<ผู้สนับสนุน>
THE PARQ ศักยภาพของกรุงเทพ เพื่อรองรับบริษัทชั้นนำนานาชาติ / โดย ลงทุนแมน

ถ้าทุกๆ วันที่เราตื่นไปทำงาน
แล้วได้อยู่กับสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานที่ดี
ห้องทำงานที่มีอากาศถ่ายเทดี มีแสงธรรมชาติ
ก็คงจะทำให้รู้สึกสดชื่นมีพลัง
และช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน

ออฟฟิศแบบนี้อยู่ที่ไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

กรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดที่มีพนักงานออฟฟิศเป็นจำนวนมาก และหลายคนก็คงจะพอทราบว่า ทำเลที่เป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจ จะเรียกกันว่า CBD

CBD คืออะไร?

CBD ย่อมาจาก Central Business District เหมือนเป็นหัวใจหลักของเมืองที่เป็นย่านธุรกิจ แหล่งรวมออฟฟิศ สถานที่ทำงาน ที่มีความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก

ซึ่งผลสำรวจของพื้นที่ CBD ในไตรมาสที่ 4 ปี 2017 พบว่า

ถนนสาทร มีจำนวนออฟฟิศ 485,000 ตารางเมตร ซึ่งมีออฟฟิศที่ยังว่างอยู่ 10%
ถนนเพลินจิต และถนนพระรามที่ 1 มีจำนวนออฟฟิศ 266,000 ตารางเมตร ซึ่งมีออฟฟิศที่ยังว่างอยู่ 4.7%

ดูข้อมูลแล้วคงไม่แปลกใจ เพราะทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วว่า CBD ที่มีออฟฟิศมากจะเป็นย่าน สาทร และ เพลินจิต

แต่รู้หรือไม่ว่า CBD ของกรุงเทพมหานครในอนาคต จะไม่ใช่เป็นภาพที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

ในอนาคต CBD ที่ใหญ่ที่สุดจะไม่ใช่ สาทร หรือ เพลินจิต อีกต่อไป แต่จะกลายเป็น ถนนพระรามที่ 4 แทน

เพราะพื้นที่บริเวณถนนพระรามที่ 4 นี้ กำลังมีการสร้างโครงการอภิมหาโปรเจกต์ นั่นก็คือ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาคเอกชนไทย

โครงการนี้จะทำให้ออฟฟิศบนถนนพระรามที่ 4 มีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 500,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็น CBD ที่ใหญ่สุดในกรุงเทพมหานครในอนาคต

นอกจากเรื่องของพื้นที่แล้ว ทำเลนี้ยังมีระบบการคมนาคมที่ครบครัน ทำให้เดินทางมาได้สะดวกทั้งคนที่ขับและไม่ขับรถ

เพราะนอกจากจะอยู่บนถนนเส้นหลักอย่างถนนพระรามที่ 4 ที่อยู่ใกล้กับทางด่วน ยังมีรถไฟฟ้า MRT สำหรับคนที่ไม่ต้องการขับรถ สามารถเชื่อมต่อไปที่ Airport Link เพื่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้แบบสบายๆ

ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ย่านพระรามที่ 4 ถือเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่น่าสนใจ น่าจะเหมาะกับการเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท องค์กรระดับนานาชาติ หรือบริษัทที่กำลังมองหาทำเลเพื่อขยับขยายกิจการ ซึ่งก็อาจรวมไปถึงบริษัท SME หรือ Startup ที่กำลังมองหาทำเลเพื่อขยายธุรกิจด้วย

และยิ่งไปกว่านั้น บริเวณนี้ยังมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ ที่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างเช่นกัน ก็คือ โครงการ THE PARQ

THE PARQ คืออะไร?

The PARQ มีบริษัทที่พัฒนาโครงการที่เป็นเจ้าของเดียวกันกับโครงการ One Bangkok นั่นก็คือ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และมีการบริหารโดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้

โครงการนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ซึ่งผสมผสานระหว่างพื้นที่ออฟฟิศ และ ร้านค้า

โครงการ THE PARQ มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 320,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก หรือสังเกตง่ายๆคือ โครงการนี้จะอยู่ติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการประชุมและการจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร

ทำเลนี้เดินทางสะดวกทั้ง รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่สามารถมาลงสถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้เลย หรือถ้าเราเดินทางด้วยรถยนต์ก็ยังใกล้ทางด่วนอีกด้วย

และถ้ามาดูรายละเอียดของโครงการ

โครงการ THE PARQ จะประกอบด้วย พื้นที่อาคารสำนักงาน 60,000 ตารางเมตร และพื้นที่ของร้านค้าต่างๆ 12,000 ตารางเมตร

คาดว่าน่าจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2562

แล้วอาคารสำนักงานของ THE PARQ ต่างจากที่อื่นอย่างไร?

อาคารสำนักงานของ THE PARQ จะออกแบบให้พื้นที่ออฟฟิศเป็นพื้นที่โล่ง จะไม่ให้มีเสาที่ทำให้เสียพื้นที่ใช้สอย และยังบดบังสายตาจนอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ในออฟฟิศ โดยพื้นที่ใช้สอยต่อชั้นมากสุดถึง 5,000 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับพนักงานได้ถึง 500 คน

เมื่อไม่มีเสา เราก็จะรู้สึกสบายขึ้นเมื่อนั่งทำงาน

นอกจากนี้โครงการยังมีพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนลอยฟ้ากลางแจ้งขนาดใหญ่ สิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะสร้างบรรยากาศที่ดีของการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และนอกจากการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริงแล้ว อาคารสำนักงานนี้ยังถูกออกแบบตามมาตรฐานทั้ง LEED GOLD และ WELL GOLD ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกแบบระดับโลก

ทั้ง 2 มาตรฐานนี้ คืออะไร?

LEED ย่อมาจาก Leadership in Energy and Environmental Design เป็นมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาที่ให้คะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาวะของผู้ใช้งานและชุมชน

หัวข้อที่ใช้ในการประเมิน เช่น สถานที่ตั้งโครงการ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พลังงาน และบรรยากาศ

มาตรฐานนี้มี 4 ระดับทั้ง ระดับผ่านการรับรอง ระดับเงิน ระดับทอง และ ระดับแพลตินัม

อีกหนึ่งมาตรฐาน คือ มาตรฐาน WELL

มาตรฐาน WELL คือ มาตรฐานที่เพิ่งเปิดตัวมาเหมือนปี 2016 มีการประเมินที่คล้าย LEED แต่จะเน้นไปทางด้านสุขภาวะของผู้ใช้งาน

สิ่งที่ใช้ประเมินสำหรับมาตรฐาน WELL จะเป็น อากาศ น้ำ แสง นวัตกรรม และ ความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่อำนวยความสะดวก ในส่วนของพื้นที่ร้านค้าชื่อว่า The PARQ Life ซึ่งประกอบด้วย ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์อาหาร ที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “Eat Well and Shop Well”

ซึ่งเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้พนักงานที่ทำงานอยู่ในอาคารสำนักงาน The PARQ Workplace สามารถมากินอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงานได้ หรืออาจะเป็นนัดกินข้าว hangout ก่อนกลับบ้าน

จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้สามารถรองรับผู้ที่เดินทางมาประชุมที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่อยู่ติดกับโครงการได้ ซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกในเรื่องร้านค้า ร้านอาหารอีกด้วย

สำหรับคนที่ต้องการหาสำนักงาน
เราอาจจะจำเป็นต้องหาสำนักงานที่มีคุณภาพที่ดีให้พนักงานของเรา

เพราะพนักงานในบางบริษัทอาจจะอยู่ในที่ทำงานมากกว่าบ้านของเขาเองเสียอีก

สถานที่ทำงานที่ดีมีคุณภาพ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับการทำงานได้

THE PARQ เป็นโครงการที่มีออฟฟิศที่สร้างตามมาตรฐานระดับสากล ซึ่งก็น่าภูมิใจว่ากรุงเทพมหานครจะมีอาคารสำนักงานที่มีศักยภาพสามารถรองรับบริษัทชั้นนำนานาชาติได้ในอนาคต..

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
www.theparq.com
https://www.facebook.com/theparqbkk/