“ของที่ต้องใช้ความพยายาม ความอดทนในการไขว่คว้า ถึงจะมีคุณค่า อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักไม่มีค่า”
“ของที่ต้องใช้ความพยายาม ความอดทนในการไขว่คว้า ถึงจะมีคุณค่า อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักไม่มีค่า”
- คุณ CK Cheong และคุณดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร ในงาน THE MONEY FORUM 2024
หัวข้อ “ชำแหละกรอบความคิด ทำงาน VS ลงทุน”
- คุณ CK Cheong และคุณดิว-วีรวัฒน์ วลัยเสถียร ในงาน THE MONEY FORUM 2024
หัวข้อ “ชำแหละกรอบความคิด ทำงาน VS ลงทุน”
คุณ CK เริ่มต้นลงทุนครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี
โดยพ่อของคุณ CK เป็นคนดุ และไม่เคยชมเขา เลยอยากประชดพ่อ ด้วยการประสบความสำเร็จ เพื่อให้พ่อชม
โดยพ่อของคุณ CK เป็นคนดุ และไม่เคยชมเขา เลยอยากประชดพ่อ ด้วยการประสบความสำเร็จ เพื่อให้พ่อชม
และเริ่มทำ Part-Time 3 งาน ตั้งแต่พาหมาไปเดินเล่น ยันพี่เลี้ยงเด็ก
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพื่อหา 2,000 บาท แต่รู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับค่าเสียเวลา
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เพื่อหา 2,000 บาท แต่รู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับค่าเสียเวลา
เลยลองคิดว่า แล้วต้องทำยังไง ? ให้หาเงินได้มากขึ้น ในระยะเวลาที่สั้นลง
จึงเริ่มต้นลองเทรดเงินจำลองใน Tradingview แล้วได้รับกำไร ต่อมาก็เลยนำเงินจริงไปเทรด แต่ผลลัพธ์คือขาดทุน..
ต่อมาคุณ CK ได้เปลี่ยนสไตล์การลงทุน เลือกลงทุนในบริษัทที่ทำสินค้าที่เขารู้จักและใช้เป็นประจำ ได้แก่
- Amazon หุ้นตัวแรกที่มาจากการซื้อหนังซื้อ
- Facebook
- Google
- Apple
- Amazon หุ้นตัวแรกที่มาจากการซื้อหนังซื้อ
- Apple
ซึ่งคุณ CK เป็นคนที่หลงไหลกับเป้าหมายมาก ทุ่มเททุกอย่าง 98% ลงทุนหมดเลย มีเงินแต่ไม่ใช้เงิน ใส่เสื้อเดิม ๆ แต่นำเงินไปลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี
หลักการลงทุนของคุณ CK คือ จะต้องเป็นบริษัทที่มีสินค้าที่เขาใช้และรัก
สินค้ามีความ Sexy ส่วนงบการเงินเอาไว้ดูทีหลัง
สินค้ามีความ Sexy ส่วนงบการเงินเอาไว้ดูทีหลัง
และสิ่งที่พลิกชีวิตมาก ๆ คือ ตอนที่พอร์ตหุ้นและคริปโท โตขึ้นมาก ๆ
รู้สึกว่ามีเงินแล้ว จึงค่อยฟุ่มเฟือย ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จึงตามหาความสุข ซื้อของต่าง ๆ ซื้อหมดทุกอย่าง เคยคิดว่าความสุขคือ การซื้อแบรนด์เนม แต่จริง ๆ คือไม่ใช่..
รู้สึกว่ามีเงินแล้ว จึงค่อยฟุ่มเฟือย ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จึงตามหาความสุข ซื้อของต่าง ๆ ซื้อหมดทุกอย่าง เคยคิดว่าความสุขคือ การซื้อแบรนด์เนม แต่จริง ๆ คือไม่ใช่..
จนสับสนในชีวิต ซื้ออะไรก็ไม่ทำให้มีความสุข
ถามตัวเองอะไรที่ทำให้เคยมีความสุขก่อนหน้านี้ พบว่าความสุขคือ การตามหาเป้าหมาย
ซึ่งเจอว่าคือ การทำให้ “ประเทศไทยดีขึ้น” เพราะเห็นประเทศไทยเป็นบ้าน
ถามตัวเองอะไรที่ทำให้เคยมีความสุขก่อนหน้านี้ พบว่าความสุขคือ การตามหาเป้าหมาย
ซึ่งเจอว่าคือ การทำให้ “ประเทศไทยดีขึ้น” เพราะเห็นประเทศไทยเป็นบ้าน
สำหรับคุณดิว
อะไรคือแรงบันดาลใจ ที่ทำให้คนที่มีเงินอยู่แล้ว อยากทำธุรกิจ ?
อะไรคือแรงบันดาลใจ ที่ทำให้คนที่มีเงินอยู่แล้ว อยากทำธุรกิจ ?
แม้เกิดในครอบครัวที่มีฐานะ แต่ชีวิตไม่เคยง่าย
เนื่องจากครอบครัวมีให้อย่างเดียวคือ การศึกษา ที่เหลือต้องไปหาเอาเอง เช่น การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ อาหาร การศึกษา เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค
จนทำให้รู้สึกน้อยใจ จึงต้องหารายได้เอง
เนื่องจากครอบครัวมีให้อย่างเดียวคือ การศึกษา ที่เหลือต้องไปหาเอาเอง เช่น การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ อาหาร การศึกษา เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค
จนทำให้รู้สึกน้อยใจ จึงต้องหารายได้เอง
และคุณดิว รู้ตัวว่าเรียนไม่เก่ง เลยมาทำธุรกิจดีกว่า ซึ่งเริ่มทำธุรกิจตอนอายุ 19
คุณดิวบอกว่า การรู้จักค่าของเงินสำคัญมาก เพราะอะไรที่ได้มาง่าย ๆ คุณค่าจะไม่เยอะ
“อะไรที่มาได้ง่าย ๆ คุณค่ามันจะไม่เยอะ” รถที่คุณดิวรักที่สุด คือรถที่ซื้อมาตอนไม่มีเงิน ของที่รักที่สุด คือของที่ต้องซื้อด้วยความพยายาม ความอดทน มันทำให้รู้สึกมีคุณค่าที่จะรักษาไว้
สิ่งที่ทำให้คุณดิว หันมาลงทุนในหุ้น
เพราะรู้สึกว่า การทำธุรกิจมันเหนื่อย ต้องทำงาน ต้องดูแลกิจการแทบจะ 24 ชั่วโมง 7 วัน
และคุณดิว ไม่อยากเหนื่อยจนถึงอายุ 50 ปี
เลยหันมามองหุ้นปันผล ที่ไม่ต้องเหนื่อยบริหารเอง
เพราะรู้สึกว่า การทำธุรกิจมันเหนื่อย ต้องทำงาน ต้องดูแลกิจการแทบจะ 24 ชั่วโมง 7 วัน
และคุณดิว ไม่อยากเหนื่อยจนถึงอายุ 50 ปี
เลยหันมามองหุ้นปันผล ที่ไม่ต้องเหนื่อยบริหารเอง
การลงทุนหุ้นปันผล ได้ปันผลทุกปี แม้ราคาหุ้นลงเรื่อย ๆ
สุดท้ายถึงราคาลง แต่เราก็ยังได้ปันผล และถ้าไม่ขาย ก็ไม่ขาดทุน..
สุดท้ายถึงราคาลง แต่เราก็ยังได้ปันผล และถ้าไม่ขาย ก็ไม่ขาดทุน..
คุณดิวย้ำว่า อย่าให้ใครมาตีกรอบเรา อย่าคิดว่าไม่มีเงิน อย่าไปคิดว่าไม่มี Connection
อยากให้ทุกคนรู้จักการอดออม
Connection คือการที่คุณมีอะไรให้เขา แล้วเขามีอะไรให้คุณ
Connection คือการที่คุณมีอะไรให้เขา แล้วเขามีอะไรให้คุณ
ถ้าหามาแล้วใช้เลย จะมีรายได้แค่ทางเดียว
คนเราควรมีรายได้หลายทาง แต่การจะหารายได้ทางอื่น ควรเข้าใจในสิ่งที่จะทำ ต้องรู้จักตัวเองว่า ถนัดไหม เข้าใจไหม อย่าทำตามกระแส เพราะมันมาไวไปไว
คนเราควรมีรายได้หลายทาง แต่การจะหารายได้ทางอื่น ควรเข้าใจในสิ่งที่จะทำ ต้องรู้จักตัวเองว่า ถนัดไหม เข้าใจไหม อย่าทำตามกระแส เพราะมันมาไวไปไว
คนไทยกับเรื่องการเงินเป็นเหมือนเส้นขนาน
ถามเรื่องดารารู้หมด แต่พอถามเรื่องการเงินการลงทุน ไม่ค่อยรู้
ถามเรื่องดารารู้หมด แต่พอถามเรื่องการเงินการลงทุน ไม่ค่อยรู้
ส่วนคุณ CK มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน
ก่อนจะลงทุน ต้องออมให้ได้ก่อน
ค่าเช่า ค่ากิน ประหยัดให้ได้มากที่สุด อย่าฟุ่มเฟือย
ซึ่งตอนเริ่มมีเงิน อย่าเพิ่งซื้อของอวดเพื่อน
รายได้ที่ได้จาก Active Income นำไปสร้าง Passive Income จะทำให้เรารวยมหาศาลได้
ก่อนจะลงทุน ต้องออมให้ได้ก่อน
ค่าเช่า ค่ากิน ประหยัดให้ได้มากที่สุด อย่าฟุ่มเฟือย
ซึ่งตอนเริ่มมีเงิน อย่าเพิ่งซื้อของอวดเพื่อน
รายได้ที่ได้จาก Active Income นำไปสร้าง Passive Income จะทำให้เรารวยมหาศาลได้
สำหรับการเอาชนะตลาดหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่นิสัยของเราเองที่มองว่าเป็นเรื่องยาก
และคนที่ทำกำไรตอนเศรษฐกิจดี ตลาดกระทิง ไม่ถือว่าเก่ง
ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจลง ตลาดหุ้นตก แล้วยังรวย อันนี้ถือว่าเก่งจริง
ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจลง ตลาดหุ้นตก แล้วยังรวย อันนี้ถือว่าเก่งจริง
“ความรวยไม่ได้วัดที่เงิน แต่ความรวยวัดที่เวลา”
สุดท้ายนี้ อีกเรื่องที่คุณดิว และคุณ CK เห็นตรงกันก็คือ
คุณพ่อมีอิทธิพลต่อชีวิตค่อนข้างสูง ในการบ่มพฤติกรรมทางการเงินของลูก ๆ..
คุณพ่อมีอิทธิพลต่อชีวิตค่อนข้างสูง ในการบ่มพฤติกรรมทางการเงินของลูก ๆ..