คุณภาพของกำไร สิ่งที่นักธุรกิจ นักลงทุน ไม่ควรมองข้าม

คุณภาพของกำไร สิ่งที่นักธุรกิจ นักลงทุน ไม่ควรมองข้าม

คุณภาพของกำไร สิ่งที่นักธุรกิจ นักลงทุน ไม่ควรมองข้าม /โดย ลงทุนแมน
- บริษัท A กำไรเติบโตดีมาก กลับล้มละลาย..
- บริษัท B กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อยู่ดี ๆ ก็พลิกมาขาดทุน..
หากบริษัทไหน เข้าข่ายลักษณะที่ว่ามานี้ เป็นไปได้ว่ากำไรที่บริษัทนั้นทำได้ในช่วงที่ผ่านมา อาจเป็นกำไรที่ไม่มีคุณภาพ
คุณภาพของกำไร คืออะไร ?
ทำไมนักลงทุนถึงต้องให้ความสนใจ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
“กำไรสุทธิ” ทางบัญชี มาจากการนำรายได้ หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกไปจนหมด
ถ้าหากมีค่าเป็นบวก ก็แปลว่าธุรกิจมีกำไร ในทางกลับกัน ถ้าหากมีค่าติดลบ ก็จะหมายถึงธุรกิจขาดทุน
กำไรสุทธินั้นแม้จะแทบอยู่บรรทัดสุดท้ายในงบการเงิน
แต่ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนมักจะให้ความสนใจเป็นอันดับแรก ๆ
เพราะเป็นตัวชี้วัดหลักของการดำเนินธุรกิจ ว่าประสบความสำเร็จเพียงใด
และนับเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน ในรูปของส่วนต่างราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น หรือเงินปันผล
อย่างไรก็ตาม ในการพิจารณากำไรสุทธิ
สิ่งหนึ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ไม่แพ้การเติบโตของผลกำไร ก็คือคุณภาพของกำไร
แล้วกำไรที่มีคุณภาพเป็นอย่างไร ?
จริง ๆ แล้ว เราสามารถวัดคุณภาพของกำไรได้หลายแบบ ซึ่งกำไรที่เราเห็นออกมานั้น มีคุณภาพดีไหม ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนแต่ละคน และธรรมชาติของธุรกิจ
แต่อย่างน้อย กำไรที่มีคุณภาพดี ก็ควรจะเป็นไปในลักษณะดังนี้
1. มาจากธุรกิจหลักของบริษัท
กำไรที่ดี ควรเป็นกำไรที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทจริง ๆ หรือพูดอีกอย่างก็คือ ไม่ควรเป็นพวกกำไรพิเศษ
ตัวอย่างเช่น บริษัทแห่งหนึ่ง ประกอบธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก ผลกำไรที่ดี ก็ควรมาจากการขายสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทนั่นเอง
แต่ในบางครั้ง บริษัทอาจมีกำไรมาจากรายการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก เช่น ขายสินทรัพย์อย่างเช่นอาคาร ขายเงินลงทุน ปรับโครงสร้างหนี้ หรือแม้แต่ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
ซึ่งกำไรพิเศษเหล่านี้ มักเป็นกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้สะท้อนความสามารถในการทำธุรกิจจริง ๆ
เพราะฉะนั้น ในการวิเคราะห์งบการเงิน เราจึงไม่ควรให้น้ำหนักกับกำไรพิเศษเหล่านี้
แต่ต้องโฟกัสกับกำไร ที่ได้จากการดำเนินงานหลักของธุรกิจ
2. กำไร เติบโตจากความต้องการในสินค้าหรือบริการของบริษัท
ถ้าหากบริษัทที่เราสนใจอยู่ มีกำไรที่เติบโต การเติบโตนั้น ควรจะมาจากคุณค่าของสินค้าหรือบริการ ที่ลูกค้าต้องการและเต็มใจที่จะจ่าย
โดยดูได้จากการที่บริษัทนั้น ๆ สามารถ ปรับขึ้นราคาสินค้าหรือบริการ โดยที่ลูกค้ายังยอมที่จะจ่าย และไม่หนีไปไหน
รวมถึงมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น, การขยายสาขา ขยายฐานลูกค้า หรือสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง มาได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งการจะวิเคราะห์การเติบโต เราก็ต้องดูถึงส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทที่เรากำลังสนใจ รวมถึงดูสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม ควบคู่กันไปด้วย
หากบริษัท อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และธุรกิจมีลักษณะของการผูกขาด กึ่งผูกขาด หรือมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
เช่น มีการประหยัดต่อขนาด, มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, มีสินค้าที่ลูกค้าหลงรัก, มีเทคโนโลยีที่โดดเด่น
กำไรที่เติบโตนั้น ก็มีแนวโน้มเป็นกำไรที่มีคุณภาพ
ในทางกลับกัน หากกำไรของบริษัท เติบโตมาจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ตัวอย่างเช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ที่มักจะมีราคาอ้างอิงจากตลาดโลก
กำไรที่มาจากการเติบโตในลักษณะนี้ จะไม่ค่อยมีคุณภาพ เพราะมีความผันผวนสูง และอาจพลิกเป็นขาดทุนได้ หากถึงช่วงเวลาที่ราคาสินค้าตกต่ำ
3. กำไรสุทธิ ต้องเปลี่ยนเป็นเงินสดได้จริง
ในการทำธุรกิจ เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการให้เครดิตเทอม
หรือการที่ลูกค้า สามารถซื้อสินค้าหรือบริการไปก่อนได้ โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินทันที
และในทางบัญชีก็จะบันทึกรายได้ตรงส่วนนี้ แม้ยังไม่ได้รับเงินจริง ๆ ก็ตาม ซึ่งสุดท้ายก็ไหลลงมาเป็นกำไรสุทธิ (หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว) ในงบกำไรขาดทุนด้วยเช่นกัน
เพียงแต่แทนที่จะได้เงินสดจากการขายสินค้า บริษัทกลับได้สินทรัพย์ประเภทลูกหนี้การค้า เข้ามาแทน
แต่ถ้าบริษัทไม่สามารถเก็บเงินจากลูกค้าได้ ก็จะต้องตัดเป็นค่าใช้จ่าย โดยบันทึกเป็นหนี้สูญ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทอยู่ดี
ดังนั้น ธุรกิจที่ดี และกำไรที่มีคุณภาพจริง ๆ ต้องเป็นกำไรที่สร้างกระแสเงินสดให้บริษัทได้จริง และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ทั้งกำไรและกระแสเงินสด
โดยตรงนี้เราสามารถตรวจสอบได้จากยอดลูกหนี้การค้า จากงบแสดงฐานะการเงินในแต่ละไตรมาส ว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือผิดปกติหรือไม่ และสอดคล้องกับรายได้หรือเปล่า
ที่สำคัญที่สุด เราควรตรวจสอบงบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับกำไรสุทธิ ในงบกำไรขาดทุนไหม
มาถึงตรงนี้ ก็สามารถสรุปได้ว่า คุณลักษณะของกำไรที่ดี ควรจะมาจากธุรกิจหลัก มีความสม่ำเสมอ และมีเงินสดไหลเข้าสู่บริษัทจริง ๆ
ซึ่งยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพของกำไรอีกเช่นกัน แต่อาจแตกต่างไปตามลักษณะการประกอบธุรกิจ รวมถึงนโยบายทางบัญชีที่บริษัทใช้
อย่างไรก็ตาม ลักษณะสำคัญของกำไรที่มีคุณภาพ ก็ควรจะมีทั้ง 3 องค์ประกอบที่กล่าวมานี้ ไม่ว่าบริษัทจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.investopedia.com/terms/q/qualityofearnings.asp
-https://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=65931&fbclid=IwY2xjawE1glhleHRuA2FlbQIxMAABHfJmUvnu2iIFWLxJU1uJW32UWsvVtQoau50uVDkr-areEe3IEpkYfp7ebg_aem_8H20rdm3RlTrsWcZkS2ziw
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon