รู้จัก FAB ที่รวมร่าง 3 ผู้เล่นเชนร้านอาหารดังของเมืองไทย

รู้จัก FAB ที่รวมร่าง 3 ผู้เล่นเชนร้านอาหารดังของเมืองไทย

รู้จัก FAB ที่รวมร่าง 3 ผู้เล่นเชนร้านอาหารดังของเมืองไทย
บุญรอดบริวเวอรี่ X ลงทุนแมน
“ถ้าเราอยู่แบบเดิม ๆ ธุรกิจก็อยู่กับที่ ผมเลยคิดสร้างอะไรใหม่ ๆ ด้วยการนำ Food Factors รวมกับ 2 บริษัทพาร์ตเนอร์อย่าง AQUA และ Beer ใบหยก เป็นบริษัทเดียวกัน เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจร้านอาหาร โดยจะใช้ 3 จุดแข็งของ 3 บริษัท ผสมผสานสร้างความแตกต่าง”
คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บอกถึงเหตุผลในการนำ Food Factors เจ้าของสเต๊กแบรนด์ดังอย่าง ซานตาเฟ่, ซานตาเฟ่ อีซี่, เหม็ง แซ็ปนัว ร่วมมือกับ 2 พาร์ตเนอร์ เป็นบริษัทเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่าบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด หรือ “FAB”
โดย “FAB” ย่อมาจากอักษรตัวแรกของทั้ง 3 บริษัท
F คือ Food Factors
A คือ AQUA
B คือ Beer ใบหยก
การรวมตัวกันของ 3 บริษัทร้านอาหารชื่อดังเป็นหนึ่งเดียว จะสร้างความได้เปรียบในธุรกิจร้านอาหารที่มีการแข่งขันดุเดือด ได้ดีแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
ในอดีตธุรกิจร้านอาหารก็เป็น Red Ocean อยู่แล้ว แต่ ณ วันนี้ กลับยิ่งร้อนขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว เมื่อเกิดแบรนด์ใหม่ ๆ ขึ้นมาอย่างมากมาย รวมถึงการมาของแอปฯ Food Delivery
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “สงครามแย่งชิง 1 มื้อของผู้บริโภค ที่ไม่ว่าผู้บริโภคจะเดินอยู่ในศูนย์การค้า หรืออยู่บ้านเข้าแอปฯ Food Delivery ก็มีเมนูอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกมากมาย
โดยคุณภูริต ซีอีโอที่ดูแลบริษัทในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ทั้งหมดรวมทั้งยังดูภาพรวม และการสร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจร้านอาหาร บริษัทในเครืออย่าง Food Factors ก็รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีว่าในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร หรือธุรกิจเครื่องดื่ม
หัวใจสำคัญ ที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ นั่นคือคุณภาพสินค้า
“ตลอด 90 ปีในการทำธุรกิจของกลุ่มบุญรอดฯ สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดคือการส่งมอบสินค้าที่มี ‘คุณภาพ’ ไปยังผู้บริโภค การรวมตัวกันจัดตั้งบริษัท FAB ที่รวมกันมี 8 แบรนด์ร้านอาหาร เราก็จะให้ความสำคัญกับรสชาติอาหารที่อร่อย, ความสะอาด และคุณภาพวัตถุดิบ”
โดย 3 บริษัทเมื่อรวมกันเป็นบริษัทเดียวอย่าง FAB จะมีถึง 8 แบรนด์ มีสาขารวมกัน 204 สาขา
- Food Factors 3 แบรนด์ คือ ซานตาเฟ่ 127 สาขา, ซานตาเฟ่ อีซี่ 5 สาขา, เหม็ง แซ็ปนัว 10 สาขา
- Beer ใบหยก 4 แบรนด์ คือ ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, เซไค โนะ ยามะจัง, อุชิดายะ ราเมน, อิคโคฉะ ราเมน รวมทั้งหมด 57 สาขา
- AQUA 1 แบรนด์ คือ ราเมงเดส รวม 5 สาขา
ทำให้สเกลธุรกิจเชนร้านอาหารใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว พร้อมแบรนด์อาหารหลากหลาย โดยวิธีนี้ เป็นการสร้างความได้เปรียบในธุรกิจร้านอาหารให้แก่บริษัท FAB อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเทียบกับในอดีตที่ทั้ง 3 บริษัทต่างคนต่างทำ
โดยความได้เปรียบที่ว่านี้ แบ่งออกเป็น 4 เรื่องหลัก ๆ
1. ยิ่งมีแบรนด์เชนร้านอาหารในมือมากเท่าไร ยิ่งได้เปรียบในการแข่งขัน
เพราะนั่นหมายถึงความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกช่วงเวลาและทุกความชื่นชอบ
2. ขณะเดียวกันการมีหลายแบรนด์อยู่ในมือ สามารถทำโปรโมชันร่วมกัน
หรือจะทำการ Collabs แบรนด์ร้านอาหารในเครือของตัวเอง เพื่อสร้างเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างความตื่นเต้นให้แก่ลูกค้า
3. การรวมกันของ 3 บริษัท 8 แบรนด์ จำนวน 204 สาขา จะมีการใช้ “ครัวกลาง” ร่วมกัน
นั่นหมายถึงว่า การสั่งซื้อวัตถุดิบในแต่ละครั้ง จะมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ราคาต่อหน่วยย่อมถูกลง หรือที่เรียกว่า Economies of Scale ทำให้แต่ละแบรนด์ สามารถทำราคาอาหารให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ​
4. ด้วยพลังของ Economies of Scale ทำให้การขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดง่ายขึ้น ด้วยระบบโลจิสติกส์ และการรักษาคุณภาพวัตถุดิบที่ดีขึ้นกว่าเดิม
โดยทางบริษัท FAB ตั้งเป้าว่าภายในหนึ่งปีข้างหน้า ทั้ง 8 แบรนด์ จะมีสาขารวมกันกว่า 250 สาขา จากเดิมคือ 204 สาขา
โดยทางคุณปิยะเลิศ ใบหยก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ เบียร์ ใบหยก ที่นอกจากจะดูภาพรวมของธุรกิจในเครือใบหยกที่เป็นของครอบครัวแล้วนั้น ผู้ชายคนนี้ยังรับบทบาทเป็น CEO ของ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด หรือ FAB นั่นเอง
คุณเบียร์ ใบหยก เล่าถึงแผนธุรกิจเบื้องต้นให้ฟังคร่าว ๆ แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยบอกว่าแบรนด์แรกที่จะมีการอัปเกรดคือ “ซานตาเฟ่” เพราะมีสาขามากที่สุด โดยจะมีการทำให้แบรนด์, บรรยากาศร้าน, เมนูอาหาร มีความ Fresh มากขึ้น
เพื่อจับกลุ่มลูกค้า Young Generation ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาดร้านอาหารในยุคนี้ และก็ยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่อีก 7 แบรนด์ที่เหลือของบริษัทก็ให้ความสำคัญ
เป็นวิธีที่มาถูกทาง เมื่อการเพิ่มสีสันให้แก่แบรนด์ร้านอาหารยุคนี้ เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญ โดยเฉพาะผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแบรนด์ที่มีความแอ็กทิฟ, กระตุ้นให้เกิดความสนใจ และอยากเข้าไปใช้บริการในร้านตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน FAB ยังมีแผนสร้างแบรนด์ใหม่ ๆ โดยเน้นร้านอาหารที่มีความยั่งยืน ที่คนไทยนิยมทานประจำ ไม่ใช่เมนูอาหารที่เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมบางช่วงเวลา จากนั้นก็หายไป
จะเห็นว่าการรวมตัวกันของ 3 บริษัท เป็นบริษัทเดียว ภายใต้ชื่อบริษัท FAB ได้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่บริษัทหลายเท่าตัว
ขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นแนวคิดการทำธุรกิจของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ภายใต้การบริหารของคุณภูริต ภิรมย์ภักดี ที่ก่อนหน้านี้ก็ได้สร้างนวัตกรรมในธุรกิจเครื่องดื่มมากมาย เช่น สิงห์ เลมอนโซดา เครื่องดื่มที่กล้าแตกต่างจากน้ำอัดลมทั่วไป จนประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย
จนมาถึงธุรกิจเชนร้านอาหารที่คุณภูริตเชื่อว่า การเติบโตเพียงคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจร้านอาหารในยุคนี้
เพราะหากเรารู้จักยืดหยุ่น และมองอะไรที่กว้างขึ้น โอกาสทางธุรกิจก็จะเปิดกว้างขึ้นเช่นกัน เหมือนอย่าง Food Factors ที่ตัดสินใจรวมกับอีก 2 บริษัทพันธมิตร จนเป็นบริษัทเดียว
ที่มาปลดล็อกขีดจำกัดในอดีต เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารไปได้ไกลกว่าเดิม นั่นเอง..
Reference
-งานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด หรือ “FAB”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon