กรณีศึกษา NVIDIA มูลค่าหาย 2 ล้านล้าน ใน 2 เดือน / โดย ลงทุนแมน

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้
หุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาได้ถูกเทขายอย่างหนัก..

Facebook -7.8%
Apple -9.5%
Amazon -9.8%
Netflix -11.0%

ซึ่งเรื่องดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้น NASDAQ ทรุดตัวลงมาแล้วกว่า 5% ใน 5 วัน..

แต่บริษัทที่น่าสนใจสุดในช่วงนี้น่าจะหนีไม่พ้น Nvidia (NVDA) ที่ราคาหุ้นร่วงลงมากกว่าใครเพื่อน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ลงไปกว่า 20%

มันเกิดอะไรขึ้น?

โดยคร่าวๆ แล้ว Nvidia ทำธุรกิจหลักคือ การผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ GPUs สำหรับคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากสุดในโลกสูงถึง 70.6% ในปี 2017

ภาพรวมของผลประกอบการบริษัท Nvidia เป็นอย่างไร?

ปี 2015 รายได้ 164,580 ล้านบาท กำไร 20,170 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 227,000 ล้านบาท กำไร 54,728 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 319,000 ล้านบาท กำไร 100,094 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าบริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ปี 2016 รายได้เติบโต 38% กำไรเติบโต 171%
ปี 2017 รายได้เติบโต 41% กำไรเติบโต 83%

อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัท Nvidia มีสัดส่วนที่น่าสนใจ..

ปี 2015 รายได้มาจากการ์ดจอ 56.2% ธุรกิจ Data Center 6.7%
ปี 2016 รายได้มาจากการ์ดจอ 58.8% ธุรกิจ Data Center 12.0%
ปี 2017 รายได้มาจากการ์ดจอ 56.8% ธุรกิจ Data Center 19.8%

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า บริษัทยังคงมีธุรกิจหลักคือสินค้าประเภทการ์ดจอ แต่เริ่มพัฒนาธุรกิจ Data Center ให้มีสัดส่วนรายได้ที่มากขึ้นเรื่อยๆ

ประกอบกับการเติบโตของรายได้ ทั้งหมดนี้หมายความว่าบริษัท Nvidia กำลังไปได้ดี

ธุรกิจ Data Center คืออะไร?

Nvidia ต่อยอด และพัฒนาสินค้า GPUs โดยเน้นเรื่อง Deep Learning

โดย GPUs ประเภทนี้ถูกจัดอยู่ในหมวด Data Center ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายรายนำมาใช้งาน เช่น Amazon, Oracle Cloud, Tencent Cloud

สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ มูลค่าของบริษัท Nvidia ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 5.6 ล้านล้านบาท ที่ราคา 292.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

แต่ ณ ตอนนี้ราคาหุ้นเหลือเพียง 149 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง..

ราคาหุ้น Nvidia ตกลงอย่างหนักเนื่องมาจากความผิดหวังของนักลงทุน

ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 มีอะไรให้ผิดหวัง?

ไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้ 86,582 ล้านบาท กำไร 27,528 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 ปี 2018 รายได้ 104,496 ล้านบาท กำไร 40,406 ล้านบาท

ผลประกอบการรายไตรมาสบอกเราว่า บริษัทยังมีการเติบโต แต่มันยังดีไม่พอกับความคาดหวังของทุกคนก่อนหน้านี้

เรามีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง คงไม่ได้ซื้อการ์ดจอ 10 อัน
บริษัทที่ต้องใช้การ์ดจอระดับสูง ก็คงไม่ได้เปลี่ยนการ์ดจอทุกปี

นอกจากนี้ ความต้องการของการ์ดจอกำลังแปรผันตามตลาด Cryptocurrency ที่กำลังย่อตัวลงอย่างหนัก โดยราคาตกลงแล้วกว่า 74% จากต้นปี

กลายเป็นว่าตอนนี้ Nvidia กำลังเจอมรสุมทั้งจากยอดขายที่อาจตกลงจากความต้องการที่น้อยลง และความผิดหวังของนักลงทุน

เรื่องนี้จึงสะท้อนกลับไปที่ราคาหุ้นที่ทุกคนเคยหวังไว้ว่า ธุรกิจการ์ดจอกำลังจะเติบโตตามความต้องการทั้งในเรื่องการใช้ส่วนบุคคล และสกุลเงินดิจิทัล แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบที่คาด

ปัจจุบัน Nvidia มูลค่าบริษัทหายไปประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 2 เท่าของบริษัท ปตท. บริษัทที่ใหญ่สุดของประเทศไทย

และเรื่องของ Nvidia น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่ดีกับอีกหลายบริษัทที่กำลังเติบโต และมีความคาดหวังจากนักลงทุนระดับสูง

จริงๆ แล้ว ความคาดหวังเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันจะสามารถขับเคลื่อนทั้งตัวธุรกิจและนักลงทุนไปด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม..

ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร
ถ้ามันไม่เป็นไปตามคาด
เราก็จะผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น..
----------------------
ยิ่งอ่านมาก ความรู้ก็ยิ่งมาก ติดตามเรื่องน่ารู้อื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------