รู้จัก CrowdStrike บริษัทเบื้องหลัง ที่ทำ Windows จอฟ้าทั่วโลก

รู้จัก CrowdStrike บริษัทเบื้องหลัง ที่ทำ Windows จอฟ้าทั่วโลก

รู้จัก CrowdStrike บริษัทเบื้องหลัง ที่ทำ Windows จอฟ้าทั่วโลก /โดย ลงทุนแมน
เมื่อบ่ายของวัน เกิดเหตุการณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows ขึ้นจอฟ้า (BSOD) จนใช้การไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน American Airlines, Delta ที่หยุดให้บริการชั่วคราว
สนามบินหลายแห่งอย่าง Berlin, Sydney ที่ไม่สามารถเช็กอินได้
รวมถึงบริษัทหลายแห่งในไทย ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
โดยต้นตอของปัญหานี้ มาจากโปรแกรม CrowdStrike Sensor ของบริษัท CrowdStrike Holdings, Inc. ที่ทำธุรกิจด้าน Cybersecurity
วันนี้ลงทุนแมน จะมาเล่าเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ให้ฟัง
CrowdStrike เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดยคุณ George Kurtz
ก่อนหน้านี้ คุณ George Kurtz เคยทำงานที่บริษัท McAfee ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโปรแกรม Antivirus ที่เรารู้จักกัน
แต่เนื่องจากเขารู้สึกอึดอัด กับการที่ AntiVirus ในตอนนั้น ไม่สามารถอัปเดตการป้องกัน การโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา
จุดนี้เองที่ทำให้เขาจึงตัดสินใจออกมาก่อตั้งบริษัท CrowdStrike ในเวลาต่อมา
เพื่อให้เห็นภาพธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ลงทุนแมนจะอธิบายภาพรวมของอุตสาหกรรม Cybersecurity สั้น ๆ ให้ฟังกันก่อน
โดยทั่วไปแล้ว เป้าหมายหลัก ๆ ของบริษัทที่ทำธุรกิจ Cybersecurity คือ การป้องกัน ตรวจจับ Cyber Attack หรือการโจมตีทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ ซึ่ง Cyber Attack ก็จะมีหลายรูปแบบด้วยกันไป เช่น
-Malicious Software หรือ Malware
คือโปรแกรม หรืออะไรก็ตาม ที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์ เครือข่าย หรือเซิร์ฟเวอร์ เช่น เข้ามาลบข้อมูล ล็อกการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งก็จะมีประเภทย่อย ๆ ของมันลงไปอีก เช่น Ransomware หรือ Trojan
-Denial-of-Service (DoS) Attacks และ Distributed Denial of Service (DDos)
เป็นการทำให้ระบบ หรือเว็บไซต์เป็นอัมพาต จนไม่สามารถให้บริการได้ชั่วขณะ
ในทางเดียวกัน แต่ละบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ ก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น
- Palo Alto ที่เป็นผู้นำในด้าน Network Security
- Cloudflare ที่มีชื่อเสียงในด้านป้องกันเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจาก DDOS
สำหรับ CrowdStrike ก็จะเป็นผู้นำในด้าน Endpoint Security ซึ่งเป็นการป้องกันที่อุปกรณ์ปลายทาง
ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, Laptop, สมาร์ตโฟน หรือแม้แต่อุปกรณ์เล็ก ๆ อย่างหูฟัง ที่มีซอฟต์แวร์ ก็นับเป็นอุปกรณ์ปลายทางทั้งหมด
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะมีคำถามว่าแล้ว CrowdStrike ต่างจากโปรแกรม AntiVirus อย่างไร ?
คำตอบคือ ความ Realtime
เนื่องจากการทำงานของ CrowdStrike เป็นการใช้ AI ร่วมกับระบบ Cloud ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก ซึ่งระบบการทำงานจะแตกต่างจากโปรแกรม AntiVirus ทั่วไป
สำหรับโปรแกรม AntiVirus ที่เราคุ้นเคยกัน หลังจากที่เราติดตั้งบนคอมพิวเตอร์แล้ว
เพื่อป้องกันการแฮ็กในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เราจำเป็นต้องอัปเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชันใหม่อยู่เป็นประจำ
แต่แม้เราจะอัปเดตอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความคาดเคลื่อนของเวลาอยู่เล็กน้อย
แต่สำหรับการทำงานของ CrowdStrike ที่ทำงานบน Cloud จะมีความเรียลไทม์กว่า ยกตัวอย่างเช่น
หากเกิดการแฮ็กข้อมูลรูปแบบใหม่ขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น 10 นาทีต่อมา เกิดการแฮ็กในลักษณะเดียวกันที่ประเทศไทย ตัว Falcon ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ของ CrowdStirke จะสามารถป้องกันการแฮ็กนั้นได้ทันที
จุดนี้เองที่ ทำให้ CrowdStrike แตกต่างจากโปรแกรม AntiVirus ทั่วไป ที่ต้องรอการอัปเดต ซึ่งบางครั้งอาจต้องรอนานหลายวันเลยทีเดียว
โดยจุดเด่นทางธุรกิจตรงนี้ เองทำให้ CrowdStrike เติบโตอย่างรวดเร็ว
(รอบงบการเงินของบริษัท เริ่มนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมกราคม)
ปี 2022
-รายได้ 52,300 ล้านบาท
-ขาดทุน 8,500 ล้านบาท
ปี 2023
-รายได้ 81,200 ล้านบาท
-ขาดทุน 6,600 ล้านบาท
ปี 2024
-รายได้ 110,700 ล้านบาท
-กำไร 3,200 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 45% ต่อปี
และบริษัทเพิ่งสามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรก เมื่อปีที่ผ่านมา
หลังจากปิดตลาดไปเมื่อวาน มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,000,000 ล้านบาท
สำหรับเหตุการณ์ที่ล่าสุด ที่ทำให้ระบบปฎิบัติการ Windows จอฟ้า ไปนั้น เกิดจาก Crowdstrike Sensor ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบการป้องกันของ CrowdStrike เกิดการขัดข้อง
หากใครทำการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติของเครื่อง จนเข้าใช้งาน Windows ไม่ได้
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมมีแต่คอมพิวเตอร์ในระดับองค์กรเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ?
เป็นเพราะว่า ปัจจุบันลูกค้าหลัก ๆ ของ CrowdStrike ก็คือกลุ่มองค์กรเท่านั้น บริษัทยังไม่มีการเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทั้งบริษัท CrowdStrike และทาง Microsoft ได้ทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อยู่
ผลกระทบจากปัญหาจอฟ้า ที่ทำให้ระบบและธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม หยุดชะงักไปทั่วโลก ทั้งธนาคาร สื่อ สายการบิน หรือโทรคมนาคม
ก็ไม่รู้ว่า สร้างความเสียหายมากแค่ไหน
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ ราคาหุ้นของ CrowdStrike ร่วงไปแล้วกว่า -11% ในช่วง Pre-market
คิดเป็นมูลค่าที่หายไป 330,000 ล้านบาท ภายในไม่กี่นาที..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon