John Simplot เกษตรกรแสนล้าน รวยจาก ชิปกินได้ และกินไม่ได้

John Simplot เกษตรกรแสนล้าน รวยจาก ชิปกินได้ และกินไม่ได้

John Simplot เกษตรกรแสนล้าน รวยจาก ชิปกินได้ และกินไม่ได้ /โดย ลงทุนแมน
ชิป (Chip) คือ มันฝรั่ง ซึ่งเป็นขนมหรืออาหารว่างกินเล่นของคนทั่วโลก ที่แทบขาดไม่ได้
แต่ในอีกความหมายหนึ่งของ ชิป ก็คือ ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิด และก็ต้องยอมรับว่าโลกเองก็ขาดไม่ได้เช่นกัน

แม้ทั้ง 2 อย่างดูเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่คุณ John Simplot
เศรษฐีทรัพย์สินหลักแสนล้านบาท กลับร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของธุรกิจชิปกินได้ และกินไม่ได้ ไปพร้อมกัน
คุณ John Simplot คือใคร ?
ทำไมถึงทำธุรกิจชิปกินได้ (มันฝรั่ง) และกินไม่ได้ (ชิปเซมิคอนดักเตอร์) ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
คุณ John Simplot เกิดที่เมือง Dubuque รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1909 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ของไทย
ในวัยเด็กของเขา ดูจะไม่ลงรอยกับพ่อเท่าไร กระทั่งในวัย 14 ปี เขาได้ทะเลาะกับพ่ออย่างหนัก จนถึงขั้นลาออกจากโรงเรียน และเดินทางออกจากบ้านไปคนเดียว
แต่ก่อนที่จะออกมา แม่ของเขาก็ให้เงินติดตัวไว้ใช้ 20 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าตีเป็นเงินบาทในปัจจุบัน ก็จะอยู่ที่ราว ๆ 13,000 บาท
ซึ่งคุณ Simplot นำเงินตรงนี้ ไปลงทุนซื้อตราสารแทนเงิน จากครูแถวบ้าน
เพราะในสมัยก่อน ครูอเมริกันจะไม่ได้รับเงินเดือน แต่จะได้รับเป็นตราสารที่เอาไปใช้จ่ายได้ ซึ่งเมื่อคุณ Simplot ซื้อแล้ว ก็ไปขายให้ธนาคารต่อ
การทำแบบนี้ ทำให้เขาได้กำไรมาก้อนหนึ่ง จากนั้นก็เอาไปซื้อปืน รถบรรทุกเก่า ๆ และหมู เพื่อหารายได้เสริมเข้ามาเพิ่ม
แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเขาอีกครั้ง เพราะราคาอาหารสัตว์ในตอนนั้นแพงขึ้น ทำให้คุณ Simplot ต้องหาวิธีลดต้นทุนอาหารสัตว์ของตัวเอง
จนในที่สุด เขาตัดสินใจเอาปืนไปยิงม้าป่า เพื่อนำมาเป็นอาหารสัตว์ผสมกับมันฝรั่ง ซึ่งช่วยลดต้นทุนมหาศาล และขายได้มากกว่า 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ
จากเงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐที่แม่ให้มา ภายใน 6 ปี
เงินตรงนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นถึง 350 เท่า
การลงทุนที่ผ่านมา ทำให้คุณ Simplot มั่นใจในตัวเองมากขึ้น เลยตัดสินใจทำฟาร์มมันฝรั่งในปี 1929
อย่างไรก็ตาม การทำฟาร์มมันฝรั่งก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ก็ได้เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเขา
เพราะในตอนนั้น ทางกองทัพสหรัฐฯ ต้องการอาหารแห้งที่กินได้ง่าย ซึ่งคุณ Simplot กลายเป็นเจ้าของธุรกิจที่ส่งหัวหอมแห้งกับมันฝรั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ตลอดสงคราม
ซึ่งคำสั่งซื้อที่มหาศาลขนาดนี้ ทำให้คุณ Simplot มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเขาตัดสินใจตั้งบริษัท J.R. Simplot เพื่อจัดการธุรกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น
แต่ความสำเร็จที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าทุกอย่างจะสำเร็จเสมอไป เพราะในปี 1953 คุณ Simplot ตัดสินใจทำมันฝรั่งแช่แข็งออกมา แต่มันกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า
แม้ตอนนั้น ตู้เย็นและอุปกรณ์เครื่องครัวในบ้านจะขายดีทุกบ้านเรื่อย ๆ แต่การทอดมันฝรั่งแช่แข็ง ก็ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะคนรู้สึกว่าปรุงยากมากเกินไป
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ทำให้คุณ Simplot ต้องหาลูกค้าหน้าใหม่ จนในที่สุดก็ไปเจอกับคุณ Ray Kroc เจ้าของ McDonald’s ที่กำลังหามันฝรั่งแช่แข็งให้ธุรกิจ
เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น มันฝรั่งพันธุ์ Russet ที่ไว้ทำเฟรนช์ฟรายส์จะขาดตลาด 3 เดือนในช่วงหน้าร้อนของทุกปี
ซึ่งคุณ Simplot สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ให้กับ McDonald’s ได้ เพราะมีเทคนิคการแช่แข็งมันฝรั่ง
ที่สามารถทำได้เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของโลก
และดีลที่เกิดขึ้นกับ McDonald’s ก็ทำให้คุณ Simplot เป็นเกษตรกรที่รวยมากขึ้น จนกลายเป็นเศรษฐีร้อยล้าน
ผู้มั่งคั่งในรัฐไอโอวา ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา
แต่ถ้าถามว่า มันฝรั่งอย่างเดียว ทำให้ความร่ำรวยของคุณ Simplot ถึงแสนล้านได้เหรอ ?
คำตอบคือ ไม่

เพราะในอีก 7 ปีถัดมา คุณ Ward Parkinson, คุณ Joe Parkinson, คุณ Dennis Wilson และคุณ Doug Pitman กลุ่มเด็กหนุ่มในเมืองไอโอวา เดินมาขอเงินทุนกับเขา เพื่อไปเริ่มธุรกิจใหม่
ซึ่งธุรกิจที่ว่านั้น มีชื่อว่า Micron Technology โดยมีโมเดลธุรกิจคือ รับจ้างผลิตชิปหน่วยความจำ แข่งกับบริษัทญี่ปุ่น ที่กำลังครองตลาดอยู่ในช่วงนั้น
คุณ Simplot เอง ก็ไม่รอช้าที่จะให้ทุนไป 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1980 แลกกับหุ้นส่วน 40% แม้ยังไม่รู้ว่า อนาคต Micron Technology จะแข่งขันในตลาดได้ดีแค่ไหน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินลงทุนตรงนี้ ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 1995 เงินก้อนนั้นกลายเป็นเงินมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
หากคิดปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ในปี 1980 เงินลงทุนตรงนั้นคิดเป็น 140 ล้านบาท
ส่วนในปี 1995 มูลค่าการลงทุน เพิ่มเป็น 30,293 ล้านบาท
เท่ากับว่า ภายใน 15 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนใน Micron Technology เพิ่มขึ้นถึง 215 เท่า
ที่ราคาหุ้น Micron Technology ปรับตัวเพิ่มจนมีมูลค่ามากขนาดนี้ เป็นเพราะว่า Micron Technology กำลังทำชิปหน่วยความจำและบริการจัดเก็บข้อมูล
ซึ่งแทบทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำเป็นต้องใช้
ไล่ตั้งแต่รถยนต์ สมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์
ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่ามากถึง 5.5 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 1996 คุณ Simplot ก็ทยอยขายหุ้นใน Micron Technology ออกไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้ก็ไม่ปรากฏว่ายังถือหุ้นอยู่ไหม
โดยคุณ Simplot เสียชีวิตไปแล้วในปี 2008 ตอนอายุ 99 ปี ปิดฉากตำนานเกษตรกรแสนล้าน
ที่รวยจากชิปกินได้และกินไม่ได้ ไปพร้อมกัน
มีการประเมินว่า มูลค่าความมั่งคั่งของเขา
มากถึง 136,293 ล้านบาท ในปีที่เสียชีวิต
ถึงตรงนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าคุณ Simplot เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 20 ดอลลาร์สหรัฐ จากแม่ของเขา โดยต่อยอดเงินไปลงทุนทำธุรกิจเรื่อย ๆ ก่อนจะรวยขึ้นมาหลักแสนล้านได้
แม้เขาจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่สิ่งที่เขาทำ ก็ยังอยู่ตลอดไป ทั้งนวัตกรรมมันฝรั่งแช่แข็ง เจ้าแรกของโลก และชิปหน่วยความจำ ที่ทุกคนใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน
เรื่องนี้ก็คงสะท้อนได้ดีว่า ถ้าเราตายไป ผู้คนไม่ได้จดจำว่าเรารวยแค่ไหน หรือมีเงินมากมายเท่าไร
แต่คนจะจดจำว่า เราทำอะไรที่มีประโยชน์ให้กับโลก ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่า..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon