ผู้สนับสนุน.. สรุป โอสถสภา กำลังจะเข้าตลาดหุ้น
ผู้สนับสนุน..
สรุป โอสถสภา กำลังจะเข้าตลาดหุ้น / โดย ลงทุนแมน
สรุป โอสถสภา กำลังจะเข้าตลาดหุ้น / โดย ลงทุนแมน
“โอสถสภา” เป็นบริษัทที่เก่าแก่บริษัทหนึ่งในประเทศไทย มีประวัติถึง 127 ปี
มีผลิตภัณฑ์ที่เราคุ้นตามากมาย
จนมาในตอนนี้
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
มีผลิตภัณฑ์ที่เราคุ้นตามากมาย
จนมาในตอนนี้
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
แล้วบริษัทฯ น่าสนใจแค่ไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
โอสถสภา เริ่มประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2434 โดยสมัยก่อนเป็นร้านขายยาที่มีชื่อว่า “เต๊กเฮงหยู”
ด้วยความเป็นมาของบริษัทฯ ยาวนานกว่า 127 ปี
จากร้านขายยาเล็กๆ ในตอนนั้น ก็ได้กลายมาเป็นโอสถสภาในตอนนี้
และอีกไม่นานก็กำลังจะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยความเป็นมาของบริษัทฯ ยาวนานกว่า 127 ปี
จากร้านขายยาเล็กๆ ในตอนนั้น ก็ได้กลายมาเป็นโอสถสภาในตอนนี้
และอีกไม่นานก็กำลังจะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เราลองมาทำความรู้จักกับธุรกิจของโอสถสภากัน
โอสถสภามีธุรกิจอะไรบ้าง?
โอสถสภามีธุรกิจอะไรบ้าง?
ธุรกิจหลักของโอสถสภา เป็นธุรกิจประเภทผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค
โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่
โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ กาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ (Functional Drinks)
กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง
และโอสถสภายังมีธุรกิจให้บริการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ลูกอมอีกด้วย
และโอสถสภายังมีธุรกิจให้บริการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ลูกอมอีกด้วย
ถ้าถามว่าจุดแข็งของโอสถสภาคืออะไร?
ก็คงตอบได้ว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่เรียกได้ว่าครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศไทย
โดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโอสถสภาเป็นที่รู้จักและถือว่าแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของหลายๆ คน
โดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโอสถสภาเป็นที่รู้จักและถือว่าแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของหลายๆ คน
แล้วยิ่งถ้าดูมูลค่าตลาดค้าปลีกในประเทศของแต่ละผลิตภัณฑ์ในปี 2560 ก็พบว่า
เอ็ม-150 เป็นผู้นำของตลาดค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ มีสัดส่วนสูงถึง 39% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทยในปี 2560 (จากรายงานของนีลเส็น)
เอ็ม-150 เป็นผู้นำของตลาดค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ มีสัดส่วนสูงถึง 39% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทยในปี 2560 (จากรายงานของนีลเส็น)
เครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะ เช่น ซี-วิต และเปปทีน มีสัดส่วนมูลค่าตลาดค้าปลีกคิดเป็นประมาณ 28.3% ของมูลค่าตลาดค้าปลีกของเครื่องดื่มที่มีการเติมส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะในประเทศสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 (จากรายงานของฟรอส์ท แอนด์ ซัลลิวัน)
โดย ณ งวดครึ่งปีแรกของปี 2561 ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของโอสถสภาไม่ได้มีวางจำหน่ายแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังต่างประเทศผ่านผู้จัดจำหน่าย รวมทั้งสิ้น 25 ประเทศทั่วโลก
โดยประเทศที่เป็นตลาดหลักของบริษัทฯ จะอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว
โดยประเทศที่เป็นตลาดหลักของบริษัทฯ จะอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว
และถึงแม้จะมีผลิตภัณฑ์และตราสินค้าที่แข็งแกร่ง แต่โอสถสภายังมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองฐานผู้บริโภคที่กว้างขึ้น และจับกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะได้ในขณะเดียวกัน
นอกจากนี้ โอสถสภายังมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์เฉลี่ยมากกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีความชำนาญทั้งในระดับท้องถิ่น และประสบการณ์การทำงานกับบริษัทข้ามชาติ
สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2561 สัดส่วนรายได้ของแต่ละธุรกิจ เป็นดังนี้
77.7% ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม
10.6% บริการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชน (ธุรกิจบริการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลบางประเภท OEM ซึ่งรวมถึงการจัดจำหน่ายขวดแก้ว, การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามสัญญากิจการร่วมค้า และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพื่อจำหน่ายให้กิจการร่วมค้า)
9.7% ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล
2.0% รายได้จากการขายสินค้าอื่นๆ และรายได้จากการให้บริการ
77.7% ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม
10.6% บริการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชน (ธุรกิจบริการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลบางประเภท OEM ซึ่งรวมถึงการจัดจำหน่ายขวดแก้ว, การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามสัญญากิจการร่วมค้า และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพื่อจำหน่ายให้กิจการร่วมค้า)
9.7% ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล
2.0% รายได้จากการขายสินค้าอื่นๆ และรายได้จากการให้บริการ
และในปีนี้ โอสถสภาวางแผนที่จะนำหุ้นเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้มีอยู่ 3 ข้อ คือ
โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้มีอยู่ 3 ข้อ คือ
วัตถุประสงค์ที่ 1
เงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง และจัดจำหน่าย ทั้งสินค้าและการดำเนินธุรกิจ โดยหลักคือ
การก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ในเมียนมาร์
การสร้างเตาหลอมแก้วใหม่ที่โรงงานผลิตขวดแก้ว
การก่อสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลประเภทแป้งแห่งใหม่
และโครงการอื่นๆ เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์
เงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง และจัดจำหน่าย ทั้งสินค้าและการดำเนินธุรกิจ โดยหลักคือ
การก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ในเมียนมาร์
การสร้างเตาหลอมแก้วใหม่ที่โรงงานผลิตขวดแก้ว
การก่อสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลประเภทแป้งแห่งใหม่
และโครงการอื่นๆ เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์
วัตถุประสงค์ที่ 2 ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
วัตถุประสงค์ที่ 3 เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
วัตถุประสงค์ที่ 3 เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
โดยโอสถสภาเชื่อว่าการที่ได้เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสามารถนำเงินไปพัฒนาทั้งด้านการผลิตและการขยายฐานการผลิต เพื่อพัฒนาข้อได้เปรียบของบริษัทฯ ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศ เพิ่มตัวเลือกในการลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และการตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศ เช่น ในเมียนมาร์ แทนการส่งออกสินค้าจากประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม เราคงต้องติดตามดูว่า
หลังจากที่หุ้นของโอสถสภาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะสามารถเติบโตไปในทิศทางใดต่อไป..
หลังจากที่หุ้นของโอสถสภาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วจะสามารถเติบโตไปในทิศทางใดต่อไป..
หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง