BEAUTY หุ้น 17 เด้ง

BEAUTY หุ้น 17 เด้ง

18 ส.ค. 2017
BEAUTY ราคา IPO เมื่อ 5 ปีที่แล้วคือ 8 บาท
ตอนนั้นบริษัทมี 300 ล้านหุ้น แปลว่ามูลค่าบริษัท ณ ตอนนั้นคือ 2,400 ล้านบาท
5 ปีผ่านไป..
ตอนนี้ (17 สค 60) บริษัทนี้มีมูลค่าบริษัท 42,038 ล้านบาท หรือขึ้นมาจากราคา IPO 17.5 เท่า
แปลว่าใครได้ IPO หุ้นตัวนี้ 1 ล้านบาท
5 ปีผ่านไป..
เขาคนนั้นจะมีเงิน 17.5 ล้านบาท
แต่หลายคนคงบอกว่าเส้นไม่ใหญ่ ไม่เคยได้หุ้น IPO มีแต่รายใหญ่ที่ได้
BEAUTY วันแรกเปิดเทรดที่ราคา 19.0 และปิดที่ 16.1
ต่อให้เราซื้อ ณ ราคาเปิดที่ 19.0 บาท ตอนนี้เราก็จะได้กำไร 7 เท่าอยู่ดี (ราคาวันแรกหลังแตกพาร์คือ 1.9)
ผลตอบแทน 600% ใน 5 ปี ก็ยังถือว่าเป็นกำไรที่มหัศจรรย์อยู่ดี
บริษัท BEAUTY ทำอะไร ทำไมหุ้นราคาขึ้นเยอะ?
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY มีธุรกิจหลักของบริษัทคือ การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อย่าง เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเส้นผม และอุปกรณ์เสริม โดยมีการนำเสนอและจัดจำหน่ายภายใต้แนวคิด 5 รูปแบบ Beauty Buffet, Beauty Cottage, Beauty Market, Made in Nature, และ Girly Girl
BEAUTY ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ออกมา ยังแสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย มีรายได้เพิ่มขึ้น 51% และกำไรเพิ่มขึ้น 97% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ในภาวะที่เศรษฐกิจประเทศไทยดูเหมือนตันๆ ทำไม BEAUTY กำไรโตระเบิด?
บริษัทได้ให้เหตุผลไว้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในปีนี้นั้น นอกเหนือจากจำนวนสาขาที่เปิดเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วจำนวน 16 สาขา โดยเป็นสาขาที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ 2 สาขา ยังมีการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) โดยในไตรมาสที่ 2 เฉลี่ยอยู่ที่ 20.84% และเฉลี่ยครึ่งปีแรก 17.62%
ในปัจจุบันสาขาในต่างประเทศ แบ่งเป็นแบบ Independent Shop ในประเทศกัมพูชา 6 สาขา เวียดนาม 29 สาขา ลาว 1 สาขา และพม่า 1 สาขา แบบ Shop in Shop ในประเทศอินโดนีเซีย 19 สาขา ฮ่องกง 100 สาขา และไต้หวัน 19 สาขา
ดูเหมือนว่าสินค้าของบริษัทนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนต่างประเทศ
สินค้าขายดีของ BEAUTY ที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลตอนนี้ คือ ลิปสติก No.9 ของ Beauty Cottage ได้รับการขนานนามว่าเป็น ลิปในตำนาน และ หาซื้อยากเพราะขายดีมากจนขาดตลาด ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวจีนที่มาซื้อ ซื้อยกล็อต
เมื่อย้อนไปดูรายได้ในอดีต ก่อนเข้า IPO ปี 2554 BEAUTY มีรายได้ 615 ล้านบาท และกำไร 134 ล้านบาท หลังจากนั้น BEAUTY ก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% ทุกปีนับตั้งแต่จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน
และกำไรก็เพิ่มขึ้นตามรายได้ โดยกำไรในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 ก็ปาเข้าไป 473 ล้านบาท แล้ว (เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 76%)
แล้วเครื่องสำอางมีอัตรากำไรสุทธิดีแค่ไหน?
ล่าสุด (งวดครึ่งปี 2560) บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 30% ของรายได้ ต้นทุนขาย (COGS) คิดเป็นประมาณ 31% และมีค่าใช้จ่ายรวม (SG&A) อีกประมาณ 31%
สรุปง่ายๆคือ สินค้า 100 บาท ต้นทุน 31 บาท ค่าใช้จ่าย 31 บาท กำไร 30 บาท
อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 30% ถือว่าดีมาก BEAUTY น่าจะเป็น 1 ในบริษัทที่กำไรต่อยอดขายสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แล้ว BEAUTY เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับบริษัทอย่าง มิสทีน และ โอเรียนทอล พริ้นเซส ?
สำหรับผลประกอบการปี 2559
บิวตี้ คอมมูนิตี้ มีรายได้รวม 2,559 ล้านบาท เป็นกำไร 656 ล้านบาท (NPM 25.6%) รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42.8%
มิสทีน มีรายได้รวม 10,140 ล้านบาท เป็นกำไร 1,254 ล้านบาท (NPM 12.4%) รายได้ลดลงจากปีก่อน 2.9%
โอเรียนทอล พริ้นเซส มีรายได้รวม 2,553 ล้านบาท เป็นกำไร 181 ล้านบาท (NPM 7.1%) รายได้ลดลงจากปีก่อน 2.1%
สรุปแล้วคนอาจจะเข้าใจผิดว่าธุรกิจเครื่องสำอางกำลังรุ่ง
แต่จริงๆแล้วถ้าดูตัวเลขของคู่แข่งในธุรกิจนี้ก็จะพบว่าไม่ได้เป็นที่อุตสาหกรรม
แต่น่าจะเป็นที่ตัว BEAUTY เองที่ทำได้ดีกว่าคนอื่น..
บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ถึงแม้ว่าหุ้นจะดีก็มีความเสี่ยงหลายด้าน เช่น ราคาหุ้นแพงไปหรือไม่? ความนิยมจะเสื่อมลงในอนาคตหรือไม่? ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนลงทุน
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.