รู้จัก Successmore บริษัทที่ CEO มีแนวคิดบริหารนอกกรอบด้วยคำว่า HERO BRAND

รู้จัก Successmore บริษัทที่ CEO มีแนวคิดบริหารนอกกรอบด้วยคำว่า HERO BRAND

16 มิ.ย. 2023
รู้จัก Successmore บริษัทที่ CEO มีแนวคิดบริหารนอกกรอบด้วยคำว่า HERO BRAND
Successmore X ลงทุนแมน
“ตอนที่ผมกับนายแพทย์สิทธวีร์ ก่อตั้งบริษัท Successmore เรามีเป้าหมายเดียวกัน คือสร้างธุรกิจที่เป็น HERO คอยสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น”
คุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิงค์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงเป้าหมายในการก่อตั้งบริษัทร่วมกับนายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ที่ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท
เวลาผ่านไปเพียงแค่ 10 ปีนับตั้งแต่วันก่อตั้งบริษัทจนมาถึงวันนี้
Successmore กลายเป็นเพียงบริษัทเดียวในธุรกิจขายตรงที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย และมีรายได้ปีละกว่า 1,200 ล้านบาท มีตัวแทนขายกว่า 1.5 แสนคน
อะไรที่ทำให้ Successmore ยืนหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ คุณนพกฤษฏิ์บอกว่า ความสำเร็จตรงนี้มาจากแนวคิด HERO BRAND ที่เวลานี้ เขานำมาปรับแต่งเป็นแนวคิดขับเคลื่อนบริษัทให้ยั่งยืน
แนวคิด HERO BRAND คืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณนพกฤษฏิ์ เล่าให้ฟังต่อว่า ช่วงเริ่มต้นธุรกิจของบริษัท เขาต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา
ทั้งการเป็นบริษัทใหม่ ไม่มีแรงดึงดูดให้คนมาสมัครเป็นตัวแทนขาย โดยเฉพาะคนเก่ง ๆ จนถึงการขาดเงินทุนในการขับเคลื่อนธุรกิจ
แต่ด้วยความเข้าใจถึง แก่นแท้ของธุรกิจขายตรง
“หากเราช่วยคนอื่นสำเร็จ.. เราก็จะสำเร็จไปด้วยกัน”
ทำให้คุณนพกฤษฏิ์ ทุ่มเทและพัฒนาตัวแทนขายกลุ่มแรกให้ประสบความสำเร็จด้านยอดขาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นเสมือนการสร้าง “ฮีโรต้นแบบ” ที่ทำให้บริษัทไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย เพราะเมื่อคนทั่วไปมองเห็นตัวแทนขายซัคเซสมอร์ มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี ก็เป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดให้เกิดตัวแทนหน้าใหม่ขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนขายในประเทศ 1.2 แสนคน และในต่างประเทศ 3 หมื่นคน
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในโลกของธุรกิจคือ สินค้า เพราะต่อให้ตัวแทนขายเก่งขนาดไหน แต่หากสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ก็เป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ
รู้หรือไม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ก่อนจะออกสู่ตลาดต้องผ่านขั้นตอนมากมาย
เริ่มตั้งแต่ทีมการตลาด ที่จะทำการค้นหาความต้องการของผู้บริโภค พร้อมกับวิเคราะห์ช่องว่างในตลาดและโอกาสทางธุรกิจ เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนตามที่ต้องการ ก็จะถึงแผนก Product Development ที่จะระดมไอเดียสร้างสินค้า เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค และออกแบบส่วนผสมของสินค้า
จากนั้น ก็จะมีทีมงาน R&D ทดลองปรุงแต่งส่วนผสมสินค้า Test อยู่หลายรอบ อย่างผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก็จะมีการทดสอบรสชาติ และคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจถึงคุณภาพสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
โดยคุณนพกฤษฏิ์บอกว่า วิธีนี้ก็คือการสร้าง HERO Product
ขณะเดียวกัน การพยายามผลักดันให้ Successmore เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จในปี 2019 เป็นเหมือนวิธีสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ Ecosystem ทุกส่วนของบริษัท เช่น คุณภาพสินค้าและตัวแทนขาย ไปจนถึง Brand Image ของบริษัท เลยทำให้ทุก ๆ ครั้งเมื่อ Successmore เปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ จะสร้างยอดขายได้เกินคาดผ่านตัวแทนขายทั่วประเทศ อย่างล่าสุดมีเปิดตัว Body Cheer Body Soap (บอดี้เชียร์ บอดี้โซป) สบู่ทำความสะอาดผิวกาย ได้รับกระแสดีเกินคาดตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพราะใช้แล้วช่วยลดกลิ่นเหงื่อ ยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส
นอกจากนี้ยังมีการใช้ Presenter อย่าง คุณมาริโอ้ เมาเร่อ
ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่มีการใช้ Presenter ให้แก่สินค้า ผลิตภัณฑ์ S.O.D MORE (เอส.โอ.ดี มอร์) เครื่องดื่มสุขภาพระดับพรีเมียม มีส่วนผสมของผลไม้กว่า 100 ชนิด นอกจากจะมีรสชาติอร่อย ตอบโจทย์สุขภาพแล้ว ยังกำลังสร้างยอดขายได้ดีอีกด้วย
สำหรับเหตุผลของการเลือกคุณมาริโอ้ คุณนพกฤษฏิ์ เปิดเผยว่า เพราะเป็นดาราที่มีความสดใส มีสุขภาพดีและที่สำคัญ มีภาพลักษณ์ที่ดี ไม่มีข่าวเสื่อมเสีย
และไม่ใช่แค่การสร้าง HERO เฉพาะตัวแทนขายหรือเฉพาะสินค้าเท่านั้น แต่ตัว CEO เองก็ต้องเป็น HERO ให้แก่คนทั่วไป และตัวแทนขายของบริษัททั่วประเทศ
ใครจะคิดว่าคุณนพกฤษฏิ์ จะเป็น CEO ที่ชอบการใช้ Social Media
โดยใน Facebook จะมีเพจ CEO Noppakrit มีผู้ติดตาม 3 แสนกว่าคน ส่วนใน TikTok มีผู้ติดตาม 2 แสนกว่าคน
“ไม่เคยคิดว่าตัวเรา ตำแหน่งสูงขนาดนี้ อายุเยอะขนาดนี้ หากมาเล่น Social Media แล้วต้องอายเด็กรุ่นใหม่ เพราะเราคิดแต่ว่าเป็นการให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น โดยเฉพาะตัวแทนขายบริษัท”
เมื่อตัวแทนขายเห็น CEO บริษัทใช้ Social Media ในการสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกับสอน Mindset การใช้ชีวิตและการทำงาน ทำให้ทางตัวแทนขายเอง นอกจากนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาตัวเองแล้วนั้น ก็ยังเดินตามรอย CEO บริษัท ด้วยการใช้ Social Media เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จนถึงการขายสินค้า
จะเห็นได้ว่าทุก Ecosystem จนถึง CEO ของบริษัท ใช้แนวคิด HERO BRAND เพียงแต่ที่ผ่านมา อาจไม่ได้เข้มข้นมากนัก ทำให้ล่าสุดคุณนพกฤษฏิ์ ตัดสินใจใช้แนวคิดนี้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน ซัคเซสมอร์
คำถามคือ ใครที่จะได้ประโยชน์จากแนวคิดนี้ ?
คุณนพกฤษฏิ์ บอกว่าน่าจะมีถึง 4 ฝ่าย
1. บริษัท
เพราะเมื่อวางตัวเองเป็น HERO คอยช่วยเหลือ ดูแล และให้คำปรึกษาตัวแทนขายและพนักงาน ในระยะยาวก็จะนำมาซึ่งรายได้เติบโตต่อเนื่องทั้งบริษัทและตัวแทนขาย
2. ตัวแทนขาย
เมื่อเชื่อมั่นในแนวคิด HERO ที่ต้อง “ช่วยคนอื่นให้สำเร็จ...ตัวเราก็จะสำเร็จตาม” ตัวแทนขายก็จะถ่ายทอดแนวคิดนี้ให้แก่คนในเครือข่ายของตัวเองไปจนถึงลูกค้า
3. ผู้บริโภค
การสวมบทบาท HERO ของคนในบริษัทคือ การส่งมอบสินค้าและบริการดี ๆ ให้แก่ลูกค้าคนไทยทั่วประเทศ
4. สังคม
ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมกว่า 1.5 แสนคน และยังทำโครงการ CSR ในแต่ละปี เพื่อแบ่งปันคืนสังคมอีกด้วย
ปัจจุบันรายได้ของบริษัทราว 1,200 ล้านบาท มาจากตัวแทนขายกว่า 90%
แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 40%, ผลิตภัณฑ์เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร 40% และธุรกิจอื่น ๆ 20%
สำหรับอนาคตอันใกล้คุณนพกฤษฏิ์ บอกว่ามีแผนขยายไปยังธุรกิจอื่น ๆ
เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร
ตรงนี้เองที่ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของการเป็น HERO BRAND อีกอย่าง ที่ต้องคอยเคลื่อนไหวสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ และปรากฏการณ์ใหม่ ๆ เพื่อโอกาสในการเติบโตอยู่ตลอดเวลา
เป้าหมายก็เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ใน Ecosystem มีความสุข..
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.successmore.com
หรือที่ LINE OA: https://lin.ee/c8TcJM0

Reference
-สัมภาษณ์โดยตรงกับคุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.