
มนุษยชาติจะเป็นอย่างไร ในปี 2050?
มนุษยชาติจะเป็นอย่างไร ในปี 2050? / โดย ลงทุนแมน
เมื่อมนุษยชาติกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ความหมายของการเป็นมนุษย์กำลังจะไม่เหมือนเดิม
ในที่สุดโครงสร้างของการตระหนักรับรู้ จะถูกหลอมละลาย..
ความหมายของการเป็นมนุษย์กำลังจะไม่เหมือนเดิม
ในที่สุดโครงสร้างของการตระหนักรับรู้ จะถูกหลอมละลาย..
นี่คือคำกล่าวของ Yuval Noah Harari ผู้เขียนหนังสือขายดีอย่าง Sapiens และ Homo Deus
ล่าสุดได้มีบทความจาก WIRED ซึ่งมาจากหนังสือที่กำลังจะวางแผงเร็วๆ นี้ชื่อ 21 Lessons for the 21st Century
บทความนี้มีหัวข้อที่น่าสนใจว่ามนุษยชาติจะต้องเจออะไรบ้างในปี 2050
สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟังว่า เรื่องนี้เป็นอย่างไร
“สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน”
นี่คือคำกล่าวเริ่มเรื่องของผู้เขียน ที่ดูเหมือนชาวพุทธจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
แต่เรื่องนี้กำลังจะเป็นอย่างนั้นในปี 2050
นี่คือคำกล่าวเริ่มเรื่องของผู้เขียน ที่ดูเหมือนชาวพุทธจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
แต่เรื่องนี้กำลังจะเป็นอย่างนั้นในปี 2050
เรา และ ลูกหลานของเรา จะเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้
ในปี 2050 เด็กที่เกิดในวันนี้จะมีอายุประมาณ 30 กว่าปี
และถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็น่าจะอยู่จนถึงปี 2100
และถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็น่าจะอยู่จนถึงปี 2100
โลกเขาเราจะเป็นอย่างไรในปี 2050?
เราจะมีวิธีสอนให้เด็กเหล่านี้เติบโตและอยู่รอดได้อย่างไร?
เราจะมีวิธีสอนให้เด็กเหล่านี้เติบโตและอยู่รอดได้อย่างไร?
เชื่อว่าคงไม่มีใครบอกได้ว่าในปี 2050 โลกของเราจะเป็นอย่างไร และยิ่งไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2100
มนุษย์เราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำอยู่แล้ว
และการคาดการณ์ในปัจจุบันก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากขึ้นกว่าในอดีต
และการคาดการณ์ในปัจจุบันก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากขึ้นกว่าในอดีต
เมื่อพันปีก่อน แน่นอนว่ามีหลายสิ่งที่คนในสมัยนั้นไม่รู้เกี่ยวกับโลกในอนาคต
แต่พวกเขาก็มั่นใจได้ว่าพื้นฐานการใช้ชีวิตก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก
แต่พวกเขาก็มั่นใจได้ว่าพื้นฐานการใช้ชีวิตก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าเราเป็นคนจีนในปี 1018 ก็อาจจะพอคาดการณ์ได้ถึงเหตุการณ์ในปี 1050 ได้
ในตอนนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงกษัตริย์ที่มาปกครอง หรือมีโรคระบาดที่จะคร่าชีวิตคนจำนวนมาก
ในตอนนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงกษัตริย์ที่มาปกครอง หรือมีโรคระบาดที่จะคร่าชีวิตคนจำนวนมาก
แต่ไม่ว่าอย่างไร คนในปี 1050 ก็ยังมีวิถีชีวิตที่ไม่ต่างจากคนในปี 1018
ในช่วงนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังมีอาชีพทำการเกษตรหรือทอผ้า ผู้ปกครองก็ยังพึ่งพามนุษย์ให้เป็นกองทัพ ผู้ชายก็ยังอยู่เหนือผู้หญิง และอายุขัยก็อยู่ราวๆ 40 ปี
ดังนั้นในปี 1018 คนจีนก็ยังสอนลูกให้ปลูกข้าว และทอผ้าไหม
ถ้ารวยขึ้นมาหน่อยก็สอนให้ลูกชายอ่านขงจื๊อ ฝึกเขียนอักษรจีน หรือการรบบนหลังม้า
ส่วนลูกสาวก็ถูกสอนให้เรียบร้อยและเป็นภรรยาที่อยู่ภายใต้โอวาทของสามี
ถ้ารวยขึ้นมาหน่อยก็สอนให้ลูกชายอ่านขงจื๊อ ฝึกเขียนอักษรจีน หรือการรบบนหลังม้า
ส่วนลูกสาวก็ถูกสอนให้เรียบร้อยและเป็นภรรยาที่อยู่ภายใต้โอวาทของสามี
ในทางตรงกันข้าม
เราไม่รู้เลยว่าประเทศจีน และ ประเทศอื่นในโลกนี้จะเป็นอย่างไรในปี 2050
เราไม่รู้เลยว่าประเทศจีน และ ประเทศอื่นในโลกนี้จะเป็นอย่างไรในปี 2050
เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าในปี 2050 ลูกหลานของเราจะต้องประกอบอาชีพอะไร
บทบาทหน้าที่ระหว่างชายและหญิงจะเป็นอย่างไร หรือระบอบการปกครองจะเป็นอย่างไร
ต้องขอบคุณวิศวกรรมทางชีววิทยา (Bioengineering) และ การเชื่อมต่อจากสมองคนเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ที่จะทำให้สิ่งที่เด็กเรียนรู้อยู่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีความหมายเลยในปี 2050
โรงเรียนส่วนมากจะสอนให้เด็กจำข้อมูล ซึ่งก็มีเหตุผล
เนื่องจากในอดีตการเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องยาก แม้เราจะสามารถอ่านออกเขียนได้
แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ก็ถูกควบคุม หรือบิดเบือนก่อนที่จะถูกตีพิมพ์สู่สาธารณะ
เนื่องจากในอดีตการเข้าถึงข้อมูลเป็นเรื่องยาก แม้เราจะสามารถอ่านออกเขียนได้
แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ก็ถูกควบคุม หรือบิดเบือนก่อนที่จะถูกตีพิมพ์สู่สาธารณะ
ในทางกลับกัน โลกของศตวรรษที่ 21 เต็มไปด้วยข้อมูลจำนวนมาก
แม้บางคนพยายามจะควบคุม แต่ก็ถือเป็นเรื่องยาก
แม้บางคนพยายามจะควบคุม แต่ก็ถือเป็นเรื่องยาก
ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงก็มีปะปนกันไป
และการที่ข้อมูลมีมากมาย ก็มีผลเสียเช่นกัน คือทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้น
เรื่องไหนเข้าใจยาก ก็เปลี่ยนไปดูวิดีโอตลกหรือเรื่องซุบซิบของดาราแทน
และการที่ข้อมูลมีมากมาย ก็มีผลเสียเช่นกัน คือทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้น
เรื่องไหนเข้าใจยาก ก็เปลี่ยนไปดูวิดีโอตลกหรือเรื่องซุบซิบของดาราแทน
ในโลกที่เป็นแบบนี้ สิ่งสุดท้ายที่ครูควรจะทำก็คือการป้อนข้อมูลให้กับเด็กเพิ่ม
แต่ควรจะให้พวกเด็กมีความสามารถในการทำความเข้าใจข้อมูล แยกแยะสิ่งที่สำคัญและไม่สำคัญ
เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลหลายๆ ชิ้นให้เป็นภาพของโลกทั้งใบได้
เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลหลายๆ ชิ้นให้เป็นภาพของโลกทั้งใบได้
นอกเหนือจากเรื่องข้อมูล ครูก็มักจะสอนเด็กในเรื่องที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
เช่น การแก้สมการที่ยากๆ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษา C++
เช่น การแก้สมการที่ยากๆ เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยภาษา C++
เนื่องจากเราไม่สามารถจินตนาการได้ว่างานในปี 2050 จำเป็นต้องมีความสามารถอะไร
ตอนนี้เราอยากให้เด็กเรียนภาษาจีน หรือเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C++
แต่ในปี 2050 เด็กอาจจะมารู้อีกทีว่าสิ่งที่เขาได้เรียนไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะ AI สามารถเขียนโปรแกรมได้ดีกว่ามนุษย์ Google Translate สามารถแปลภาษาอะไรก็ได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง
แต่ในปี 2050 เด็กอาจจะมารู้อีกทีว่าสิ่งที่เขาได้เรียนไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะ AI สามารถเขียนโปรแกรมได้ดีกว่ามนุษย์ Google Translate สามารถแปลภาษาอะไรก็ได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง
แล้วอย่างนี้โรงเรียนควรจะสอนอะไร?
เราควรลดการสอนวิชาทักษะเฉพาะด้าน แต่เพิ่มเรื่องทักษะการใช้ชีวิตโดยทั่วไป (General-purpose life skill)
โดยเฉพาะความสามารถในการยอมรับการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้สิ่งใหม่ และปรับตัวกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
ในปี 2050 เราอาจไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการคิดค้นสิ่งใหม่ แต่ต้องเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอ
ในกลางศตวรรษที่ 21 โลกจะเปลี่ยนเร็วขึ้น
ซึ่งในความเป็นจริงมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
ในวัย 15 ปีคุณอาจจะต้องเผชิญสิ่งใหม่ และเราก็ตื่นเต้นกับมัน
แต่เมื่อเราอายุ 50 ปี เราก็จะเริ่มไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร
เราจะต้องเรียนรู้ที่จะทิ้งสิ่งที่เรารู้ดีที่สุด และรู้สึกยินดีกับเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
แต่แย่หน่อยการที่จะสอนเรื่องเหล่านี้ให้กับเด็ก อาจจะยากกว่าการสอนสมการยากๆ หรือการท่องจำสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เรื่องที่อยากจะแนะนำเด็กอายุ 15 ปี ก็คือ อย่าพึ่งพาผู้ใหญ่มาก
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่หวังดี พวกเขาแค่ไม่เข้าใจโลกนี้ เพราะโลกนี้เปลี่ยนไปเร็วกว่าที่พวกเขาคิด
ในศตวรรษที่ 21 เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าการเดินตามรอยเท้าของผู้ใหญ่จะนำพาเราไปเจอกับสภาพแวดล้อมแบบไหน
แล้วจะให้เชื่อใคร เทคโนโลยีเหรอ? คำตอบคือค่อนข้างเสี่ยง
เทคโนโลยีไม่ใช่สิ่งที่แย่
ถ้าเรารู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เทคโนโลยีก็จะเป็นตัวช่วยให้เราได้สิ่งที่ต้องการ
ถ้าเรารู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เทคโนโลยีก็จะเป็นตัวช่วยให้เราได้สิ่งที่ต้องการ
แต่ถ้าหากเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เราก็จะถูกเทคโนโลยีควบคุมชีวิตเราแทน
ยิ่งในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเข้าใจมนุษย์มากขึ้น
ก็ยิ่งทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของเทคโนโลยีมากขึ้น
ก็ยิ่งทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสของเทคโนโลยีมากขึ้น
ลองนึกภาพคนที่เหมือนซอมบี้เดินอยู่บนถนน แต่สายตาจ้องติดอยู่กับจอมือถือ
เราคิดว่าเขากำลังควบคุมเทคโนโลยี หรือกำลังถูกเทคโนโลยีควบคุม ?
เราคิดว่าเขากำลังควบคุมเทคโนโลยี หรือกำลังถูกเทคโนโลยีควบคุม ?
หรือเราควรจะเชื่อในตัวเอง?
แน่ใจแล้วหรือว่าเราจะเชื่อในตัวเอง
เนื่องจากทุกวันนี้เราต้องพบเจอกับสิ่งจูงใจมากมาย
ทั้งด้านการเมืองหรือธุรกิจ ก็พร้อมที่จะจูงใจให้เราเชื่อไปตามพวกเขา
Coca-Cola, Amazon, Baidu และรัฐบาลกำลังแข่งกันแฮ็กตัวเรา
เนื่องจากทุกวันนี้เราต้องพบเจอกับสิ่งจูงใจมากมาย
ทั้งด้านการเมืองหรือธุรกิจ ก็พร้อมที่จะจูงใจให้เราเชื่อไปตามพวกเขา
Coca-Cola, Amazon, Baidu และรัฐบาลกำลังแข่งกันแฮ็กตัวเรา
พวกเขากำลังเจาะเข้าสู่ระบบการดำเนินชีวิตของมนุษย์
เราอาจเคยได้ยินเรื่องการแฮ็กคอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้ตัวเรากำลังโดนแฮ็กอยู่
โดยการติดตามว่าเรากำลังจะทำอะไร ไปที่ไหน ซื้ออะไร หรือไปพบใคร
เก็บเป็นข้อมูลที่เรียกว่า Big data เพื่อเรียนรู้เราให้ดียิ่งขึ้น
เราอาจเคยได้ยินเรื่องการแฮ็กคอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้ตัวเรากำลังโดนแฮ็กอยู่
โดยการติดตามว่าเรากำลังจะทำอะไร ไปที่ไหน ซื้ออะไร หรือไปพบใคร
เก็บเป็นข้อมูลที่เรียกว่า Big data เพื่อเรียนรู้เราให้ดียิ่งขึ้น
และเมื่อเราถูกเข้าใจแล้ว เราก็ถูกควบคุมและชักจูงไปได้ง่าย
ในวันที่เครื่องจักร รู้จักเราดียิ่งกว่าตัวเราเอง
อำนาจการควบคุมก็จะถูกเปลื่ยนมือ
อำนาจการควบคุมก็จะถูกเปลื่ยนมือ
เราอาจจะมองว่าก็ดี ที่มีสิ่งเหล่านี้มาช่วยคิด มาทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น
และเชื่อใจ ให้มันตัดสินว่าโลกของเราจะเป็นอย่างไร
และเชื่อใจ ให้มันตัดสินว่าโลกของเราจะเป็นอย่างไร
แต่ถ้าวันหนึ่งเราอยากจะเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองอีกครั้ง
เราจะทำอย่างไร?
เราจะทำอย่างไร?
เราก็ต้องไปให้เร็วกว่าระบบเหล่านี้ ไปให้เร็วกว่ารัฐบาลและ Amazon
และถ้าเราต้องการวิ่งเร็ว ก็อย่าเอาสัมภาระติดตัวไปมาก
ทิ้งภาพลวงตาเหล่านั้นไว้ข้างหลัง
เพราะจริงๆแล้ว สัมภาระเหล่านั้นหนักมาก..
----------------------
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ แบบเรียลไทม์ได้ที่แอปพลิเคชันลงทุนแมน โหลดฟรีทั้ง iOS และ android blockdit.com/app
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-5.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
ทิ้งภาพลวงตาเหล่านั้นไว้ข้างหลัง
เพราะจริงๆแล้ว สัมภาระเหล่านั้นหนักมาก..
----------------------
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ แบบเรียลไทม์ได้ที่แอปพลิเคชันลงทุนแมน โหลดฟรีทั้ง iOS และ android blockdit.com/app
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-5.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------