รองเท้า Converse เกี่ยวอะไรกับ Nike? / โดย ลงทุนแมน

รู้หรือไม่ว่า..
รายได้รวมของตลาดสินค้ากีฬาทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 5.6 ล้านล้านบาท

โดยมีอันดับ 1 คือบริษัท Nike ที่มียอดขายกว่า 1.13 ล้านล้านบาท
ตามมาด้วยอันดับ 2 Adidas รายได้ 8.1 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี
โดยตั้งแต่เด็กจนโตหน้าตารองเท้าของมันไม่เคยเปลี่ยนไป

แบรนด์นั้นคือ Converse..

เรื่องราวของรองเท้าดาวห้าแฉกต้องย้อนกลับไป 110 ปีก่อน..

คุณ Marquis Mills Converse ในวัย 47 ปี ก่อตั้งร้านผลิตรองเท้าผ้าใบพื้นยาง Converse Rubber Shoe ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

แม้ว่าคุณ Converse จะมีประสบการณ์การจากการทำงานในโรงงานผลิตรองเท้าผ้าใบมาก่อน แต่ในช่วงแรก รองเท้าของบริษัท Converse Rubber Shoe กลับไม่เป็นที่นิยม..

อย่างไรก็ตาม คุณ Converse ตัดสินใจขยายธุรกิจเข้าสู่วงการรองเท้าบาสเกตบอล และการตัดสินใจครั้งนี้กลายเป็นที่มาของรองเท้ารุ่น Converse ALL-STAR

ต่อมา Charles Hollis “Chuck” Taylor นักบาสเกตบอล ทีม Akron Firestone ได้เข้ามาร่วมงานกับคุณ Converse และ เขาคนนี้กลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรองเท้าผ้าใบพื้นยาง

ซึ่งการเข้ามาของ Taylor กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Converse..

เขาไม่เพียงแต่นำเสนอไอเดียการเพิ่มประสิทธิภาพให้รองเท้าบาส แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงโลโก้ ALL-STAR ที่กลายมาเป็นภาพลักษณ์ของ Converse รุ่น Chuck Taylor ALL STAR

ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น ประกอบกับประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบรนด์อื่นในยุคนั้น รองเท้าของ Converse จึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาและทหารฝึกหัดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

รวมไปถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักนักบาสเกตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกาใน Olympic Games ระหว่างปี 1936 ถึง 1968

สิ่งเหล่านี้ ส่งผลให้แบรนด์ Converse ครองอุตสาหกรรมรองเท้าผ้าใบในสหรัฐฯกว่า 80% โดยนักบาสกว่า 90% เลือกรองเท้า Converse ALL-STAR สำหรับการแข่งขันอาชีพ

แปลว่า การแข่งขันบาสเกตบอลในสมัยนั้น 9 จาก 10 คนในสนามแข่งสวมรองเท้า Converse..

มากไปกว่านั้น Converse ยังเข้าซื้อกิจการอีกหลายแห่งโดย 1 ในนั้นคือบริษัทผลิตรองเท้าผ้าใบ PF Flyers ที่มีคุณ Jack Purcell แชมป์แบดมินตันโลก ชาวแคนาดา มาออกแบบรองเท้าให้

การรวมกิจการครั้งนั้น กลายเป็นต้นกำเนิดของ Converse Jack Purcell รองเท้าผ้าใบยอดนิยมอีกรุ่นที่มียอดขายถล่มทลายด้วยดีไซน์ รองเท้าหน้ายิ้มที่เป็นเอกลักษณ์

แต่เรื่องราวของ Converse กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ..

ไม่กี่ปีต่อมา ผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีเทคโนโลยีครบมืออย่าง Nike และ Adidas สามารถเข้ามากินส่วนแบ่งการตลาดของ Converse ประกอบกับการบริหารจัดการที่ผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งภายในบริษัท Converse Rubber Shoe

สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ Converse เกือบจะล้มละลาย

Converse จึงต้องยกเลิกสายการผลิตในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง และโยกย้ายฐานการผลิตหลักไปสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม

รวมถึง บริษัท ริช สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิจาก Converse Inc. ในการผลิตสินค้าประเภทรองเท้า และเสื้อผ้า

เรื่องนี้จึงทำให้รองเท้า Converse made in USA มีราคาพุ่งสูงมากในตลาดของสะสมในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยความเป็นของที่มีจำนวนจำกัด และจะไม่มีการผลิตอีกแล้วนั่นเอง

ต่อมา ในปี 2003 Nike ประกาศเข้าซื้อกิจการ Converse Rubber Shoe ด้วยมูลค่า 9,675 ล้านบาท โดยวางแผนโครงสร้าง และการตลาดขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อจะคืนชีพแบรนด์นี้อีกครั้ง

ในขณะนั้น Nike มีรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นเรือธง Jordan Brand เป็นสินค้าระดับพรีเมียม และมีราคาสูง

พอเรื่องเป็นแบบนี้ Nike จึงวางแผน และมีการปรับกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ Converse ให้มีราคาต่ำลงมา เพื่อจับตลาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลก

มากไปกว่านั้น Nike ยังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสมผสานเข้ากับแบรนด์ Converse เพื่อความสะดวกสบายของผู้สวมใส่ แต่ยังคงรูปทรง และดีไซน์เดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง..

หลังจากการเข้าซื้อกิจการ Converse ก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง

ปี 2003 Converse รายได้ 6,450 ล้านบาท
ปี 2010 Converse รายได้ 31,702 ล้านบาท
ปี 2017 Converse รายได้ 65,855 ล้านบาท

ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ของ Nike ส่งเสริมให้ Converse เติบโตขึ้นประกอบกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ Converse ที่แข็งแกร่ง..

หลายบริษัทให้ความสนใจกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
รวมถึงการออกแบบสินค้าตามแฟชั่นในแต่ละปีเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

แต่ในบางครั้ง การผลิตสินค้าอะไรก็ตามที่หน้าตาเหมือนเดิม แต่คลาสสิกเหมือน Converse ก็อาจขายดีได้ไม่แพ้ใครเช่นกัน

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

หากเราลงทุนซื้อหุ้น Nike 100,000 บาท ในวันที่ Nike เข้าซื้อกิจการ Converse Rubber Shoe เมื่อ 14 ปีก่อน

การลงทุนของเราจะมีมูลค่า 1,200,000 บาทในปัจจุบัน..
----------------------
ยังมีเรื่องราวของแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย ติดตามได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดเลย blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-6.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
References
-https://theidleman.com/manual/arrivals/brands/history-of-converse/
-http://www.chucksconnection.com/history1.html
-https://www.heddels.com/2018/04/converse-history-philosophy-and-iconic-products/
-https://www.fool.com/investing/2017/11/11/converse-is-a-drag-on-nike-stock-today-but-a-slam.aspx
-https://www.statista.com/statistics/241850/sales-of-nikes-non-nike-brands-2006-2010/
-https://www.fool.com/investing/2016/07/29/why-buying-converse-was-one-of-nike-incs-greatest.aspx
-https://www.thefashionisto.com/jack-purcell-sneakers-history/
-https://theidleman.com/manual/mens-trainers/converse-jack-purcell-trainer/
-https://www.complex.com/sneakers/2013/05/50-things-you-didnt-know-about-converse-chuck-taylor-all-stars/semi-pro
-https://www.statista.com/statistics/254489/total-revenue-of-the-global-sports-apparel-market/