<ผู้สนับสนุน> อีกหนึ่งมุมของคาราบาว สู่การเติบโตครั้งใหม่
<ผู้สนับสนุน>
อีกหนึ่งมุมของคาราบาว สู่การเติบโตครั้งใหม่ / โดย ลงทุนแมน
อีกหนึ่งมุมของคาราบาว สู่การเติบโตครั้งใหม่ / โดย ลงทุนแมน
ชื่อของคาราบาวทุกคนคงรู้จัก
แต่รู้หรือไม่ว่าคาราบาวกรุ๊ปเป็นบริษัทเครื่องดื่มอันดับต้นๆของประเทศ
ที่ผ่านมาคาราบาวผ่านอะไรมาบ้าง
และ ตอนนี้คาราบาวมีการปรับตัวครั้งใหญ่อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แต่รู้หรือไม่ว่าคาราบาวกรุ๊ปเป็นบริษัทเครื่องดื่มอันดับต้นๆของประเทศ
ที่ผ่านมาคาราบาวผ่านอะไรมาบ้าง
และ ตอนนี้คาราบาวมีการปรับตัวครั้งใหญ่อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทำไมคาราบาวถึงต้องปรับตัว?
จุดเริ่มต้นของ คาราบาวกรุ๊ป คือ ธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทย และหลังจากนั้นบริษัทก็ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
คาราบาวมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก
ซึ่งตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของคาราบาวได้มีการส่งขายออกไปแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของคาราบาวได้มีการส่งขายออกไปแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
ไม่น่าเชื่อว่าแบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นจากวงดนตรีของประเทศไทย จะขยายต่อยอดเป็นธุรกิจระดับโลกได้
และในอนาคตคาราบาวกำลังมีแผนที่จะทำตลาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
เราลองมาดูตัวเลขรายได้ย้อนหลังของคาราบาวกัน
รายได้ของ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
รายได้ของ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปี 2558 รายได้ 7,874 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 10,112 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 13,067 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 10,112 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 13,067 ล้านบาท
เราจะเห็นว่ารายได้ของคาราบาวมีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดโดยสาเหตุหลักมาจากธุรกิจต่างประเทศ
สำหรับส่วนแบ่งของคาราบาวในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทย ปีที่ผ่านมาพบว่า
คาราบาวมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 21% อยู่เป็นลำดับที่สอง รองจาก M-150 ซึ่งมีส่วนแบ่งอยูที่ 57.1%
ซึ่งเมื่อดูย้อนหลังไปอีกหลายๆปี เราจะพบว่าคาราบาวครองส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกับปัจจุบันมาตลอด
แล้วภาพรวมตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทยเป็นอย่างไร?
จากข้อมูลทางการตลาดของ Nielsen ตลาดเครื่องดื่มบํารุงกําลังในประเทศไทย
ระหว่างปี 2557 ถึงปี 2559 มีการเติบโตของปริมาณขายรวมเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 0.6%
ในขณะที่ในปี 2560 ปริมาณขายรวมลดลงประมาณ 2.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
แสดงว่าตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายในประเทศไทยอาจจะกำลังถึงจุดอิ่มตัว
เมื่อตลาดไม่ได้เติบโตขึ้นแล้ว ทางออกในการเพิ่มยอดขายก็คือ การเปิดตลาดใหม่ หรือแย่งส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มนั่นเอง
พอเป็นแบบนี้แล้ว คาราบาวจึงต้องปรับตัวครั้งใหม่เพื่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต
โดยคาราบาวมีเป้าหมายในครั้งนี้ก็คือ การที่จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทยภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
หนึ่งในกลยุทธ์ก็คือ การจับตลาดกลุ่มวัยรุ่นในประเทศไทย
วัยรุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความต้องการในเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และคาราบาวเองก็ยังไม่เคยทำตลาดนี้มาก่อน ถือได้ว่า เป็นการเปิดตลาดใหม่ของคาราบาวก็ว่าได้
แต่ถ้าจะตีตลาดด้วยภาพลักษณ์แบบเดิมของคาราบาว ก็อาจจะไม่เหมาะกับตลาดกลุ่มนี้
เพราะเครื่องดื่มบำรุงกำลังของคาราบาวที่เราคุ้นเคยกัน จะเป็นรูปแบบขวดสีชา
ซึ่งภาพลักษณ์ของขวดสีชา สำหรับหลายคนก็มองว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มคนใช้แรงงานหรือดูโบราณ จึงส่งผลให้โอกาสในการซื้อของกลุ่มวัยรุ่นลดลงไป
แต่เพื่อไม่ให้กระทบกับฐานลูกค้ากลุ่มเดิม
คาราบาวจึงเลือกที่จะทำการตลาดแยกออกมา เพื่อจับตลาดวัยรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือการเปิดตัว CARABAO CAN
CARABAO CAN คืออะไร?
ในมุมของตัวสินค้า พูดง่ายๆ ก็คือ เครื่องดื่มคาราบาวที่อยู่ในรูปแบบกระป๋องอัดลม
แต่ในบ้านเราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกันเท่าไร เพราะปกติแล้ว เครื่องดื่มคาราบาวแบบกระป๋องจะมีวางขายแค่เฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น
ซึ่งก็จะมีหลากหลายรสชาติตั้งแต่ รสดั้งเดิม กลิ่นกรีนแอปเปิ้ล และกลิ่นส้มแมนดาริน หรือแม้กระทั่งการเป็นเครื่องดื่มสุขภาพในรูปแบบ Sugar Free
ถ้าดูเฉพาะรูปร่างของกระป๋องแล้ว ก็แทบจะเหมือนกับน้ำอัดลมกระป๋องที่วัยรุ่นซื้อดื่มกันทั่วไป
ซึ่งในปีที่ผ่านมา คาราบาวแบบกระป๋องทำยอดขายในต่างประเทศได้ถึง 202 ล้านบาท หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวได้เพียง 1 ปี
ทางคาราบาวจึงคาดหวังว่าเครื่องดื่มรูปแบบกระป๋องที่ทำยอดขายได้ดีในต่างประเทศ ก็น่าจะเข้ามาช่วยจับตลาดกลุ่มวัยรุ่นในประเทศไทยได้เช่นเดียวกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ คาราบาวจึงได้มีการนำคาราบาวกระป๋องกลิ่นกรีนแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษกลับมาขายในประเทศไทยเป็นตัวแรก
ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอย่างชัดเจน โดยตั้งใจให้คำว่า CAN ในภาษาอังกฤษเราสามารถแปลได้เป็น 2 ความหมาย
ความหมายแรกคือ CAN ที่แปลว่ากระป๋องซึ่งสื่อถึงรูปแบบผลิตภัณฑ์คาราบาวที่เปิดตัวใหม่ในรูปแบบกระป๋อง
ส่วนอีกความหมายหนึ่ง CAN แปลว่าสามารถทำได้ เพื่อสื่อถึงกลุ่มวัยรุ่นสมัยนี้มีความท้าทายที่จะทำสิ่งใหม่เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ของยุคสมัยนี้คือวัยรุ่นที่ไม่ยอมแพ้วัยรุ่น เกี่ยวกับความท้าทาย และสามารถทำได้
การปรับภาพลักษณ์สำหรับสินค้าใหม่ในครั้งนี้ ก็มีเป้าหมายเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และเพิ่มส่วนแบ่งเพื่อก้าวเป็นผู้นำของตลาดนี้ในอนาคต
ส่วนในต่างประเทศ คาราบาวมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก
ซึ่งในปัจจุบันคาราบาวได้ส่งออกไปแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ๆ อย่าง อังกฤษ, จีน, ออสเตรเลีย
และเพื่อตอบโจทย์ของการเป็นแบรนด์ระดับโลกภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
ในอนาคตคาราบาวกำลังจะมีแผนที่จะทำตลาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
หลังจากที่เราเห็นเป้าหมายในอนาคตของคาราบาวกันไปแล้ว หลายๆ คนอาจสงสัยว่าคาราบาวจะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ ซึ่งเราก็คงต้องติดตามกันต่อไป
แต่สำหรับคาราบาวเชื่อว่า “ไม่มีเป้าหมายไหนยากเกินกว่าที่เราจะทำได้”
วัยรุ่นและคนไทยทุกคนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน..
วัยรุ่นและคนไทยทุกคนเองก็สามารถทำได้เช่นกัน..
“If I can do it, you can do it too”
#DontSayCant
#CaraBaoCan #GreenApple
#CaraBaoCan #GreenApple