
เยอรมนี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป ใช้ “เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด” เพื่อตอบโต้สงครามการค้าของทรัมป์
เยอรมนี เรียกร้องให้สหภาพยุโรป ใช้ “เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด” เพื่อตอบโต้สงครามการค้าของทรัมป์ ที่ครอบคลุมมากกว่ามาตรการภาษี เช่น จัดการ Big Tech ของสหรัฐฯ
โดย Robert Habeck รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า
“เราต้องพิจารณาเครื่องมือป้องกันการถูกบีบบังคับทางเศรษฐกิจ (anti-coercion instrument) อย่างจริงจัง ซึ่งครอบคลุมมาตรการที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าภาษี”
“เราต้องพิจารณาเครื่องมือป้องกันการถูกบีบบังคับทางเศรษฐกิจ (anti-coercion instrument) อย่างจริงจัง ซึ่งครอบคลุมมาตรการที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าภาษี”
ซึ่งหมายถึงมาตรการที่สามารถให้ EU เล่นงานบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ (Big Tech) จากสหรัฐฯ ได้ เช่น การจำกัดบริการดิจิทัลของบริษัทเหล่านั้นในตลาดยุโรป
เครื่องมือนี้ มักถูกเรียกว่า “bazooka” (ปืนใหญ่) ในคลังแสงการค้าของสหภาพยุโรป
ถูกจัดตั้งขึ้นในฐานะ “เครื่องมือป้องปราม” เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบีบบังคับทางเศรษฐกิจจากประเทศคู่ค้า เช่น จีน หรือ สหรัฐฯ
ถูกจัดตั้งขึ้นในฐานะ “เครื่องมือป้องปราม” เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบีบบังคับทางเศรษฐกิจจากประเทศคู่ค้า เช่น จีน หรือ สหรัฐฯ
เครื่องมือนี้ให้อำนาจครอบคลุม เช่น จำกัดการให้บริการของบริษัทจากประเทศอื่น ในตลาดยุโรป
“แม้การเจรจาจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ถ้ามันล้มเหลว การเก็บภาษีต่อบริษัทเทคโนโลยี ก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง” Robert Habeck กล่าว
และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศส ได้เสนอว่า หนึ่งในแนวทางตอบโต้ที่เป็นไปได้คือการ ควบคุมการใช้ข้อมูลของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ
Carlos Cuerpo รัฐมนตรีเศรษฐกิจของสเปน ก็พูดในทำนองเดียวกันว่า
“เราต้องหาจุดสมดุลในการตอบโต้ และต้องมีสติ
“เราต้องหาจุดสมดุลในการตอบโต้ และต้องมีสติ
เราพร้อมเปิดการเจรจา แต่ถ้าเจรจาไม่ได้ผล เราก็พร้อมใช้เครื่องมือของเรา ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาษีเท่านั้น แต่รวมถึงมาตรการที่ลึกกว่า และไม่ใช่แค่กับสินค้าทางกายภาพ”