ทรัมป์ จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ วันที่ 2 เม.ย. เพื่อกดดันให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ  กระทบแบรนด์ผู้ผลิตจากเยอรมนี เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

ทรัมป์ จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ วันที่ 2 เม.ย. เพื่อกดดันให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ กระทบแบรนด์ผู้ผลิตจากเยอรมนี เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเปิดเผย ภาษีนำเข้าใหม่สำหรับรถยนต์ เป็นความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ และกดดันให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ
“เราจะทำเช่นนั้นประมาณวันที่ 2 เมษายน“ ทรัมป์กล่าว
การเคลื่อนไหวนี้เป็นความพยายามล่าสุดในการขยายสงครามการค้า ซึ่งทรัมป์ได้ดำเนินการตามสัญญาหาเสียง เพื่อกำหนดภาษีที่ครอบคลุมกับทั้งพันธมิตรและคู่แข่งทางการค้าของสหรัฐฯ
โดยอ้างว่า เป็นความพยายามในการแก้ไขระบบที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กำหนดภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
และนอกจากภาษีรถยนต์แล้ว
ทรัมป์ยังขู่ว่า จะขึ้นภาษีนำเข้ากับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น พลังงาน เซมิคอนดักเตอร์ และเภสัชภัณฑ์
ทั้งนี้ การขู่ขึ้นภาษีรถยนต์นี้ ส่งผลให้แบรนด์รถยนต์รายใหญ่ในญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ ตกอยู่ในเป้าหมายของทรัมป์
ในปีที่แล้ว การนำเข้ารถยนต์คิดเป็นประมาณ ครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ในสหรัฐฯ
โดยประมาณ 80% ของยอดขาย Volkswagen AG ในสหรัฐฯ เป็นรถยนต์ที่นำเข้า
65% ของยอดขาย Hyundai-Kia ในสหรัฐฯ
63% ของยอดขาย Mercedes-Benz ในสหรัฐฯ
53% ของยอดขาย Renault–Nissan–Mitsubishi ในสหรัฐฯ
52% ของยอดขาย BMW ในสหรัฐฯ
51% ของยอดขาย Toyota ในสหรัฐฯ
ก็มาจากรถนำเข้าเช่นกัน
ซึ่งประเทศที่ส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ มากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ เม็กซิโก (2.96 ล้านคัน)
รองลงมาคือ เกาหลีใต้ (1.54 ล้านคัน)
ญี่ปุ่น (1.38 ล้านคัน)
แคนาดา (1.07 ล้านคัน)
เยอรมนี (0.45 ล้านคัน)

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon