DBS ธนาคารเบื้องหลัง การสร้างชาติของสิงคโปร์

DBS ธนาคารเบื้องหลัง การสร้างชาติของสิงคโปร์

DBS ธนาคารเบื้องหลัง การสร้างชาติของสิงคโปร์ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนคงรู้ว่า สิงคโปร์กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว เพราะระบบการศึกษา ที่สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ และวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบ
แต่รู้ไหมว่า ยังมีหนึ่งฟันเฟืองชิ้นสำคัญ ที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ด้วย นั่นคือ DBS Bank
ซึ่งปัจจุบันธนาคารแห่งนี้ มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท
ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่ามากที่สุดของสิงคโปร์
และด้วยมูลค่าขนาดนี้ ก็มากกว่าทุกธนาคารของไทย รวมกันด้วย
DBS ช่วยสร้างสิงคโปร์ให้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
สิ่งสำคัญที่จะสร้างประเทศให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
นอกจากต้องลงทุนพัฒนาคนแล้ว ก็ต้องพัฒนาเศรษฐกิจ
ของประเทศไปพร้อมกัน
ซึ่งเรื่องคน สิงคโปร์สามารถลงทุนพัฒนาระบบการศึกษาในประเทศอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีแรงงานทักษะสูง
แต่เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ ดูเป็นเรื่องยากอยู่ไม่น้อย
เพราะสิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แทบไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไร ให้สามารถพัฒนาและส่งออกได้เลย
สิงคโปร์จึงตั้งคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Board) หรือ EDB ขึ้นมาในปี 1961 ด้วยเงินอัดฉีด 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยมีเป้าหมายในช่วงแรกคือ การเปลี่ยนเศรษฐกิจให้มีความหลากหลาย และสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
เริ่มจากอุตสาหกรรมที่ไม่ซับซ้อน แล้วค่อยพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้น
หนึ่งในโครงการที่ EDB นำเงินตรงนี้ไปใช้ นั่นคือ การพัฒนาเกาะจูรง ให้กลายเป็นเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญ สำหรับโรงงานของต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระหน้าที่ของ EDB ที่ต้องดูแลหลายเรื่องมากเกินไป ไล่ตั้งแต่เรื่องการจัดสรรเงินทุนให้ธุรกิจในประเทศ การดูแลทิศทางพัฒนาเศรษฐกิจ คิดนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทำให้เวลาต่อมา EDB จึงต้องแยกหน่วยงานออกไป เพื่อกระจายงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Development Bank of Singapore หรือ DBS จึงได้เกิดขึ้นในปี 1968 เพื่อรับผิดชอบการจัดสรรเงินทุนให้กับอุตสาหกรรมในประเทศแทน EDB
โดยมีเงินทุนในการจัดตั้งธนาคาร 100 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ซึ่งเงินทุนครึ่งหนึ่งมาจากรัฐบาลสิงคโปร์
ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง มาจากธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินต่าง ๆ ในประเทศ รวมถึงจากคนทั่วไป
หลังจากได้ไฟเขียวจากรัฐบาลและเงินตั้งต้นแล้ว
DBS ก็ทำหน้าที่ในการให้สินเชื่อธุรกิจและโครงการ
ต่าง ๆ ในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น ศูนย์การค้า Plaza Singapura, คอนโดมิเนียมแห่งแรก Pandan Valley รวมไปถึงโครงการหลายแห่งบนเกาะจูรง ที่รัฐบาลต้องการให้เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ
ซึ่งหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดง นั่นคือ การให้เงินกู้กับบริษัทกล้องของเยอรมนี อย่าง Rollei พร้อมเงื่อนไขให้บริษัท มาตั้งโรงงานผลิตบนเกาะจูรงของสิงคโปร์
กลายเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เกาะจูรงเป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง จนดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานในสิงคโปร์มากขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน เกาะจูรงกลายเป็นเขตอุตสาหกรรมครบวงจร
ที่มีทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และฐานโลจิสติกส์ ที่เป็นหนึ่งในฮับสำคัญของโลก
และนอกจากให้สินเชื่อกับธุรกิจในประเทศแล้ว
DBS ยังเป็นเครื่องมือสำคัญให้คนสิงคโปร์สามารถเข้าถึง
บริการสินเชื่อกู้ซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย
เมื่อมีทั้งระบบการเงินที่เอื้อกับการเติบโตของธุรกิจ
ระบบการศึกษาที่ดี และการพัฒนาประเทศที่ชัดเจน
ทำให้เศรษฐกิจของสิงคโปร์ติดปีกพุ่งทะยานไปไกลมากขึ้น..
และที่สำคัญ ยังเป็นการช่วยให้สิงคโปร์ ลดการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมแค่อย่างเดียว
เพราะได้เน้นธุรกิจบริการทางการเงินมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงในการพัฒนาประเทศของตัวเอง
ซึ่งเรื่องนี้ ก็เป็นจิกซอว์ที่ทำให้สิงคโปร์ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางทางการเงินอันดับต้น ๆ ของโลก
ส่วน DBS เอง ก็ไปไกลกว่าการเป็นเครื่องมือทางการเงินของประเทศ เพราะให้บริการไปมากกว่า 18 ประเทศทั่วโลก
โดยปี 2023 มีสัดส่วนรายได้มาจากสิงคโปร์ 66%
ส่วนที่เหลือมาจากฮ่องกง จีน อาเซียน และประเทศอื่น ๆ
ผลประกอบการช่วงที่ผ่านมา ของ DBS
- ปี 2022
รายได้ 428,300 ล้านบาท
กำไร 212,700 ล้านบาท
- ปี 2023
รายได้ 523,300 ล้านบาท
กำไร 261,200 ล้านบาท
ตอนนี้ DBS เป็นธนาคารที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 3 ล้านล้านบาท ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของสิงคโปร์อีกด้วย
ถึงตรงนี้ ก็คงเห็นแล้วว่า DBS เป็นเครื่องมือทางการเงิน ที่สำคัญกับรัฐบาลสิงคโปร์มากแค่ไหน
เพราะถ้าไม่มีธนาคารแห่งนี้ ความฝันของสิงคโปร์ ที่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ก็อาจจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างในวันนี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติสิงค์โปร์ หรือ Temasek เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ DBS โดยถือหุ้นในสัดส่วน 29%
และปีที่แล้ว Temasek ได้รับเงินปันผลจาก DBS ไปราว 49,000 ล้านบาท..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.nlb.gov.sg/main/article-detail?cmsuuid=4b282e32-27a3-4c09-a652-8966d6b00b9b
-https://www.nlb.gov.sg/main/article-detail?cmsuuid=1ea4456f-dac4-4f57-9f9d-35d24af35807
-https://www.dbs.com/dbs-heritage/our-journey.html
-https://www.dbs.com/annualreports/2023/index.html
-https://www.forbes.com/sites/jasonbloomberg/2016/12/23/how-dbs-bank-became-the-best-digital-bank-in-the-world-by-becoming-invisible/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon