตัน เรดซอกซ์ ทีมเบสบอลที่เขาไปซื้อมาเมื่อปี 2002

จุดเหมือนกันของ 2 ทีมนี้คือ เป็นทีมกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ก็ห่างเหินจากความสำเร็จมานานเช่นกัน..

John W. Henry มองดูและวิเคราะห์สถานการณ์ของสโมสรลิเวอร์พูลแล้ว ในปี 2010 เขาจึงตัดสินใจซื้อสโมสรลิเวอร์พูล

แต่ช่วงนั้น มีนักธุรกิจจากสิงคโปร์สนใจจะซื้อสโมสรด้วยเช่นกัน ทำให้เขาต้องเพิ่มเงินขึ้นไปถึง 18,000 ล้านบาท เพื่อที่จะได้สโมสรลิเวอร์พูลมาจากผู้ถือหุ้นเดิม

สุดท้ายสโมสรลิเวอร์พูลจึงมาอยู่ภายใต้ชื่อบริษัทที่บริหารงานอย่างเฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) ที่ John W. Henry และ Tom Werner เป็นเจ้าของ

แล้วตอนนี้ลิเวอร์พูลมีรายได้เท่าไร?
ปี 2016 รายได้ 13,244 ล้านบาท ขาดทุน 932 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 16,016 ล้านบาท กำไร 1,716 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2018 มูลค่าสโมสรลิเวอร์พูลอยู่ที่ 64,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2010 ที่ 27,127 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 37,000 ล้านบาท นับตั้งแต่เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป เข้ามาซื้อสโมสร

จะเห็นว่าการที่ John W. Henry ซื้อสโมสรได้ถูกกว่ามูลค่าสโมสร เนื่องจากช่วงที่เขาเสนอซื้อนั้นเป็นช่วงปลายปี 2010 ที่ลิเวอร์พูลกำลังใกล้จะล้มละลาย หรือ จะถูกธนาคารเข้าควบคุมสโมสรนั่นเอง

สำหรับ John W. Henry นั้นส่วนตัวเขามีทรัพย์สินประมาณ 85,000 ล้านบาท อาจจะไม่มากเท่าเจ้าของสโมสรฟุตบอลรายอื่นๆ

แต่ถ้ามองว่าชีวิตของเขา นั้นมาจากครอบครัวเกษตรกรธรรมดา ก็ต้องถือว่า เส้นทางของเขาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

มาจนถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าทีมลิเวอร์พูลมีศักยภาพที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ถึงจะแตกต่างอย่างไร จนถึงขณะนี้ทีมลิเวอร์พูลก็ยังไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ดี ก็ต้องคอยลุ้นว่าในปีนี้พวกเขาจะคว้าแชมป์ได้สำเร็จหรือไม่

สำหรับแฟนบอลทีมอื่นที่ตอนนี้กำลังตกต่ำ ลองเขียนจดหมายโดยมีเนื้อหาว่า “Please save my club” ไปให้เศรษฐีท่านอื่นดู ไม่แน่ว่าสุดท้าย อาจมีคนเข้ามาเปลี่ยนทีมเหมือนกรณีของลิเวอร์พูล ก็เป็นได้..
----------------------
สำหรับแฟนบอลที่ชอบอ่านบทความ blockdit มีหมวดหมู่ sport แล้ว ติดตามและโหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------

References
-https://en.wikipedia.org/wiki/John_W._Henry
-https://moneyweek.com/476965/the-worlds-greatest-investors-john-w-henry/
-http://www.liverpool.in.th/readnews.php?idnew=3448
-https://www.youtube.com/watch?v=Fne_vBvK8_8
-https://www.telegraph.co.uk/sport/football/teams/liverpool/5893918/Liverpool-and-the-350m-bank-loans-QandA.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Forbes%27_list_of_the_most_valuable_football_clubs
-https://www.theguardian.com/football/2011/oct/12/liverpool-john-henry-fenway