วิกฤติ NISSAN รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ 90 ปี
วิกฤติ NISSAN รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ 90 ปี /โดย ลงทุนแมน
-ถ้าบอกว่า NISSAN เหลือเวลา 12 เดือนที่จะทำให้บริษัทอยู่รอด หลายคนคงไม่คิดมาก่อน
-ถ้าบอกว่า NISSAN เหลือเวลา 12 เดือนที่จะทำให้บริษัทอยู่รอด หลายคนคงไม่คิดมาก่อน
NISSAN ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ TOP 5 ของญี่ปุ่น กำลังเป็นประเด็นใหญ่ในแวดวงธุรกิจและยานยนต์ ณ ตอนนี้
NISSAN กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
NISSAN กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
จากผลประกอบการ 6 เดือนล่าสุด (เม.ย.-ก.ย. 2024) ของ NISSAN ที่ออกมาไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ซึ่ง NISSAN มีรายได้ 1,361,600 ล้านบาท ลดลง 1%
กำไรจากการดำเนินงาน 7,500 ล้านบาท ลดลง 90%
กำไรสุทธิ 4,400 ล้านบาท ลดลง 94%
กำไรจากการดำเนินงาน 7,500 ล้านบาท ลดลง 90%
กำไรสุทธิ 4,400 ล้านบาท ลดลง 94%
สาเหตุเป็นเพราะ NISSAN มียอดขายที่ซบเซาในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐฯ จีน รวมถึงญี่ปุ่นเอง จากการแข่งขันในตลาดรถยนต์ที่รุนแรง และ NISSAN ไม่สามารถปรับตัวสู้ในสนามรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด กับคู่แข่งในท้องถิ่นได้ เช่น Tesla ในสหรัฐฯ, BYD ในจีน
ที่นอกจากทำให้ NISSAN ขายรถได้น้อยลงแล้ว ยังต้องหั่นราคารถเพื่อไปสู้ด้วย ซึ่งส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดและผลกำไร ที่หายไปในที่สุด..
ที่สำคัญ เมื่อมาดูเรื่องสภาพคล่อง
NISSAN มีกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ติดลบ 102,000 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนล่าสุด
เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ และมีรายจ่ายลงทุน (CapEx) เพิ่มขึ้น
NISSAN มีกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ติดลบ 102,000 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนล่าสุด
เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ และมีรายจ่ายลงทุน (CapEx) เพิ่มขึ้น
ส่วนฐานะการเงินของบริษัท ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2024
มีทรัพย์สินรวม 4,297,900 ล้านบาท
หนี้สินรวม 2,868,200 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,429,700 ล้านบาท
มีทรัพย์สินรวม 4,297,900 ล้านบาท
หนี้สินรวม 2,868,200 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,429,700 ล้านบาท
ซึ่งสิ้นเดือน ก.ย. 2024 NISSAN มีเงินสดอยู่ในมือและธนาคาร อยู่ที่ 297,000 ล้านบาท ลดลง 31% เมื่อเทียบกับตอนสิ้นเดือน มี.ค. 2024
ในขณะที่ฝั่งหนี้สิน
บริษัทมีหนี้สินระยะสั้น (ที่ต้องชำระภายใน 1 ปี) รวม 1,513,300 ล้านบาท
และหนี้สินระยะยาวรวม 1,354,900 ล้านบาท
บริษัทมีหนี้สินระยะสั้น (ที่ต้องชำระภายใน 1 ปี) รวม 1,513,300 ล้านบาท
และหนี้สินระยะยาวรวม 1,354,900 ล้านบาท
หรือก็คือ ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว นอกจากบริษัทกำลังมีปัญหาเรื่องผลการดำเนินงานแล้ว
ด้วยจำนวนเงินสดที่มีอยู่ และกระแสเงินสดของบริษัท
ด้วยจำนวนเงินสดที่มีอยู่ และกระแสเงินสดของบริษัท
NISSAN ก็กำลังเริ่มเผชิญกับความท้าทายเรื่องสภาพคล่องด้วย
ซึ่งทาง NISSAN ได้ปรับประมาณการกำไรจากการดำเนินงานทั้งปี (สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2025) ลงถึง 74% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
แต่ข่าวร้ายที่ถาโถมใส่ NISSAN ยังไม่หมดเท่านี้..
เพราะ Renault กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ NISSAN และเป็นพันธมิตรกันมายาวนานกว่า 25 ปี
ได้ทำการทยอยขายหุ้นใน NISSAN ออกไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
ได้ทำการทยอยขายหุ้นใน NISSAN ออกไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งสื่อต่างประเทศก็วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ Renault อาจจะขายหุ้นอีกส่วนหนึ่งของ NISSAN ให้กับคู่แข่งอย่าง Honda ด้วยก็ได้..
การลดสัดส่วนการถือหุ้นของ Renault ทำให้เกิดคำถาม และตอกย้ำความไม่แน่นอนในอนาคตของ NISSAN เข้าไปอีก
ต้องบอกว่า สถานการณ์ปัจจุบันของ NISSAN ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
และนับจากต้นปี (YTD) ราคาหุ้นของ NISSAN ได้ร่วงลงมาแล้วกว่า -32%
และนับจากต้นปี (YTD) ราคาหุ้นของ NISSAN ได้ร่วงลงมาแล้วกว่า -32%
แต่ก็ใช่ว่า NISSAN จะไม่พยายามดิ้นรนทำอะไรเลย
เพราะไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ และแก้ไขสถานการณ์ ตั้งแต่
เพราะไม่นานมานี้ บริษัทได้ประกาศแผนปรับโครงสร้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ และแก้ไขสถานการณ์ ตั้งแต่
1) เลิกจ้างพนักงาน 9,000 ตำแหน่งทั่วโลก
ซึ่งในไทยก็โดนด้วย โดยมีรายงานว่า NISSAN เตรียมปลดหรือโยกย้ายพนักงานประมาณ 1,000 ตำแหน่งในไทย
ซึ่งในไทยก็โดนด้วย โดยมีรายงานว่า NISSAN เตรียมปลดหรือโยกย้ายพนักงานประมาณ 1,000 ตำแหน่งในไทย
สำหรับยอดขายรถยนต์ NISSAN ในไทยนั้น ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จากสภาพตลาด การแข่งขัน และกำลังซื้อของผู้บริโภค
เพราะช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. 2024 ขายได้เพียง 7,968 คัน ลดลง 43% จากปีก่อน
เพราะช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. 2024 ขายได้เพียง 7,968 คัน ลดลง 43% จากปีก่อน
2) ปรับลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20% จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน
และมีข่าวว่า ในไทยอาจยุติการผลิตบางส่วนที่โรงงานหมายเลข 1 ขอ NISSAN ในจังหวัดสมุทรปราการ
และมีข่าวว่า ในไทยอาจยุติการผลิตบางส่วนที่โรงงานหมายเลข 1 ขอ NISSAN ในจังหวัดสมุทรปราการ
ทั้งนี้ NISSAN มีโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ 2 แห่ง ด้วยกำลังการผลิตรวมกว่า 370,000 คันต่อปี ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
3) ลดเงินเดือนผู้บริหารระดับสูง คณะกรรมการบริหาร รวมถึง CEO ของบริษัท ที่เงินเดือนลดลง 50%
4) หาแหล่งเงินทุน โดย NISSAN กำลังมองหานักลงทุนรายใหม่ ซึ่งอาจเป็นกลุ่มธนาคารหรือบริษัทประกันภัย เพื่อนำเงินมาช่วยประคองบริษัทให้อยู่รอดในปีนี้
เนื่องจากหากไร้ซึ่งนักลงทุนรายใหม่ NISSAN อาจอยู่รอดต่อไปได้เพียง 12 เดือน ถึง 14 เดือนจากนี้เท่านั้น..
เนื่องจากหากไร้ซึ่งนักลงทุนรายใหม่ NISSAN อาจอยู่รอดต่อไปได้เพียง 12 เดือน ถึง 14 เดือนจากนี้เท่านั้น..
นอกจากนี้ NISSAN ยังได้ประกาศขายหุ้น 10% ในบริษัท Mitsubishi Motors ออกไป
(NISSAN ถือหุ้น Mitsubishi Motors อยู่ในสัดส่วน 34% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด)
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการฟื้นฟูกิจการฉุกเฉิน
(NISSAN ถือหุ้น Mitsubishi Motors อยู่ในสัดส่วน 34% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด)
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการฟื้นฟูกิจการฉุกเฉิน
5) เร่งปรับตัวสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า
โดยเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาด
ซึ่ง NISSAN กำลังวางแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ภายใน 18 เดือนข้างหน้า
สรุปแล้ว สถานการณ์ที่ NISSAN กำลังเผชิญ มีความท้าทายและไม่แน่นอนสูง
โดยจากแหล่งข่าวภายในของบริษัทคุยกันว่า NISSAN จะมีเวลาอีกเพียง 12 เดือน เพื่ออยู่รอด
โดยเร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับเทรนด์ของตลาด
ซึ่ง NISSAN กำลังวางแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 12 รุ่น ภายใน 18 เดือนข้างหน้า
สรุปแล้ว สถานการณ์ที่ NISSAN กำลังเผชิญ มีความท้าทายและไม่แน่นอนสูง
โดยจากแหล่งข่าวภายในของบริษัทคุยกันว่า NISSAN จะมีเวลาอีกเพียง 12 เดือน เพื่ออยู่รอด
และ 12 เดือนต่อจากนี้ ก็คงเป็นความท้าทายใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ 90 ปี ของ NISSAN..