​​ถอดแนวคิดนอกกรอบ CEO สมิติเวช ลงทุน 2,000 ล้านสร้างโรงพยาบาลเด็ก เพื่อให้เด็กโตไปไม่ป่วย

​​ถอดแนวคิดนอกกรอบ CEO สมิติเวช ลงทุน 2,000 ล้านสร้างโรงพยาบาลเด็ก เพื่อให้เด็กโตไปไม่ป่วย

สมิติเวช x ลงทุนแมน
“การรักษาโรค อาจมีแพ้ มีชนะ แต่การทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีแต่ชนะและชนะ”
นี่คือประโยคสั้นๆ แต่ทรงพลังที่ นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช
สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปลุกปั้นโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ที่ใช้งบลงทุนไปกว่า 2,000 ล้าน เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ อยากเห็นเด็กโตไปไม่ป่วย
หลายคนฟังแล้ว อาจจะตั้งคำถามในใจว่า ถ้าเด็กโตไปไม่ป่วย แล้วใครจะมาใช้บริการโรงพยาบาล ?
แต่สำหรับนพ.ชัยรัตน์ กลับมองต่างมุมอย่างน่าสนใจว่า
“หากเด็กไม่ป่วยก็จะทำให้ Healthcare Cost โดยรวมของประเทศลดลง
และเมื่อผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น ก็จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี มีพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจให้ดีขึ้น
ผมคิดว่าถ้าผู้บริหารโรงพยาบาล ยังมองว่า ทำโรงพยาบาลแล้ว ต้องให้มีคนไข้มาใช้บริการมากๆ
เพื่อให้โรงพยาบาลมีตัวเลขผลประกอบการที่ดี
แสดงว่า เขากำลังบริหาร Organization of Success หรือ องค์กรแห่งความสำเร็จ
แต่สิ่งที่เราทำ คือ การเป็น Organization of Value หรือองค์กรแห่งคุณค่า
ที่พร้อมสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนสร้างชีวิตที่ดีกว่าเก่าแก่ทุก Stakeholder
ซึ่งผมมองว่า คุณค่าที่กลับมามันล้ำลึกกว่าการที่มองมุมการรักษาเพียงอย่างเดียว
จากความมุ่งมั่นนี้เอง ทำให้ นพ.ชัยรัตน์ ไม่ลังเล ที่จะก่อตั้งโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
โดยแยกเป็นอาคารเด็กโดยเฉพาะ ในบริเวณของโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์เดิม
แถมยังคิดนอกกรอบด้วยการออกแบบให้โรงพยาบาลเด็กแห่งนี้เป็นมากกว่าโรงพยาบาล
แต่เป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคต ที่สมาร์ตในทุกมิติ ในแบบที่หลายคนคาดไม่ถึง

“ด้วยประสบการณ์และจุดแข็งของการเป็นโรงพยาบาลเด็ก
ที่มีแพทย์เฉพาะทางมากที่สุดกว่า 100 ราย โดยเฉพาะเรื่องของโรครักษายาก โรคซับซ้อน
จนได้ชื่อว่าศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (COE-Center of Excellence)
จริงๆแล้ว ถ้าเราคิดจะทำโรงพยาบาลเด็กสักแห่ง ไม่ใช่เรื่องยากเลย
แต่เพราะโจทย์เรา คือ การเป็นโรงพยาบาลแห่งอนาคต เราเลยต้องคิดต่าง
มองภาพโดยใช้สายตาของยักษ์ ที่นอกจากจะต้องเห็นภาพใหญ่ ยังต้องมองให้ไกล
เห็นภาพอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าวงการเฮลท์แคร์จะเป็นอย่างไร
ดังนั้นนอกจากโรงพยาบาลจะยังคงจุดแข็งเรื่องศักยภาพภาพและความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์
เรายังตั้งใจยกระดับประสบการณ์ของผู้มาใช้บริการแบบไร้รอยต่อ ด้วย Smart Healthcare Ecosystem”
แน่นอนว่า ถ้าจะสร้างโรงพยาบาลที่ตอบโจทย์ผู้มาใช้บริการได้ในทุกมิติ
แทนที่จะคิดเองจากมุมมองของคนใน หรือ นำแนวคิดจากผู้บริหารมาต่อยอด ต้องตั้งต้นจากอินไซต์ของผู้มาใช้บริการ
โดย 3 อินไซต์ที่พบว่าลูกค้ามองหาในโรงพยาบาลเด็กแห่งอนาคต
ได้แก่ 1.ความปลอดภัย 2. ความทันสมัย และ 3.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

“เรื่องความปลอดภัย อันนี้แน่นอน เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
แต่เรายังใส่ใจไปถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น
-การออกแบบระบบคัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจ ผู้ป่วยติดเชื้อ แยกกับผู้รับบริการอื่นๆ
-ระบบควบคุมการหมุนเวียนอากาศเพื่อลดการติดเชื้อ
-การนำระบบไอทีต่างๆ มาช่วยลดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ
ลดเวลารอคิว พบแพทย์ และการจ่ายเงินให้สะดวก รวดเร็ว
ในเรื่องของความทันสมัย เรามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อให้ผู้มาใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น
-การนำเอไอ มาช่วยประเมินค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด
-มีแอปฯติดตามสถานการณ์ผ่าตัด และติดตามการรักษาระหว่างพักในโรงพยาบาล
- Smart ER ดูแลผู้ป่วยเด็กในภาวะฉุกเฉินและวิกฤติ สามารถสื่อสารแบบเรียลไทม์
ทำให้ทีมแพทย์สามารถเตรียมการรักษาได้ตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาล
-ห้องผ่าตัดไฮบริด ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ X-ray ได้หลายระนาบ ลดการสัมผัสรังสี และ ผลข้างเคียงต่างๆ เป็นต้น

มาถึงในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นอินไซต์ที่น่าสนใจว่า ผู้ใช้บริการโรงพยาบาลก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน
อาคารของโรงพยาบาลแห่งใหม่ จึงถูกออกแบบตามมาตรฐาน LEED ระดับ Gold
มีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ กระจกอัจฉริยะลดความร้อน และ ระบบกรองอากาศ PM2.5
หลังจากเอาจุดแข็งและอินไซต์ของผู้มาใช้บริการเป็นตัวตั้งแล้ว
คำถามต่อมาคือ โรงพยาบาลแห่งนี้จะการตอบโจทย์ในเชิงคุณค่า หรือ ทำอย่างไรให้เด็กโตไปไม่ป่วย

คำตอบ คือ เน้นการป้องกันรักษาทุกมิติสุขภาพ
-Self-care ไม่ป่วยเริ่มต้นที่ตัวเอง ใช้ AI ประเมินสุขภาพ
-Early Care ไม่ป่วยป้องกันได้ด้วยโปรแกรม Early Detection และ Early Prediction
-Risk Care ไม่ป่วยเพราะรู้ทันก่อนเกิดโรคด้วย Risk Score Screening
และ Kidz Check ประเมินความรุนแรงของอาการจากที่บ้าน
หรือใช้บริการ Kids Telehealth พบแพทย์เฉพาะทางแบบเรียลไทม์
“อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ นอกจากโรงพยาบาลจะ Hi-Tech เพื่อยกระดับการรักษาและให้บริการแล้ว
ยังต้องมี Hi-Touch เพื่อสร้างคุณภาพของผู้ใช้บริการ
แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องสร้าง Hi-Trust เท่าทันกับผู้ใช้บริการทั้งปัจจุบันและอนาคต
เพื่อให้ผู้ป่วยพึงพอใจ ไว้วางใจ และต้องการมาใช้บริการในอนาคต
โดยที่ผ่านมา โรงพยาบาลสมิติเวชได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคสูงถึง 98%
สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และโรงพยาบาลอย่างแท้จริง”
มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า สมิติเวชทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร ?
หรือ นี่คือส่วนหนึ่งของการวางกลยุทธ์ระยะยาว เพื่อสร้างฐานลูกค้าในอนาคต

นพ.ชัยรัตน์ ตอบอย่างน่าสนใจว่า “ตามหลักคิดอาจจะใช่ แต่สุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่
ขึ้นอยู่กับว่า ตัวเราจะหมุนทันโลก ตอบโจทย์ Pain Point และความต้องการ ของผู้มาใช้บริการ
และทำให้เขายังยินดีที่จะอยู่กับเราในทุกช่วงอายุหรือไม่
ดังนั้น นี่คือโจทย์ของโรงพยาบาลที่ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
ให้ทันกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนเร็ว ต้องดิสรัปตัวเองตลอดเวลา”
นอกจากนี้ นพ.ชัยรัตน์ ยังเห็นว่า หากแนวคิดนี้ถูกต้อง และมีผู้คนนำไปใช้ด้านธุรกิจ Health Care ย่อมเกิดคุณค่าแก่ประเทศชาติโดยรวม
สุดท้ายนี้ ถ้าถามว่า มาตรวัดความสำเร็จของการเดิมพันครั้งใหญ่นี้ คืออะไร
นพ.ชัยรัตน์ ยังย้ำว่า ตัววัดความสำเร็จ คือ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับทุก Stakeholder
นอกจากในมุมของผู้มาใช้บริการ ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ก็ภูมิใจในการทำงานที่มีคุณค่า
“ผมเชื่อว่าถ้าลูกค้าแฮปปี้ องค์กรแฮปปี้ ตัวเลขก็ดี
เวลาจะทำอะไรก็ตามลูกค้าและเจ้าหน้าที่ต้องมาก่อน องค์กรต้องมาสุดท้าย
เพราะการที่องค์กรที่จะยั่งยืนได้ ต้องเริ่มจากการทำให้ชีวิตทุกคนดีกว่าเดิม
ผู้นำสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนเห็นเหมือนกัน แล้วไปลงเรือลำเดียวกันเพื่อไปสู่จุดหมาย
ผมมองว่า การชนะด้วยกำลังคน เงินทุน ยุทโธปกรณ์เป็นเรื่องธรรมดา
แต่การชนะด้วยปัญญา การเอื้อประโยชน์ให้ทุกฝ่าย คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่”
เช่นเดียวกับ สิ่งที่สมิติเวชพยายามขับเคลื่อน คือ การดูแลเด็กให้โตไปไม่ป่วย
เพื่อทำให้ Healthcare Cost โดยรวมของประเทศลดลง
ซึ่งการดูแลเด็ก 90% ที่ยังไม่ป่วย ให้โตไปไม่ป่วย ย่อมสร้างคุณค่าสูงกว่าการดูแลเด็ก 10% ที่ป่วย
เพราะอย่าลืมว่า เด็กคืออนาคตของประเทศ
สิ่งที่เรามอบให้เขาเป็นต้นทุนได้ตั้งแต่วันนี้คือ สุขภาพที่ดี ซึ่งจะนำพาชีวิตที่ดีในอนาคต ดั่งคำว่า Health Bring Wealth

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon