น้ำท่วม คลื่นซัดเศรษฐกิจไทย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก /โดย ลงทุนแมน
น้ำท่วม เป็นข่าวที่เรามักจะได้ยินกันเป็นประจำแทบทุกปี ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมของแต่ละปีเป็นต้นไป

ซึ่งทุกข่าวล้วนเป็นการรายงานผลกระทบและความเดือดร้อน ที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วม

แล้วตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เราต้องเสียอะไรไปบ้างกับน้ำท่วม..
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
630,354 ล้านบาท คือมูลค่าความเสียหายของเหตุการณ์น้ำท่วม เมื่อปี 2554 ที่ทำให้บ้านเรือนของผู้คน โรงงาน อาคารห้างร้าน และอีกหลายสิ่งปลูกสร้าง ต้องพังทลายลง

และอีก 795,191 ล้านบาท คือรายได้ที่หายไปและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ที่พวกเราทุกคนต้องร่วมกันรับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนั้น

ซึ่งรวมแล้วก็มากกว่า 1.43 ล้านล้านบาท

ถ้าถามว่ามูลค่าความเสียหายนี้ มากขนาดไหน ?

- สามารถนำไปสร้างรถไฟฟ้าได้เกือบ 20 สาย หรือมากกว่าทั้งหมดที่เรามีอยู่ในตอนนี้

- สามารถนำไปแจกคนไทยทั้งประเทศ ได้คนละ 20,000 บาท

- สร้างรถไฟความเร็วสูงได้ 4 สาย ไปได้ทุกภาคในประเทศไทย

โดยความเสียหายจำนวนนี้ ก็มาจากเหตุการณ์น้ำท่วมเพียงครั้งเดียว
ไม่รวมอีกหลายครั้ง ที่เราต้องเจอตลอดเวลาที่ผ่านมา..

และที่สำคัญ นี่ยังไม่นับรวมความเสียหาย หรือความสูญเสียใด ๆ ก็ตาม ที่ไม่สามารถวัดเป็นตัวเงินออกมาได้ โดยเฉพาะชีวิตของผู้คน

ซึ่งถ้าย้อนจำนวนสถานการณ์อุทกภัย ที่เราต้องเจอในแต่ละปี จะพบว่า

ปี 2564 : 72 ครั้ง
ปี 2565 : 85 ครั้ง
ปี 2566 : 82 ครั้ง

ในแต่ละปี ก็มีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน

และถ้าถามว่า ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม เราต้องเสียอะไรไปบ้าง

1. งบประมาณที่ต้องใช้ในการจัดการภัยพิบัติและฟื้นฟู แทนที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาด้านอื่น

อย่างในปี 2564 เราก็ต้องเสียงบไปกว่า 20,000 ล้านบาท สำหรับการฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบในครั้งนั้น

2. รายได้ที่หายไป เนื่องจากสินทรัพย์สำหรับสร้างรายได้เสียหาย ไม่ว่าจะเป็น

- เกษตรกร ต้องเสียผลผลิตทางการเกษตร
- ภาคอุตสาหกรรม ต้องหยุดการผลิต เพราะโรงงานน้ำท่วม
- ภาคการท่องเที่ยว ต้องหยุดการให้บริการ

เมื่อรายได้หาย ก็ทำให้หลายคนต้องนำเงินออมหรือต้องกู้เงินเพื่อใช้ในการดำรงชีพหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ตลอดจนซื้อข้าวของเครื่องใช้

และก็กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงในทุกวันนี้

นอกจากนี้ สำหรับคนที่ไม่ได้รับผลกระทบทางตรง จากทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังอาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อม

เช่น นักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในตลาดหุ้น ก็ต้องเจอกับภาวะตลาดหุ้นที่ค่อนข้างแย่ อย่างในปี 2554 ตลาดหุ้นก็ร่วงจาก 1,100 จุด เหลือเพียง 840 จุด
เนื่องจากมีหลายบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น

- บริษัทประกัน ที่ขาดทุนจากการเคลมประกัน
- สถาบันการเงิน ที่เจอการผิดนัดชำระหนี้และปล่อยสินเชื่อได้ลดลง
- กลุ่มยานยนต์ ที่ขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต
- นิคมอุตสาหกรรม ที่โดนน้ำท่วม
- อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ที่ต้องชะลอโครงการ

และสำหรับในปีนี้ ก็มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าความเสียหายในช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน จะอยู่ที่ 6,000-8,000 ล้านบาท โดยภาคการเกษตร จะได้รับผลกระทบมากที่สุด

สำหรับในปีต่อ ๆ ไป ก็คงยังไม่มีใครตอบได้ว่า เราจะต้องเจอน้ำท่วมบ่อยและรุนแรงแค่ไหน

แต่ก็อย่างที่หลายคนรู้ ว่าตอนนี้โลกของเรากำลังเจอกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อ 50 ปีก่อน โลกของเราเกิดภัยธรรมชาติไม่ถึง 100 ครั้งต่อปี แต่ในวันนี้เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 300 ครั้ง

หรือเรียกได้ว่า มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน

ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และเตรียมตัวรับมือ ในการที่จะอยู่ร่วมกับมัน ทั้งในแง่ของการเป็นนักลงทุน หรือเป็นผู้ประสบภัย..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
- ศูนย์ข้อมูลสาธารณภัย
- World Bank
- ธนาคารแห่งประเทศไทย