Timeline ของการเปลี่ยนโลก
Timeline ของการเปลี่ยนโลก / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า สิ่งที่เปลี่ยนโลก ที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
ก็คงต้องตอบว่าโลกกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่
ยุคที่ทุกคนก้มหน้ามองอะไรสักอย่างที่อยู่ในมือ
ถ้าเราสรุปมาเป็น Timeline เราอาจจะต้องตกใจ
เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ก็คงต้องตอบว่าโลกกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่
ยุคที่ทุกคนก้มหน้ามองอะไรสักอย่างที่อยู่ในมือ
ถ้าเราสรุปมาเป็น Timeline เราอาจจะต้องตกใจ
เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปี 2004 ในหอพักมหาวิทยาลัย Harvard สหรัฐอเมริกา
มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน กำลังคิดค้นวิธีการเชื่อมผู้คนในรูปแบบใหม่ เริ่มต้นจากไม่กี่ร้อยคนในมหาวิทยาลัย
แต่ใครจะไปคิดว่าอีก 14 ปีต่อมา จะมีผู้ใช้งานระบบนี้มากถึง 2,000 ล้านคนทั่วโลก
เด็กหนุ่มคนนี้ชื่อนาย Mark Zuckerberg..
ปี 2005
มี 3 คนที่อยากจะสร้างเป็นเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ในรูปแบบที่เป็นวิดีโอ แต่ไปๆ มาๆ เว็บไซต์นี้กลายเป็นเว็บไซต์รวมวิดีโอที่ใหญ่สุดในโลก
มี 3 คนที่อยากจะสร้างเป็นเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ในรูปแบบที่เป็นวิดีโอ แต่ไปๆ มาๆ เว็บไซต์นี้กลายเป็นเว็บไซต์รวมวิดีโอที่ใหญ่สุดในโลก
และใครจะไปคิดว่าอีก 13 ปีต่อมา จะมีคนดูวิดีโอในระบบนี้มากถึง 4 ล้านเรื่อง ใน 1 นาที
ระบบนี้มีชื่อว่า YouTube..
ปี 2006
บริษัทของนาย Mark Zuckerberg ได้ปรับโฉมใหม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่มาเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านหนังสือในยุคนี้
บริษัทของนาย Mark Zuckerberg ได้ปรับโฉมใหม่มีฟีเจอร์ใหม่ที่มาเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านหนังสือในยุคนี้
ใครจะไปคิดว่าอีก 12 ปีต่อมา ฟีเจอร์นี้จะทำให้คนเสพติดและ log in เข้ามาอ่านมากถึง 900,000 คนใน 1 นาที
ฟีเจอร์นี้เรียกว่า News Feed..
ปี 2007
ชายคนหนึ่งที่เคยโดนไล่ออกจากบริษัทตัวเอง แต่ก็ได้กลับเข้ามาพลิกฟื้นบริษัทในเวลาต่อมา
ชายคนหนึ่งที่เคยโดนไล่ออกจากบริษัทตัวเอง แต่ก็ได้กลับเข้ามาพลิกฟื้นบริษัทในเวลาต่อมา
ชายคนนั้นได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เครื่องมีหน้าตาแปลกประหลาด แตกต่างจากโทรศัพท์มือถือทั่วไป
ใครจะไปคิดว่าอีก 11 ปีต่อมา เครื่องประหลาดนี้จะทำให้บริษัทนี้มีกำไรมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้นชื่อว่า Steve Jobs และเครื่องประหลาดของเขามีชื่อว่า iPhone..
ปี 2008
บริษัท Search Engine ที่ใหญ่สุดในโลกได้เห็นอะไรบางอย่างของระบบปฏิบัติการชื่อคล้ายหุ่นยนต์ และซื้อบริษัทนั้นมาด้วยมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัท Search Engine ที่ใหญ่สุดในโลกได้เห็นอะไรบางอย่างของระบบปฏิบัติการชื่อคล้ายหุ่นยนต์ และซื้อบริษัทนั้นมาด้วยมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ใครจะไปคิดว่าอีก 10 ปีต่อมา โทรศัพท์ทั่วโลกจะใช้ระบบปฏิบัติการนี้มากที่สุด
ระบบนี้ชื่อว่าระบบ Android..
ปี 2009
พอคนเริ่มใช้โทรศัพท์แบบใหม่ที่ฉลาดมากขึ้น ก็มี 2 หนุ่มที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกของการส่งข้อความ จากเดิมคนจะส่ง SMS แบบเสียเงิน ต่อไปนี้ทุกคนจะส่งข้อความหากันฟรี
พอคนเริ่มใช้โทรศัพท์แบบใหม่ที่ฉลาดมากขึ้น ก็มี 2 หนุ่มที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกของการส่งข้อความ จากเดิมคนจะส่ง SMS แบบเสียเงิน ต่อไปนี้ทุกคนจะส่งข้อความหากันฟรี
ใครจะไปคิดว่าอีก 9 ปีต่อมา ระบบนี้จะเป็นระบบที่มีคนส่งข้อความกันมากที่สุดในโลก
2 หนุ่มนี้ชื่อ Brian Acton และ Jan Koum และระบบนี้มีชื่อว่า WhatsApp..
ปี 2010
2 หนุ่มผู้ผิดหวังจากการทำแอปพลิเคชันให้คนมาเช็กอิน แต่ไม่ได้รับความนิยม จึงเปลี่ยนแอปให้เป็นการแชร์รูปภาพของตนเองให้เพื่อน โดยรูปแรกของระบบนี้ก็คือ รูปสุนัขที่ถ่ายคู่กับเท้าแฟนสาวของหนึ่งในผู้ก่อตั้ง
2 หนุ่มผู้ผิดหวังจากการทำแอปพลิเคชันให้คนมาเช็กอิน แต่ไม่ได้รับความนิยม จึงเปลี่ยนแอปให้เป็นการแชร์รูปภาพของตนเองให้เพื่อน โดยรูปแรกของระบบนี้ก็คือ รูปสุนัขที่ถ่ายคู่กับเท้าแฟนสาวของหนึ่งในผู้ก่อตั้ง
ใครจะไปคิดว่าอีก 8 ปี ต่อมา แอปนี้จะเป็นที่นิยมของวัยรุ่น โดยมีคนโพสต์รูปลงแอปนี้มากถึง 46,200 รูปใน 1 นาที
แอปนี้ชื่อว่า Instagram..
ปี 2011
เป็นปีที่เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น ทำให้การสื่อสารในขณะนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่นั่นกลับกลายเป็นจุดเริ่มของแอปพลิเคชันที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด
เป็นปีที่เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น ทำให้การสื่อสารในขณะนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่นั่นกลับกลายเป็นจุดเริ่มของแอปพลิเคชันที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด
ใครจะไปคิดว่าอีก 7 ปีต่อมา คนไทยจะใช้เวลาเล่นแอปนี้มากถึง 78 นาที กินเวลาเป็น 1 ใน 3 ของเวลาที่ใช้โทรศัพท์มือถือในแต่ละวัน
แอปนี้ชื่อว่า Line..
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาไล่เลี่ยกัน
แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก
จนในบางครั้ง พฤติกรรมของเราก็ถูกเปลี่ยนไปเช่นกัน
จากเดิมที่เราเดินหน้าตรง ตอนนี้เรากำลังเดินก้มหน้า..
บริษัททั้งหมดที่กล่าวมาเริ่มจากไม่มีอะไรเลย
ผ่านมาไม่กี่ปี
ตอนนี้บริษัทเหล่านี้มีมูลค่ามากกว่ารายได้ของบางประเทศเสียอีก
ถ้าถามว่า แล้วในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก
เรื่องนี้คงยากที่จะคาดเดา
แต่ที่รู้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตน่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากกว่านี้อีก
จนบางครั้ง เราอาจไม่รู้ตัวว่า
เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเดิม อีกต่อไปแล้ว..
----------------------
อนาคตนั้นยากจะคาดเดา แต่เรามีบทความ
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจ ได้ที่
-แอปลงทุนแมน blockdit.com
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------
----------------------
อนาคตนั้นยากจะคาดเดา แต่เรามีบทความ
ติดตามเรื่องราวน่าสนใจ ได้ที่
-แอปลงทุนแมน blockdit.com
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------