ธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับทั่วโลก กำลังยอมขาดทุนล้านล้าน เพื่อแทนที่คนขับแท็กซี่เดิม ๆ
ธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับทั่วโลก กำลังยอมขาดทุนล้านล้าน เพื่อแทนที่คนขับแท็กซี่เดิม ๆ /โดย ลงทุนแมน
“แท็กซี่ไร้คนขับ” ธุรกิจล้ำ ๆ แห่งอนาคต ที่เชื่อกันว่าจะเข้ามาปฏิวัติวงการขนส่ง
“แท็กซี่ไร้คนขับ” ธุรกิจล้ำ ๆ แห่งอนาคต ที่เชื่อกันว่าจะเข้ามาปฏิวัติวงการขนส่ง
ขณะนี้ ผู้พัฒนาในประเทศต่าง ๆ กำลังเร่งลงทุนมหาศาล และเริ่มเปิดให้บริการในบางพื้นที่แล้ว เพื่อสร้างฐานผู้บริโภคให้ได้ก่อนใคร
แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น จุดที่รถไร้คนขับจริง ๆ อย่างสมบูรณ์แบบ และวิ่งบนท้องถนนอย่างแพร่หลาย เหมือนในภาพยนตร์ไซไฟ
บริษัทแท็กซี่ไร้คนขับแต่ละเจ้า ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล จนหลายรายขาดทุนหลักแสนล้านบาทต่อปี
ตอนนี้ สถานการณ์ธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับทั่วโลก เป็นอย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมื่อพูดถึงแท็กซี่ไร้คนขับ ประเทศแรกที่มีผู้เล่นชั้นนำหลายราย คือ สหรัฐอเมริกา
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมื่อพูดถึงแท็กซี่ไร้คนขับ ประเทศแรกที่มีผู้เล่นชั้นนำหลายราย คือ สหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นที่ “Waymo” ธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับของ Google ซึ่งเปิดให้บริการแบบเต็มตัว เมื่อปลายปี 2020
ล่าสุด Waymo มีรถยนต์พร้อมใช้งาน 700 คัน และให้บริการมาแล้วกว่า 20 ล้านไมล์ ในเมืองซานฟรานซิสโก, ฟีนิกซ์ และลอสแอนเจลิส
แม้ Google ไม่ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานแยกออกมาโดยตรง แต่ Waymo นับเป็นธุรกิจหลักในกลุ่ม Other Bets ของงบการเงินบริษัท ซึ่งปี 2023 ขาดทุนอยู่ประมาณ 138,000 ล้านบาท
รายต่อมา คือ “Cruise” ซึ่งมีค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง General Motors เป็นเจ้าของ
Cruise เปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับครั้งแรก เมื่อปลายปี 2021 มีฐานที่มั่นหลักคือ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเตรียมวางแผนขยายไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อ
แต่ในปี 2023 ผลการดำเนินงานของ Cruise ยังขาดทุนกว่า 116,000 ล้านบาท รวมทั้งธุรกิจมีผลขาดทุนสะสมถึง 272,000 ล้านบาท นับตั้งแต่ General Motors ได้เข้ามาซื้อกิจการเมื่อ 8 ปีก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเดือนตุลาคม 2023 รถยนต์ของ Cruise ดันเกิดอุบัติเหตุชนคนอย่างรุนแรง ทำให้ถูกภาครัฐสั่งระงับบริการไว้ก่อน จนกว่าจะแก้ไขให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้
ซึ่งกระทบต่ออนาคตของ Cruise พอสมควร เพราะบริษัทถูกหั่นงบประมาณลงทุนกว่า 34,000 ล้านบาท และปลดพนักงานไปถึง 1 ใน 4 ของทั้งหมด
อีกรายที่ต้องพูดถึง คือ “Tesla” ซึ่งมีระบบขับขี่อัตโนมัติให้เห็นในรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองอยู่แล้ว
ตอนแรก Tesla วางแผนเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับเต็มรูปแบบ หรือ Robotaxi เมื่อต้นปี 2024 โดยกล่าวว่า เจ้าของรถยนต์ Tesla จะสามารถใช้รถของตนเองเป็น Robotaxi ได้
แต่ทว่า Tesla ได้เลื่อนแผนการออกไปเป็นเดือนตุลาคมนี้แทน.. เนื่องจากต้องการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยให้แน่ใจเต็มร้อยเสียก่อน
ซึ่งก็ต้องติดตามว่า เดือนหน้าที่จะถึงนี้ อีลอน มัสก์ จะสามารถเปิดตัว Robotaxi ได้อย่างที่สัญญาหรือไม่
ทีนี้ ลองข้ามฟากมาดูประเทศจีน ที่ก็พัฒนาไปไกลไม่แพ้กัน
“Baidu” บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ได้เปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ ชื่อว่า Apollo Go ตั้งแต่ปลายปี 2021 และให้บริการมาแล้วกว่า 62 ล้านไมล์ ในหลายเมืองใหญ่
โดยเฉพาะในเมืองอู่ฮั่น ที่มีรถยนต์กว่า 500 คัน พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมง จนกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียจีนเมื่อไม่นานมานี้
ซึ่งจุดเด่นของ Apollo Go คือ ต้นทุนรถยนต์ที่ไม่สูงมาก ทำให้สามารถคิดราคาค่าบริการได้ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
ปัจจุบัน บริการของ Apollo Go หนึ่งคัน ยังขาดทุนราว 370,000 บาทต่อปี
(เท่ากับว่า ถ้านับเฉพาะในเมืองอู่ฮั่น ที่ให้บริการรถยนต์กว่า 500 คัน พวกเขาอาจขาดทุนอย่างน้อย 185 ล้านบาทต่อปี)
(เท่ากับว่า ถ้านับเฉพาะในเมืองอู่ฮั่น ที่ให้บริการรถยนต์กว่า 500 คัน พวกเขาอาจขาดทุนอย่างน้อย 185 ล้านบาทต่อปี)
แต่บริษัทมั่นใจอีกว่า ธุรกิจจะสามารถเห็นกำไรได้เร็ว ๆ นี้
และอีกรายที่น่าสนใจ คือ “Pony.ai” สตาร์ตอัปสัญชาติจีน ที่มี Toyota ค่ายรถญี่ปุ่น ถือหุ้นใหญ่อยู่
โดย Pony.ai มีรถยนต์พร้อมใช้งาน 300 คัน และให้บริการมาแล้วกว่า 12 ล้านไมล์ ในเมืองหลักอย่าง ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, เซินเจิ้น และกว่างโจว
แม้บริษัทยังไม่ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานอย่างชัดเจน แต่ก็ยังขาดทุนอยู่ และระบุว่า มีแผนขยายจำนวนรถยนต์เพิ่มเป็น 1,000 คัน ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้
ส่วนภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็พยายามพัฒนาตลาดรถแท็กซี่ไร้คนขับเหมือนกัน แต่ใช้วิธีดึงเอาแบรนด์จากสหรัฐฯ และจีน มาให้บริการแทน
ตัวอย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย ที่เข้าลงทุน 3,400 ล้านบาทใน Pony.ai เพื่อหวังให้มาเปิดบริการในเมืองใหม่อย่าง Neom เมืองที่เน้นด้านนวัตกรรม
หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่ว่าจะเป็น นครรัฐดูไบ หรือ อาบูดาบี ก็เจรจาให้ Cruise และ WeRide สตาร์ตอัปจากจีน มาให้บริการ
คำถามต่อมาคือ แล้วตอนนี้ การจะขยายตลาดแท็กซี่ไร้คนขับ มีความท้าทายอะไรรออยู่ ?
เราคงเห็นแล้วว่า ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาขาดทุนหนัก
เพราะเทคโนโลยีไร้คนขับมีต้นทุนที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็น การอยู่ในช่วงของ R&D, กล้องเซนเซอร์รอบคัน, ระบบซอฟต์แวร์ และข้อมูลแผนที่ต่าง ๆ
อีกทั้งยังคงต้องจ้างพนักงานที่เป็นมนุษย์มาคอยติดตามดูแลจากระยะไกล เพื่อช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินอยู่ดี
นอกจากนั้น หากบริษัทต้องการขยายพื้นที่ให้บริการ ก็ต้องลงทุนสร้างรถยนต์ใหม่อีกหลายคัน รวมทั้งจัดทำข้อมูลแผนที่และพฤติกรรมการขับขี่ของพื้นที่ท้องถิ่นให้ละเอียดก่อนด้วย
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ค่าบริการของหลายเจ้า ยังคงสูงกว่า แท็กซี่แบบปกติ หรือการเรียกรถจาก Uber, Grab อยู่มาก ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของตลาดแท็กซี่ไร้คนขับ
แต่ถ้าบริษัทเลือกใช้กลยุทธ์การลดราคา เพื่อสู้กับบริการเรียกรถแบบดั้งเดิม ก็คงต้องขาดทุนหนักยิ่งขึ้นกว่าตอนนี้อีก
หรือถ้ารีบร้อนขยายตลาดมากเกินไป โดยยังไม่พร้อมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง ก็อาจทำให้สูญเสียเครดิต และกลายเป็นจุดพ่ายแพ้ของรายนั้นได้ทันที
เหมือนกรณีของ Cruise ที่ถูกระงับการให้บริการอยู่ หรือกระทั่ง Uber ที่เคยทดลองบริการไร้คนขับมาก่อน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ จนถอนตัวจากโครงการนี้ไปในปี 2018
ยังไม่รวมเรื่องความเสี่ยงทางกฎหมายในหลายประเทศ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับด้วย
สรุปแล้ว การได้เห็นบริการแท็กซี่ไร้คนขับแพร่หลายในวงกว้าง มาปฏิวัติแท็กซี่แบบเดิม ๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด
เพราะมีหลายจุดที่ต้องฝ่าฟัน ไล่ตั้งแต่
- ราคาค่าบริการที่เข้าถึงได้
- ความสามารถในการแข่งขันกับแท็กซี่ดั้งเดิม
- ความมั่นใจในด้านความปลอดภัย
- ความเสี่ยงเรื่องกฎหมาย
- ความสามารถในการแข่งขันกับแท็กซี่ดั้งเดิม
- ความมั่นใจในด้านความปลอดภัย
- ความเสี่ยงเรื่องกฎหมาย
กว่าจะผ่านไปถึงจุดนั้น เงินที่ถูกผลาญไปคงไม่หยุดอยู่ที่หมื่นล้านบาทหรือแสนล้านบาท แต่คงสะสมรวมกันเป็นหลักล้านล้านบาท
และแม้ว่า จะผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้แล้ว
บรรดาผู้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ ก็ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าให้ใหญ่พอ จนธุรกิจสามารถถึงจุดคุ้มทุน และทำกำไรได้
บรรดาผู้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ ก็ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกพอสมควร เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าให้ใหญ่พอ จนธุรกิจสามารถถึงจุดคุ้มทุน และทำกำไรได้
ซึ่งก็คงไม่ใช่ทุกรายที่จะไปถึงฝั่งฝันที่ว่าได้ แม้จะยอมทุ่มสุดตัว จนหมดตัวก็ตาม
ก็อดคิดไม่ได้ว่า เส้นทางของธุรกิจแท็กซี่ไร้คนขับ ที่กำลังมีรถวิ่งแข่งกันอยู่บนถนนอันคดเคี้ยว
สุดท้ายแล้ว จะมีกี่รายไปถึงแสงสว่างที่ปลายทาง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.forbes.com/sites/richardbishop1/2024/07/27/60-million-miles-and-counting-robotaxis-shift-into-high-gear/
-https://www.technologyreview.com/2024/01/23/1086936/whats-next-for-robotaxis-2024/
-https://www.washingtonpost.com/technology/2024/01/31/cruise-self-driving-company-loss-gm/
-https://www.reuters.com/business/autos-transportation/chinas-drivers-fret-robotaxis-pick-up-pace-passengers-2024-08-08/
-https://www.cnbc.com/2024/07/11/chinas-robotaxi-push-sparks-concerns-about-job-security-for-drivers.html
สุดท้ายแล้ว จะมีกี่รายไปถึงแสงสว่างที่ปลายทาง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.forbes.com/sites/richardbishop1/2024/07/27/60-million-miles-and-counting-robotaxis-shift-into-high-gear/
-https://www.technologyreview.com/2024/01/23/1086936/whats-next-for-robotaxis-2024/
-https://www.washingtonpost.com/technology/2024/01/31/cruise-self-driving-company-loss-gm/
-https://www.reuters.com/business/autos-transportation/chinas-drivers-fret-robotaxis-pick-up-pace-passengers-2024-08-08/
-https://www.cnbc.com/2024/07/11/chinas-robotaxi-push-sparks-concerns-about-job-security-for-drivers.html