วันนี้เฉลยแล้วกับคำถามที่ว่าใครเป็นคนทุบหุ้น EARTH คำตอบก็คือ เจ้าของหุ้น EARTH เอง เพราะเจ้าของเอาหุ้นตัวเองไปค้ำประกันกับโบรคเกอร์ เพื่อกู้เงินก้อนไปลงทุนในธุรกิจอื่น ซึ่งจำนวนหุ้นที่ถูกบังคับขายตามรายงาน 246-2 มีมากถึง 9.59% ของบริษัท หรือ 339,160,100 หุ้น

ที่น่าสนใจคือในรายงาน 59-2 ซึ่งเป็นรายงานของการขายของผู้บริหาร ราคาที่ถูกบังคับขายในรายงานคือ FLOOR แรกที่ 2.84 บาทต่อหุ้น และ FLOOR ที่สอง 1.98 บาทต่อหุ้น โดยจำนวนหุ้นส่วนใหญ่จะถูกขายในราคา FLOOR ที่สอง

และถ้ารวม 2 วัน การขายหุ้นจะมีทั้งหมด 174,191,930 ล้านหุ้น ซึ่งยังขาดอีก 165 ล้านหุ้น ซึ่งน่าจะถูกขายในวันที่ 3

ก่อนหน้านี้ราคา 4.3 บาท หรือประมาณ 2 เท่าของราคาที่ขาย แปลว่า ก่อนหน้านี้หุ้นของเจ้าของส่วนนี้มีมูลค่า 1,458 ล้านบาท และ เจ้าของขายขาดทุนไปประมาณ 700 ล้านบาท

สำหรับ FLOOR แรก จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ BLOCK TRADE ตามที่ผมเคยได้เขียนไปในบทความก่อนหน้านี้ที่ https://www.longtunman.com/684 ซึ่งมีมูลค่าสัญญาฟิวเจอร์สทั้งหมดประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนคนที่ซื้อสัญญา BLOCK TRADE นั้นเป็นเจ้าของ หรือคนอื่นเป็นเบื้องลึกที่ผมไม่ทราบ คงต้องรอให้ทุกอย่างค่อยๆเฉลยออกมา

แต่เรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าการกู้เงินมาซื้อหุ้นนั้น มีความเสี่ยงที่จะถูกบังคับขายขาดทุน และอย่าประมาทว่าเราจะเป็นคนคุมราคาตลาดได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ

ถ้ามองต่อไป คำถามที่สำคัญคือ เจ้าของจะยอมปล่อยวางการขาดทุน 700 ล้านบาท และยอมเสียหุ้น 9.59% ของบริษัทหรือไม่..

ถ้าเจ้าของไม่ปล่อยวาง เจ้าของสามารถทำอย่างไรได้บ้างในการเอาของที่เสียไปคืนมา ในราคาที่ถูกกว่าที่เขาเสียไป..