ผลตอบแทน ที่จะชนะตลาด ต้องมาจากมุมมอง ที่ต่างจากตลาด

ผลตอบแทน ที่จะชนะตลาด ต้องมาจากมุมมอง ที่ต่างจากตลาด

ผลตอบแทน ที่จะชนะตลาด ต้องมาจากมุมมอง ที่ต่างจากตลาด /โดย ลงทุนแมน
คิดอย่างไร ? ให้กลายเป็นผู้ชนะในตลาดหุ้น
แล้วนักลงทุนที่เขาประสบความสำเร็จกัน ต่างมี Mindset แบบไหน ?
วันนี้ คุณพสุวุฒิ วิไลนิรันดร์, CFA, รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายบริหารการลงทุนส่วนบุคคล บล. InnovestX
และคุณเฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ, นักลงทุนเน้นคุณค่า
ทั้งคู่จะมาเฉลยคำตอบ จากประสบการณ์ที่ตกผลึกได้ ในงาน BEAT THE MARKET หัวข้อ “Independent Mind มีความคิดเป็นอิสระ คิดอย่างไร ให้ชนะตลาด”
คุณเฉลิมเดช หรือคุณเชาว์ บอกว่า Playbook เดิมที่ใช้มาตลอด 20 ปี คือการมองหุ้นเป็นธุรกิจ และเน้นลงทุนด้วยมุมมองแบบระยะยาว
โดยหุ้นที่คุณเชาว์จะเลือกให้มีนัยสำคัญกับพอร์ต ต้องเป็นหุ้นของบริษัทที่แข็งแกร่ง อยู่ได้ในทุกสภาวะตลาด
ตั้งแต่ลงทุนมา คุณเชาว์ผ่านวิกฤติมาได้ 3 ครั้งแล้วพบว่า ไม่ว่าวิกฤติอะไรจะเกิดขึ้น คุณเชาว์ก็จะยังใช้ท่าเดิมเสมอ คือมักจะไม่ทำอะไรเลย เพราะเลือกหุ้นของบริษัทคุณภาพดี มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เพราะถ้าในพอร์ตเต็มไปด้วยหุ้นที่ดีมากอยู่แล้ว ก็จะทำให้มูลค่าพอร์ต ผันผวนน้อยกว่าตลาด และในช่วงที่ตลาดหุ้นลงหนัก สภาพจิตใจจะบอบช้ำ ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย
แต่หากเลือกหุ้นถูกตัวแล้ว ให้พยายามอยู่นิ่งไว้ ถึงราคาหุ้นตก เดียวก็กลับมาได้
แม้คุณเชาว์จะชอบถือหุ้นบริษัทเดิม ๆ เป็นเวลายาวนาน แต่ที่ผ่านมา ก็มีหุ้นของบริษัทใหม่ ๆ หมุนเวียนเข้ามาอยู่ในพอร์ตบ้าง
โดยบางครั้ง ก็ได้เจอหุ้นตัวใหม่ที่ชอบมาก แต่ถ้ายังไม่มีความมั่นใจมากพอ ก็จะเริ่มจากซื้อน้อย ๆ ก่อน แล้วจากนั้นก็จะติดตามหุ้นตัวนี้ไปอีก 3-5 ปี
พอมีความมั่นใจมากขึ้น ก็จะซื้อเพิ่ม จนมีนัยสำคัญของพอร์ต โดยหุ้นที่คุณเชาว์เลือกมา ตั้งใจจะถือในระยะยาว เป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ คุณเชาว์แนะนำว่า อย่าเอาความสุขของเรา ไปผูกไว้กับจำนวนเงินในพอร์ต โดยให้มองว่าเงินในพอร์ตหุ้น เหมือนเป็นเงินในเกม ที่มีขึ้นมีลงได้
เราควรลองนำหลักคิดของพุทธศาสนา เข้ามาช่วยนำทางชีวิต ด้วยการปรับมุมมองว่า ความสุขของเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะมีเงินเท่าไร
เพราะความสุขของชีวิต จริง ๆ แล้วอยู่ที่มุมมอง โดยให้จำไว้เสมอว่า “เงินเราไม่ใช่ของเรา..”
ส่วนคุณพสุวุฒิ หรือคุณโน๊ต บอกว่า ในฐานะผู้จัดการกองทุน เมื่อเจอกับช่วงตลาดปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เมื่อไม่นานมานี้ ก็ต้องมีวิธีสื่อสารกับลูกค้า โดยแนะนำให้ลูกค้าใจเย็น อย่าเพึ่งเอาเงินออกจากตลาด
เพราะลูกค้าอาจจะตัดสินใจผิดพลาด เลือกเดินออกจากตลาดไป ในจุดต่ำสุดของตลาดได้
แล้วคุณโน้ต เอาชนะตลาดหุ้นเวียดนาม ในช่วงที่ตลาดลงไปถึงฟลอร์ติดกันหลายวันได้อย่างไร ?
คุณโน้ต ยอมรับตรง ๆ ว่า เราไม่มีทางประเมินผลกระทบจากการขึ้นภาษีในระดับ 30-50% ทั่วโลกได้เลย แต่คำถามแรกที่ควรถามคือ ทรัมป์คิดจะเก็บภาษีจริงในระดับที่ประกาศในวันแรกจริงหรือไม่ ?
ซึ่งคุณโน้ต ไม่เชื่ออย่างนั้น เพราะมันคือการทำลายระบบการค้าทั่วโลก จึงมองว่ายังไม่ควรเอาเรื่องที่ทรัมป์พูดมา Price in ในราคาหุ้นทั้งหมด และรอจังหวะไล่ซื้อหุ้นที่ศึกษามาดีแล้วในเวียดนาม ซึ่งราคาลงมา 25-30% ในช่วงที่ตลาดกลัวสุด ๆ
เคล็ดลับที่น่าสนใจอีกอย่างของคุณโน้ต ที่ทำให้กล้าซื้อสวนทางในช่วงที่ตลาดถูกปกคลุมด้วยความกลัว คือการรับรู้ว่า วิกฤติสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่บางครั้งโอกาสก็มักจะซ่อนอยู่ในวิกฤติเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุนของคุณโน้ต จะมีจังหวะขายหุ้นแพง ไปซื้อหุ้นถูก โดยจะเข้าซื้อในจังหวะที่คนกลัวสุด ๆ ในช่วงที่ตลาดลงหนัก ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในตลาด
คุณโน๊ตเชื่อว่า ถ้าหากเราอยากจะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเท่าตลาด จริง ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ก็แค่ซื้อกองทุนรวมอิงดัชนี แต่การเอาชนะตลาด กลับเป็นที่เรื่องยากมาก เพราะเราต้องทำอะไรที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่
หรือก็คือ ผลตอบแทนที่จะชนะตลาด ต้องมาจากมุมมอง ที่ต่างจากตลาด
สุดท้าย คุณโน๊ต มองเรื่องเงินในพอร์ตเหมือนคุณเชาว์ ที่การลงทุนก็เหมือนเป็นเกม ถ้าเราเข้าใจว่าเงินในพอร์ต สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ เป็นเรื่องปกติ
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเราเข้าใจได้แบบนี้ เราก็จะสามารถผ่านมาได้..
#ลงทุนแมน #BeatTheMarket
-ใครที่พลาดงานวันนี้ บัตร RERUN BEAT THE MARKET เปิดจองแล้ว มีจำนวนจำกัด จองบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/BEAT-THE-MARKET-2025
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon