MINT ทำกำไร 7,750 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากก่อตั้งบริษัท

MINT ทำกำไร 7,750 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากก่อตั้งบริษัท

MINT X ลงทุนแมน
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลังจาก MINT หรือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการปี 2567 ทำให้ราคาหุ้น +1.85% ในทันที
เหตุผลน่าจะมาจากผลประกอบการปี 2567 MINT ได้สร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (กำไรที่ไม่นับรวมรายการพิเศษ)
โดยมีกำไร 7,750 ล้านบาท เติบโต 43% จากปีก่อน และมีสถานะทางการเงินแข็งแกร่งมาต่อยอดขยายอาณาจักรธุรกิจต่อไปในอนาคต
อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ MINT สร้างกำไรระดับ All Time High ได้ในปีนี้ ?
แล้วแผนขยายธุรกิจในปีนี้ที่ MINT จะสร้างผลประกอบการในอนาคต มีอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าสังเกตโครงสร้างรายได้ MINT โดยเริ่มจาก ธุรกิจโรงแรม
ธุรกิจที่ MINT เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่แถวหน้าของโลก ที่มีโรงแรมบริหารอยู่ในมือ 81,344 ห้อง ผ่านโรงแรม 562 แห่งใน 58 ประเทศทั่วโลก ทั้งรูปแบบ เป็นเจ้าของโรงแรมเอง, ร่วมลงทุน และ รับดูแลบริหารจัดการ
ทำให้ธุรกิจโรงแรมมีสัดส่วน 81% จากรายได้ทั้งหมด เสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการสูบฉีดความแข็งแกร่งและการเติบโตให้แก่บริษัท
หากเจาะลึกงบการเงินในธุรกิจโรงแรม
ปี 2567 MINT มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเติบโต 9% จากปีก่อน และเติบโตถึง 40% เมื่อเทียบกับปี 2562
หากนับเฉพาะธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย MINT มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนสูงขึ้น 17% จากปีก่อน
เหตุผลหลัก ๆ คือภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกในปีที่ผ่านมา เติบโต ทั้งเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ
ประกอบกับ MINT มีโรงแรมครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านโรงแรมชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบในบรรยากาศ, บริการต่าง ๆ ที่ประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น Anantara, Avani, Tivoli, NH, NH Collection เป็นต้น
ตรงนี้เองที่ทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ น่าสนใจ และในปีที่ผ่านมา MINT เปิดตัวโรงแรมใหม่ถึง 30 แห่ง ห้องพักรวม 3,000 ห้อง
ขณะเดียวกัน ธุรกิจร้านอาหารที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกับ MINT ผ่านแบรนด์ The Pizza Company, Bonchon, Swensen's, Sizzler, Dairy Queen, Burger King, The Coffee Club และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยปัจจุบันธุรกิจอาหารคิดเป็น 19% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือธุรกิจร้านอาหารของ MINT ไม่ได้อยู่แค่ในประเทศไทยแต่ยังกระจายไปทั่วโลก ทำให้ปัจจุบัน MINT มีร้านอาหารรวม 2,699 สาขาใน 24 ประเทศ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของภูมิภาคเอเชีย
แม้ว่าธุรกิจร้านอาหารในเมืองไทยจะมีการแข่งขันรุนแรง แต่ MINT ยังสร้างยอดขายร้านอาหารรวมทุกสาขาในประเทศไทยเติบโต 8% ส่วนในประเทศสิงคโปร์มียอดขายรวมเติบโต 12%
เหตุผลหลัก ๆ นอกจากในเรื่องการควบคุมมาตรฐานของรสชาติอาหารให้อร่อย และยังมีกิมมิกใหม่ ๆ มาให้ผู้บริโภคตื่นเต้นเรื่อย ๆ แล้วนั้น ในช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา MINT ยังมีการขยายจำนวนสาขาร้านอาหารเพิ่มขึ้น
ทีนี้ เมื่อผลประกอบการเติบโตผ่านโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง สิ่งที่ตามมาคือ สถานะการเงินที่มีสุขภาพดีแข็งแกร่ง ที่จะมาช่วยลดภาระหนี้ได้อย่างทรงพลัง
- การลดอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ปรับตัวดีขึ้นจาก 1.0 เท่าในปี 2566 เป็น 0.8 เท่าในปี 2567
- อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อกำไร ก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม ลดลงจาก 4.9 เท่า เหลือเป็น 4.3 เท่า
โดยในปี 2567 MINT ลดภาระหนี้สินจำนวนกว่า 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยไปมากเลยทีเดียว ทำให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินสูงขึ้น สร้างความคล่องตัวในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในปีต่อ ๆ ไป
แล้ว MINT มีแผนการลงทุน เพื่อสร้างรายได้เติบโตอย่างไร ?
นับเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าในปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 37.5 ล้านคน เติบโต 5.6% และการท่องเที่ยวภายในประเทศเองก็จะเติบโตขึ้นกว่าเดิม
เมื่อการท่องเที่ยวเติบโต ส่งผลให้หลากหลายธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องได้ประโยชน์ตามมาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจร้านอาหาร ที่ทาง MINT เตรียมพร้อมในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทในระยะยาว
MINT ตั้งเป้าหมายภายในปี 2570 บริษัทจะขยายธุรกิจโรงแรมให้ถึง 850 แห่ง และมีสาขาร้านอาหารอยู่ในมือกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก
ตรงนี้เองที่ทำให้ทาง MINT มั่นใจว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ต่อปี (CAGR) 6-8% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 15-20% ต่อปี สะท้อนแนวโน้มธุรกิจที่น่าจะมีการเติบโตระยะยาว
นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเลยทีเดียว หากย้อนกลับไปในช่วงการระบาดของโรค MINT เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการล็อกดาวน์
ใครจะคิดว่าหลังจากการเกิดโรคระบาดเพียง 2-3 ปี
MINT ปรับเปลี่ยนธุรกิจตัวเองจนสร้างรายได้ทะยานสูงจนในปี 2567 บริษัทมีกำไร 7,750 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ถือเป็นการพลิกฟื้นธุรกิจที่กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมได้อย่างดี..
หมายเหตุ : ปี 2562 MINT มีกำไร 10,698 ล้านบาท ซึ่งมีรายการพิเศษครั้งเดียวจากการขายโรงแรม
หากไม่รวมรายการนี้ จะมีกำไรอยู่ที่ 7,061 ล้านบาท
References
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567 (แก้ไข)
-https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/TH-Tourism-CIS3545-FB-2025-01-16.aspx

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon