ผู้สนับสนุน.. K PLUS เปลี่ยนเพื่อเป็นมากกว่าแอปการเงิน
ผู้สนับสนุน..
K PLUS เปลี่ยนเพื่อเป็นมากกว่าแอปการเงิน / โดย ลงทุนแมน
เมื่อคนเราคุ้นเคยกับอะไรแล้วมักจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
และยิ่งชินกับสิ่งนั้นนานเท่าไหร่ การเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากขึ้นเท่านั้น
K PLUS เปลี่ยนเพื่อเป็นมากกว่าแอปการเงิน / โดย ลงทุนแมน
เมื่อคนเราคุ้นเคยกับอะไรแล้วมักจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
และยิ่งชินกับสิ่งนั้นนานเท่าไหร่ การเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุให้หลายๆธุรกิจ ไม่สามารถอยู่รอดได้เมื่อเวลาผ่านไป..
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นธนาคารกสิกรไทย เปิดแนวรุกมาโดยตลอด โดยเฉพาะแอป K PLUS ที่เป็นตัวเต็ง และมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ไปต่อได้ โดยเฉพาะกับยุค Digital Disruption แบบนี้
ล่าสุดที่เป็นข่าวใหญ่คือ การเปลี่ยนแอปพลิเคชัน K PLUS ใหม่ทั้งหมด มีทั้งหน้าตาใหม่และคุณสมบัติใหม่ที่ล้ำด้วยเทคโนโลยี AI หรือ KADE เป็นจุดแข็ง
จริงๆ แล้ว K PLUS ก็ถือเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชัน Mobile Banking ที่มีผู้ใช้มากที่สุดอยู่แล้ว
แต่ทำไมธนาคารถึงเลือกที่จะเปลี่ยนแปลง? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แต่ทำไมธนาคารถึงเลือกที่จะเปลี่ยนแปลง? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือ โลโก้ และหน้าตาใหม่ทั้งหมด
โดยปรับจากตัว ‘K’ ลายเส้นพู่กันจีนที่ใช้มาเป็นเวลานานกว่า 70 ปี เป็นตัว ‘K’ ที่ดูทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น พร้อมดีไซน์ การจัดวาง และหน้าตา ที่เรียกว่าเปลี่ยนจากเดิมแบบไม่เหลือเค้า
ปัจจุบัน K PLUS มียอดผู้ใช้งาน 9.4 ล้านคน
ซึ่งเป้าหมายต่อไปของ K PLUS ไม่ใช่แค่การมียอดผู้ใช้งาน 10 ล้านหรือ 20 ล้านคน
แต่เป็น 100 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรทั้งไทยทั้งประเทศ..
แต่เป็น 100 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรทั้งไทยทั้งประเทศ..
แน่นอนว่าหากทำแค่การปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ดีขึ้น คงจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้
การออกแบบ K PLUS ใหม่จึงต้องใช้การคิดนอกกรอบ และกำหนดทิศทางของการพัฒนาใหม่ทั้งหมด
ซึ่งจุดยืนใหม่ของ K PLUS คือ การเป็น Open Platform
K PLUS จะไม่ใช่แค่เป็นแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคารกสิกรไทยที่ทำได้แต่ธุรกรรมการเงินพื้นฐาน แต่จะสามารถเชื่อมต่อกับพันธมิตรธุรกิจหลากหลายประเภททั่วโลกที่จะมารวมตัวกันบนแพลทฟอร์ม K PLUS ทำให้แอป K PLUS เป็น Lifestyle Platform เต็มรูปแบบ
โดยมีเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นพื้นฐานของระบบทั้งหมด และเรียกนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์นี้ว่า “เกด”
“เกด” (KADE: K PLUS AI-Driven Experience) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของ K PLUS ด้วยความสามารถในการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน และนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน หรือด้านไลฟ์สไตล์
แล้ว K PLUS ใหม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?
เริ่มต้นจากหน้าแรก ‘K PLUS Today’ ซึ่งเป็นหน้าที่นำเสนอข้อมูลที่เลือกมาแล้วสำหรับผู้ใช้แต่ละคน
K PLUS Today จะมีการแจ้งเตือนธุรกรรมทางการเงินที่ใช้ประจำ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา และยังแจ้งเตือนธุรกรรมต่างๆ ที่ทำผ่าน K PLUS เช่น Request to pay หรือ Play Plus เป็นต้น
นอกจากนั้น K PLUS ก็ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมายที่เน้นย้ำความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
Cardless Withdrawal เพิ่มความสะดวกให้กับการกดเงินโดยไม่ต้องพกบัตร โดยมีไฮไลท์คือ ใช้สมาร์ทโฟนสแกน QR Code บนตู้ ATM ของกสิกร เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
e-Slip รูปแบบใหม่ ที่เพิ่ม QR Code เป็นลายน้ำ สามารถใช้ปุ่ม scan ตรวจสอบว่าเป็น e-Slip ของจริงได้
K+ Market แหล่งรวมร้านค้าออนไลน์ มีสินค้าหรือบริการจากแบรนด์ดังๆ ให้เลือกซื้อ สามารถกดช้อปได้ทันที จ่ายได้ทั้งเงินสดผ่าน K PLUS หรือจะใช้แต้มสะสมของบัตรเครดิตกสิกรไทยแลกซื้อได้เหมือนกัน นี่คือจุดขายใหม่ที่น่าจะถูกใจขาช้อป และเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างของแอป K PLUS ที่ทำได้มากกว่าแอปทำธุรกรรมการเงินเท่านั้น
อีกหนึ่งฟังก์ชันที่เห็นการเชื่อมโยงกับพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ บนแพลทฟอร์ม K PLUS คือ ฟังก์ชันบัตรสมาชิก โดยคนที่ใช้งาน K PLUS สามารถเพิ่มบัตรสมาชิกที่ตัวเองถืออยู่เข้าใน K PLUS ได้เลย ทำให้เห็นยอดแต้มสะสม และอีกหน่อยกำลังเตรียมพัฒนาให้สามารถจ่ายเงิน แลกพ้อยท์ได้เลยทันที พันธมิตรรายยักษ์ที่เข้าร่วมแล้วคือ บัตร PTT Blue Card และ The 1 Card
โดยฟังก์ชันของ K PLUS ทั้งหมดสามารถใช้งานผ่าน Wi-fi ได้แล้วทุกที่ทุกเวลา
แต่นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ K PLUS ใหม่เท่านั้น
และทางธนาคารกสิกรไทยก็ได้เตรียมแผนสำหรับก้าวต่อไปของ K PLUS เรียบร้อยแล้ว
โดยเฉพาะกับ ‘เกด’ ที่จะถูกพัฒนาจนสามารถเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเราได้
โดยเฉพาะกับ ‘เกด’ ที่จะถูกพัฒนาจนสามารถเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเราได้
เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ได้บ้าง?
การมองไปข้างหน้าและไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีตเป็นเรื่องที่สำคัญ
มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก Jeff Bezos ได้ตั้งชื่อตึกสำนักงานของเขาว่า ‘Day 1’
เพื่อย้ำเตือนว่าสำหรับบริษัทของเขาแล้วทุกวันคือการเริ่มต้นใหม่เสมอ แม้ว่าปัจจุบัน Amazon จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก หากวัดจากมูลค่าตลาดของบริษัท
ทุกวันคือการเริ่มต้น..
ธนาคารกสิกรไทยเองก็เช่นกัน
ที่กำลังเริ่มต้นมุ่งสู่เป้าหมายใหม่
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ใช้งาน K PLUS 100 ล้านคนทั่วโลก..
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2P7avA9