OR x ลงทุนแมน

ถ้าถามว่า ธุรกิจอะไร ที่เป็นเมกะเทรนด์ตอนนี้ หลายคนก็อาจจะนึกถึงธุรกิจ AI ที่บริษัทระดับโลกต่างแห่กันเข้ามาลงทุนและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น

- Google เจ้าของเซิร์ชเอนจินใหญ่สุดในโลก
- Meta เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook, Instagram
- Microsoft เจ้าของ ChatGPT

แต่ยังมีอีกธุรกิจหนึ่ง ที่เคยเป็นกระแสในช่วงก่อนหน้า ซึ่งคนอาจจะลืมกันไปแล้ว นั่นก็คือ ธุรกิจรถยนต์ EV ที่ในวันนี้ ก็ยังเติบโตได้อยู่

และบริษัทอย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เองก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เช่นกัน

คำถามคือ แล้ว OR ได้ประโยชน์จากธุรกิจอะไร ?
แล้วจะเติบโตต่อไปได้อีกแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นก็มาดูกันก่อนว่า OR ทำธุรกิจอะไรบ้าง ? สัดส่วนรายได้เท่าไร ? ซึ่งก็จะมี

- 91% ธุรกิจ Mobility อย่างเช่น สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สถานีชาร์จรถ EV

- 6% ธุรกิจ Global เป็นธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในต่างประเทศ

- 3% ธุรกิจไลฟ์สไตล์ อย่างเช่น ร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน

- 1% ธุรกิจอื่น ๆ

จะเห็นได้ว่า ธุรกิจหลักของ OR ยังเป็นธุรกิจพลังงาน
ซึ่งถ้าพูดถึง ธุรกิจน้ำมัน หลายคนก็อาจจะมองว่า อิ่มตัวแล้ว

แต่ถ้าพูดถึง ธุรกิจสถานีชาร์จ EV ภาพตรงนี้ก็อาจจะต่างกันออกไป
เพราะ OR ได้ประโยชน์จากกระแสที่คนเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป มาใช้รถยนต์ไฟฟ้า กันมากขึ้น

คำถามคือ ช่วงที่ผ่านมา คนไทยเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขนาดไหน ?

- ปี 2565 รถยนต์สันดาป 80% รถยนต์ไฟฟ้า 20%
- ปี 2566 รถยนต์สันดาป 59% รถยนต์ไฟฟ้า 41%

จะเห็นได้ว่า แค่ปีเดียวสัดส่วนตรงนี้ ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ก็ทำให้ OR ที่มีธุรกิจสถานีชาร์จ EV ได้ประโยชน์ตามไปด้วย

ซึ่ง OR เองก็มีข้อได้เปรียบตรงที่ขยายการเติบโตของสถานีชาร์จ EV ได้เลย ผ่านสาขาของ PTT Station ที่มีอยู่แล้ว

ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องจำนวนสาขาของ PTT Station แล้ว ก็ต้องบอกว่ามีจำนวนมากที่สุดในไทย และตั้งอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ

เลยทำให้การขยายสถานีชาร์จของ OR เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่ผ่านมา

- ปี 2565 131 สาขา
- ปี 2566 705 สาขา
- ปี 2567 950 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 67)

โดยปัจจุบัน OR ติดตั้งสถานีชาร์จไปแล้วเพียง 2 ใน 5 ของ PTT Station ทั้งหมด เรียกได้ว่ายังเหลือพื้นที่ให้เติบโตได้อีกเยอะ

และในเดือนกันยายน 2567 นี้เอง OR ก็กำลังขยายสถานีชาร์จแบบใหม่ เป็น Charging HUB

ซึ่งมีจุดเด่นก็คือ ชาร์จไฟได้เร็ว สูงถึง 180kW
สามารถรองรับการชาร์จได้พร้อมกันถึง 8 คัน

โดยตอนนี้ Charging HUB ได้เปิดให้บริการแล้วใน PTT Station สระบุรี และหัวหิน
และกำลังจะเปิดเพิ่มจนครบ 10 สถานีในปี 2567

เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ผ่านเส้นทางสำคัญ อย่างเช่น จ.นครราชสีมา, จ.กำแพงเพชร, จ.ชุมพร, จ.บุรีรัมย์, จ.ขอนแก่น, จ.พิจิตร, จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชลบุรี

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ธุรกิจพลังงานของ OR ยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีก จากกระแสเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าของคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

แต่ถึงอย่างนั้น ธุรกิจสถานีชาร์จรถ EV ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง อย่างการใช้เงินลงทุนสูงที่อาจจะถึง 1-2 ล้านบาทต่อจุดชาร์จ รวมทั้งความเสี่ยงเรื่องทำเลที่ตั้ง และคู่แข่ง อีกด้วย

แต่ OR ก็ยังลงทุนในธุรกิจนี้ เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับคนไทยในอนาคตที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น สังเกตุได้ว่าไม่ว่าทิศทางพลังงานจะเปลี่ยนไปทิศทางใด วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำของ OR มุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับคนไทย นั่นเอง..

#EVStationPluZ
#EVStationPluZChargingHUB
#OR

Reference
-https://www.erc.or.th/th/energy-articles/3094