“ทุก 1 วินาที มีเงิน 16.6 ล้านบาท ผ่านแพลตฟอร์ม Visa”
“ทุก 1 วินาที มีเงิน 16.6 ล้านบาท ผ่านแพลตฟอร์ม Visa”
- สรุปมุมมองหุ้น Visa ในงาน “ลงทุนนอก 2024” โดย คุณโต-กิตติศักดิ์ โควินท์ทวีวัฒน์
- สรุปมุมมองหุ้น Visa ในงาน “ลงทุนนอก 2024” โดย คุณโต-กิตติศักดิ์ โควินท์ทวีวัฒน์
- โมเดลธุรกิจของ Visa คร่าว ๆ คือ ไปพาร์ตเนอร์กับธนาคารให้เป็นผู้ออกบัตร แล้ว VISA เป็นคนให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับชำระเงิน และมีร้านค้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ มีเครือข่าย 150 ล้านแห่งทั่วโลก
โดย Visa จะเก็บ % ของยอดใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มจากร้านพาร์ตเนอร์
โดย Visa จะเก็บ % ของยอดใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มจากร้านพาร์ตเนอร์
หมายความว่ายิ่ง Transaction หรือ ยอดใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม Visa ยิ่งเยอะ Visa ยิ่งมีรายได้เยอะ
Visa มีการ์ดในระบบกว่า 4,000 ล้านใบ
ปริมาณยอดใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม ในรอบ 12 เดือนล่าสุด กว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ = 499 ล้านล้านบาท ต่อปี
ปริมาณยอดใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม ในรอบ 12 เดือนล่าสุด กว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ = 499 ล้านล้านบาท ต่อปี
- โดยทุก 1 วินาที เฉลี่ยแล้วมีเงินผ่านแพลตฟอร์ม Visa ประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ = 16.6 ล้านบาท และเติบโตเรื่อย ๆ ทุกปี
- Visa มีโครงสร้างต้นทุนคือ Fixed Cost หรือต้นทุนคงที่สูง
แต่ Variable Cost หรือต้นทุนผันแปรต่ำ
แต่ Variable Cost หรือต้นทุนผันแปรต่ำ
โครงสร้างแบบนี้ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Operating Leverage คือยิ่งหา Transaction ได้มากหา Volume ผ่านแพลตฟอร์มได้มาก จะยิ่งทำให้ Profit Margin สูง
โดยที่ Net Profit Margin ของ Visa ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 54.72%
สรุปคือการที่ Visa มี Fixed Cost สูงมาก แต่ยังมีความสามารถทำอัตรากำไรได้สูงมาก และยาวนาน สะท้อนว่ามีป้อมปราการ ที่แข็งแกร่งมาก
ความสามารถแบบนี้ ทำให้แม้รายได้โตไม่ต้องเยอะ แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นมา จะไหลลงมาเป็นกำไรแทบทั้งหมด..
ลองเทียบให้เห็นภาพเรื่องความสามารถในการทำกำไร Apple vs Visa
- Apple
Gross Profit Margin = 45.92%
Net Profit Margin = 26.44%
Gross Profit Margin = 45.92%
Net Profit Margin = 26.44%
- Visa
Gross Profit Margin = 80.18%
Net Profit Margin = 54.72%
Gross Profit Margin = 80.18%
Net Profit Margin = 54.72%
หรือ Visa มีความสามารถในการทำกำไรสูงกว่า Apple เท่าตัว..