ทุเรียนเวียดนาม กำลังชิง ส่วนแบ่งตลาดจีน จากไทย

ทุเรียนเวียดนาม กำลังชิง ส่วนแบ่งตลาดจีน จากไทย

ทุเรียนเวียดนาม กำลังชิง ส่วนแบ่งตลาดจีน จากไทย /โดย ลงทุนแมน
ส่วนแบ่งการนำเข้าทุเรียนสดของจีน ตลาดหลักสำคัญที่บริโภคทุเรียนมากที่สุดในโลก จะมาจาก
ปี 2022
- ไทย 95%
- เวียดนาม 5%
ปี 2023
- ไทย 68%
- เวียดนาม 32%
พูดได้ว่า 1 ปีที่ผ่านมา ทุเรียนเวียดนาม กำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของทุเรียนไทยก็คงไม่ผิดนัก
อะไรที่ทำให้เวียดนาม มาถึงจุดนี้ได้ ?
แล้วทุเรียนเวียดนาม มีดีอะไร ทำไมเจาะตลาดจีนได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ ต้องบอกว่า เวียดนามมีทุเรียนสายพันธุ์ท้องถิ่นอยู่แล้ว เช่น ทุเรียน Kho Qua Xanh ที่มีเนื้อแฉะ หรือทุเรียน Chin Hoa ที่มีรสชาติหวานมัน เมล็ดเล็ก
แต่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเวียดนามไม่ได้ส่งเสริมการเพาะปลูกทุเรียนอย่างเป็นจริงเป็นจัง
จนกระทั่งในช่วงปี 1986 จุดเริ่มต้นของนโยบาย Doi Moi หรือโด่ย เหมย แผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศของเวียดนาม
หนึ่งในแผนคือมีการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรกรรม โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูก วิจัย และพัฒนาข้าว
จนมาวันนี้ ทำให้เวียดนามก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าว 1 ใน 3 รายใหญ่สุดของโลก
ความสำเร็จที่เกิดขึ้น รัฐบาลเวียดนามจึงต่อยอด ส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกพืชอื่นมากขึ้น นอกเหนือจากข้าว
รวมทั้งมีการผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน
ทำให้เกษตรกรได้รับอิสระในการจัดการที่ดินมากขึ้น
ส่งผลให้เวียดนามเริ่มผลิตสินค้าเกษตรอื่น ๆ เช่น กาแฟ, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ชา, พริกไทย, ยางพารา
จนเวียดนาม กลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเบอร์ต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะกาแฟ ที่เป็นผู้ส่งออกอันดับ 2
อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรกรรมของเวียดนาม ได้เจอกับความท้าทายอีกครั้ง เพราะต้องเจอคู่แข่งมากขึ้น หลังจากเข้าร่วมในองค์การการค้าโลก (WTO) เมื่อปี 2007
ซึ่งการขายสินค้าเกษตรราคาถูกแบบเดิม คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอีกต่อไป รัฐบาลเวียดนาม จึงเริ่มผลักดันสินค้าเกษตรของตัวเองให้มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม และมีขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย
โดยสินค้าเกษตรที่ถูกผลักดันอย่างเต็มที่
ก็คือ ผักและผลไม้..
รัฐบาลเวียดนาม วางมาตรฐาน GAP หรือขั้นตอนการผลิตสินค้าเกษตรที่ดี ให้เทียบเคียงเกณฑ์ระดับโลก พร้อมออกใบรับรองให้หากผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
และส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีประยุกต์กับการเกษตรมากขึ้น มากกว่านั้นคือ การขยับมาขายสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น
ทำให้ทุเรียน กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ปลูกมากขึ้นในเวียดนาม โดยเฉพาะในแถบที่ราบสูงตอนกลาง ภาคตะวันตกเฉียงใต้ และดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
จากปี 2015 เวียดนามมีพื้นที่ปลูกทุเรียนประมาณ 200,000 ไร่ ก็ขยับมาเป็น 962,500 ไร่ในปีที่ผ่านมา
เรียกได้ว่า โตขึ้นเป็น 5 เท่า ภายใน 8 ปี
ซึ่งไม่ได้มีแค่การปลูกทุเรียนสายพันธุ์ท้องถิ่น เช่น ทุเรียน Ri 6 เท่านั้น แต่ยังมีการปลูกทุเรียนสายพันธุ์ต่างประเทศ เช่น ทุเรียนหมอนทอง อีกด้วย
แต่เมื่อผลผลิตมากขึ้น เวียดนามก็ต้องหาตลาดรองรับ เพื่อส่งออกผลผลิตออกไปนอกประเทศให้ได้
จนในที่สุด กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม เจรจากับจีนได้สำเร็จ ทำให้สามารถส่งออกทุเรียนสดไปจีนได้ในปี 2022 ที่ผ่านมา
โดยจีนเองนั้น ก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับการนำเข้าทุเรียนเป็นอย่างมาก โดยผลผลิตต้องมีมาตรฐานคุณภาพตามที่กำหนด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับของผลผลิตได้
เมื่อได้ไฟเขียวจากรัฐบาลจีน แถมยังมีพื้นที่ติดกับชายแดนจีนตอนใต้ เวียดนาม จึงส่งออกทุเรียนไปจีน ได้อย่างรวดเร็วกว่าไทย
จากข้อมูลราคาทุเรียนที่ตลาดเจียซิง ประเทศจีน
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2024 จะพบว่า
- ทุเรียนไทย ราคา 182-208 บาทต่อกิโลกรัม
- ทุเรียนเวียดนาม ราคา 156-189 บาทต่อกิโลกรัม
เห็นได้ชัดว่า ทุเรียนไทยมีช่วงราคาที่แพงกว่า ทุเรียนเวียดนามมาก เหตุผลหลักมาจากต้นทุนการขนส่งที่สูงกว่า และทุเรียนไทย ขายในราคาที่พรีเมียมมากกว่า
นอกจากนี้ ทุเรียนเวียดนามให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
ต่างจากทุเรียนไทย ที่ให้ผลผลิตแค่บางช่วงเท่านั้น
ทำให้เวียดนาม สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดจีนได้อย่างต่อเนื่อง
แถมกระแสส่งออกทุเรียนที่บูม ทำให้เกษตรกรชาวเวียดนาม หันมาปลูกทุเรียนแทนกาแฟมากขึ้น เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า
1 ไร่ของกาแฟ จะได้กำไรประมาณ 33,000 บาทต่อปี
แต่ 1 ไร่ของทุเรียน จะได้กำไรประมาณ 365,000 บาทต่อปี
หรือห่างกัน 10 เท่าเลยทีเดียว
จากทั้งหมดนี้ ทั้งการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนาม และผลผลิตทุเรียนเวียดนามที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เวียดนามสามารถครองตลาดจีนได้มากขึ้น
ซึ่งต่อไป ไทยก็คงต้องเจอกับการแข่งขันจากเวียดนามที่รุนแรงมากกว่าเดิม ทั้งราคาและต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทย
แต่สิ่งที่ทุเรียนไทยต้องทำต่อไป ไม่ใช่การไปแข่งราคากับใครให้ถูกกว่า กลับกันต้องหันไปเน้นสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ทุเรียนไทย มีความพรีเมียม มีคุณภาพสูงขึ้น และเป็นที่ต้องการของตลาด แม้จะขายในราคาแพงขึ้นก็ตาม..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
https://www.opsmoac.go.th/shanghai-situation_pric
https://english.news.cn/20231211/acc6ac16fbdc4fd990181e1089110cff/c.html
https://www.statista.com/statistics/1268823/china-import-value-of-fresh-durian/
https://thaipublica.org/2024/07/thai-durian-faces-fierce-competition-in-china/
https://www.ditp.go.th/post/175964
https://www.freshplaza.com/asia/article/9629586/durian-cultivation-impacts-vietnam-s-coffee-industry/
https://e.vnexpress.net/news/business/economy/farmers-shift-to-durian-pushes-up-coffee-prices-4743144.html
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon