Webull x ลงทุนแมน

“ทำไมคนไทยต้องเสียเปรียบคนต่างประเทศเรื่องการลงทุน ทำไมคนไทยต้องดิ้นรนไปเปิดบัญชีเทรดในอเมริกา ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ เพื่อให้ได้ใช้เครื่องมือที่สู้กับชาวโลกได้..

เราอยากยืนอยู่ข้างนักลงทุนไทยแบบเช้าตื่นมา เปิดหน้าต่างออกไป แล้วเหมือนอยู่นิวยอร์กเลย

วันนี้คนอเมริกันเทรดหุ้นกันอย่างไร คนไทยต้องได้เทรดหุ้นแบบเดียวกัน
ด้วยแพลตฟอร์มเดียวกันที่มีชื่อว่า Webull”

หากใครสงสัยว่า Webull คือใคร ?
คนที่เกริ่นประโยคข้างต้นและตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือ คุณชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด

ภายใต้โลกไร้รอยต่อ ที่ขยายโอกาสการลงทุนให้กว้างขึ้น
การเข้ามาของ Webull ในไทย จะสร้างประโยชน์ให้กับนักลงทุนไทยแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

คุณชลเดช เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า “ประเทศไทยเป็น Upper Middle-income Country ที่กำลังพอดี
ทั้งในแง่ของรายได้เฉลี่ย 7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี (GDP per Capita) รวมทั้งองค์ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนและเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน ตลาดทุนของไทย ก็พูดได้ว่าค่อนข้างพัฒนา
สังเกตได้จากความหลากหลายของสินค้าที่มีอยู่ใน SET รวมทั้งบริษัทหุ้นไทย ก็ติดแชมป์โลกด้าน ESG เยอะมาก”

ประเทศไทยดูหอมหวานไม่น้อย สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
หนึ่งในนั้นก็คือ Webull ซึ่งเป็น Fintech Unicorn ระดับโลก ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานหลายสิบล้านคน จาก 180 ประเทศทั่วโลก
และหนึ่งในประเทศล่าสุดก็คือ ประเทศไทย

แล้ว Webull ต่างจากแอปฯ คู่แข่งตอนนี้อย่างไร ?

คุณชลเดช ตอบว่า “ถ้าพูดถึง Investment Platform ระดับโลก
ถ้าด้านหนึ่งคือกลุ่มนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือเป็นกลุ่มที่ Sophisticated น้อยสุด เช่น Robinhood เขาจะเน้นฟังก์ชันแบบ Lean เหมาะกับนักลงทุนที่ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะซื้ออะไร ซื้อหุ้นของบริษัทที่คุ้นเคย แค่เข้าแอปฯ เพื่อไปซื้อหุ้นตัวนั้น ๆ

อีกด้านหนึ่งคงเป็น Professional Trader/Investor ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Sophisticated มาก ๆ ก็เช่น IBKR

ตำแหน่งของ Webull อยู่ตรงกลางค่อนไปข้าง Professional สูง คือมีเครื่องมือคล้าย IBKR แต่ต้องใช้งานง่าย ๆ คล้ายกับ Robinhood

เรามองว่า Webull จะเป็น Best-in-class Platform ให้กับนักลงทุนไทยได้”

โดยตอนนี้สิ่งที่จะทำให้ Webull เป็นบริการที่ดีที่สุดในประเทศไทย อยู่ภายใต้ 3 Keywords สำคัญ คุณชลเดช อธิบายว่า

“ข้อแรก คือ Real-time

นักลงทุนไทยจะเห็นราคาแบบ Real-time มากถึง 50 Bid 50 Offer และยังลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ 7 โมงเช้า วันจันทร์ ไปจนถึง 7 โมงเช้า วันเสาร์ ตามเวลาประเทศไทย

ไม่ต้องห่วงเลยในเรื่องการส่งคำสั่ง ความเร็วของแพลตฟอร์ม หรือ Trading Tools ต่าง ๆ
อย่าง Technical Chart จะแสดงผลแบบ Real-time ทั้งในรูปแบบ Indicator และ Signal ต่าง ๆ
หรือถ้าใครชอบติดตามข่าวสาร ก็มีฟังก์ชัน Real-time News Feed ทั้งจาก Dow Jones, WSJ, Benzinga ฯลฯ

พูดได้ว่า Real-time ทั้งด้านราคา, กราฟเทคนิค และข่าวสารจริง ๆ

ข้อที่ 2 คือ Order Types

ปกติแล้ว หุ้นที่เราซื้อต้อง Match ก่อน ถึงจะตั้งคำสั่งเพื่อทำกำไร หรือตัดขาดทุนได้
แต่ใน Webull มีหลากหลายคำสั่งอัตโนมัติ แค่เข้ามาตั้งคำสั่งครั้งเดียว ก็ปิดจอไปทำงานอื่น ๆ ได้เลย

เช่น ฟังก์ชัน Limit + Take Profit/Stop Loss ที่ตั้งคำสั่ง 3 ราคาได้ในครั้งเดียว ทั้งราคาซื้อ, ราคาขายกำไร และราคาขายเพื่อตัดขาดทุน

สมมติว่า หุ้น Apple ราคาเทรดกันอยู่ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เราอยากซื้อที่ต่ำกว่านั้นพร้อมกับตั้งราคาขายไว้เลย เราสามารถส่งคำสั่งเสนอซื้อ (Bid) ที่ 218 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้า Match ระบบจะทำงานอัตโนมัติไปตั้งราคาขายเพื่อ Take Profit ที่ 222 ดอลลาร์สหรัฐ และ Stop Loss ที่ 216 ดอลลาร์สหรัฐ
คือส่งคำสั่งทีเดียว ในการตั้งทั้ง 3 ราคาพร้อมกันได้เลย

หรือฟังก์ชัน Trailing Stop ที่ตั้งราคาขาย Take Profit ถ้าราคาหุ้นย่อตัวจากจุด High ได้เลย

ซึ่งตอนนี้ Webull มี Order Type ถึง 7 ประเภทให้เลือกใช้

ข้อที่ 3 คือ Desktop Version

ฟังก์ชันนี้เหมาะกับสาย Trader สามารถต่อหลาย ๆ จอ แล้วลิงก์ข้อมูลแบบ Real-time ได้เลย มองเห็นเส้นราคาต้นทุนในจอ ไปพร้อม Indicator หรือ Signal ต่าง ๆ พร้อมกับกดเลือกราคาจากกราฟได้เลย”

ถึงตรงนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Webull กลายเป็นแพลตฟอร์มติดอาวุธพร้อมออกสนามรบในโลกของการลงทุนที่ครบเครื่องจริง ๆ

“ส่วนใครที่กังวลเรื่อง Pattern Day Trader (PDT) ที่จำกัดจำนวนการเทรด ถ้าเกินจำนวนที่กำหนด บัญชีจะถูกล็อก

ขอบอกเลยว่า Webull ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเทรด นักลงทุนเทรดได้เลยเต็มที่

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ ค่าคอมฯ ถูกมาก เพียงแค่ 0.10% ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำด้วย”

สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ นอกจาก Webull จะเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำสัญชาติอเมริกันรายแรก ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเทรดหุ้นสหรัฐฯ กว่า 15,000 บริษัทชั้นนำแล้ว
Webull ยังมีบริการลงทุนกองทุน ETF และสัญญาออปชันด้วย

คุณชลเดช เล่าต่อว่า “ETF ถือว่าเปิดโอกาสในเรื่อง Asset Allocation ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มตราสารหนี้, กลุ่มดัชนีหุ้น, กลุ่ม Property, กลุ่ม Commodity

ส่วนสัญญาออปชันในสหรัฐอเมริกา นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ มีสภาพคล่องสูง เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับสาย Trader”

แล้ว Webull วางเป้าหมายอนาคตในไทยไว้อย่างไร ?

คุณชลเดช ตอบว่า “เราวางเป้าหมาย 200,000 บัญชี ภายใน 2 ปี
ซึ่งในระยะยาว Webull จะทยอย Onboard ฟังก์ชัน และสินค้าที่น่าสนใจออกมาอีกแน่นอน

การเข้ามาของ Webull ซึ่งเป็น Global Player จะทำให้ตลาดโบรกเกอร์ในไทยร้อนแรงมากขึ้น

แต่เชื่อว่าคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือ นักลงทุนไทย
เพราะการแข่งขันที่เกิดขึ้น จะทำให้เกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็น Global Player หรือ Local Player ก็จะมีตลาดที่เป็นจุดยืนของตนเอง

อย่าง Webull เอง นอกจากพัฒนาแอปฯ รองรับนักลงทุนรายย่อยแล้ว
อีกมุมหนึ่ง ยังให้บริการ B2B เป็นระบบหลังบ้านรองรับ Order จากสถาบันต่าง ๆ ด้วย

รวมทั้งการร่วมมือกับ Partner อีกหลากหลายบริษัท ซึ่งกำลังจะทยอยเปิดตัวในอนาคต”

หากใครอยากรู้จัก Webull แบบใกล้ชิดกันมากขึ้น
จริง ๆ แล้ว Webull มีนโยบายเสริมสร้างความรู้ในรูปแบบสัมมนาเป็นประจำทุกไตรมาส

โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ให้นักลงทุนไทยแบบฟรี ๆ
แม้จะไม่ได้เป็นลูกค้า Webull ก็ตาม

คุณชลเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า “นาทีนี้ คงไม่มีใครรู้จักตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีเท่ากับโบรกเกอร์อเมริกันเอง
นั่นคือ เหตุผลที่นักลงทุนไทย ควรมีโอกาสได้เปิดรับข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศจริง ๆ

สัมมนาล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ Webull Exclusive Seminar เรื่อง คว้าโอกาสและจัดการความเสี่ยงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

มาพบกันได้ที่ The Great Room อาคาร Gaysorn Tower ชั้น 25 & 26
ในวันที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 13.30-17.00 น. นี้”

ถึงตรงนี้ แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่า นักลงทุนไทยที่ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ มีจำนวนมากน้อยเพียงใด

แต่การเข้ามาของ Webull ที่เป็น Global Player คงต้องสะท้อนแล้วว่า หากประเทศไทยมีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนหุ้นต่างประเทศ

เราอาจได้เห็นจำนวนนักลงทุนหุ้นต่างประเทศ ไม่ต่างจากจำนวนนักลงทุนหุ้นไทย ก็เป็นได้..

Reference
- บทสัมภาษณ์โดยตรง คุณชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด โดย ลงทุนแมน