“ไทร์พลัส” ชูกลยุทธ์ใช้ “ใจ” ปูทางสู่ความสำเร็จ ดันแคมเปญ “มาทีไรก็ทัชใจ…ที่ไทร์พลัส” พร้อมประกาศเปิดเพิ่ม 15 สาขาต่อปี!
ข่าวประชาสัมพันธ์..
“ไทร์พลัส” ชูกลยุทธ์ใช้ “ใจ” ปูทางสู่ความสำเร็จ ดันแคมเปญ “มาทีไรก็ทัชใจ…ที่ไทร์พลัส” พร้อมประกาศเปิดเพิ่ม 15 สาขาต่อปี!
“ไทร์พลัส” ชูกลยุทธ์ใช้ “ใจ” ปูทางสู่ความสำเร็จ ดันแคมเปญ “มาทีไรก็ทัชใจ…ที่ไทร์พลัส” พร้อมประกาศเปิดเพิ่ม 15 สาขาต่อปี!
ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันทำให้การเดินทางติดต่อสื่อสารกันเป็นเรื่องปกติ และรถยนต์ได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของผู้คนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ธุรกิจศูนย์บริการต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดตามไปด้วย ซึ่งเมื่อพูดถึงกลุ่มผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดศูนย์บริการรถยนต์ในปัจจุบัน หนึ่งในชื่อที่หลาย ๆ คนคุ้นหูก็คือ “ไทร์พลัส (TYREPLUS)”
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไทร์พลัสเผยผลประกอบการธุรกิจไตรมาสแรกปี 2567 เติบโตตามเป้า พร้อมรุกเปิดตัวแคมเปญใหม่ “มาทีไรก็ทัชใจ…ที่ไทร์พลัส” ต่อยอดความสำเร็จแบบต่อเนื่องทันที โดยได้ซูป’ตาร์หนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาร่วมงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อถ่ายทอด Brand DNA ของไทร์พลัสที่เน้นกลยุทธ์บริการด้วยใจและมาตรฐานระดับพรีเมียมที่เข้าถึงง่าย เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์บริการชั้นนำของไทยในอนาคต
นอกจากการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากหลากหลายแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับรถยนต์ของตัวเองได้มากที่สุด อีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างและทำให้ธุรกิจไทร์พลัสยืนหยัดมานานกว่า 2 ทศวรรษคือการให้ความสำคัญกับ “บริการ” และสิ่งนี้ได้กำหนดแนวทางการทำงานอันเป็นเสมือน DNA ของบริษัทซึ่งเรียกว่า “TYREPLUS SPIRIT” ซึ่งได้แก่ ความทุ่มเท ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจลูกค้า ปรัชญานี้สะท้อนถึงจุดแข็งของศูนย์บริการไทร์พลัสมาอย่างยาวนานผ่านการปลูกฝังพนักงานให้มีความเข้าใจ รู้ลึก รู้จริง และมีทัศนคติที่ดีต่อการให้บริการและการแก้ปัญหาของลูกค้าอย่างจริงใจ เพื่อมอบประสบการณ์ที่มากกว่าความประทับใจ แต่เป็นความรู้สึก “ทัชใจ" ทุกครั้งที่ลูกค้ามาใช้บริการ
แคมเปญล่าสุดของไทร์พลัส “มาทีไรก็ทัชใจ…ที่ไทร์พลัส” เกิดจากการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในหลายเจนเนอเรชัน จากความพยายามตีโจทย์เรื่อง Generation Shift เพราะพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้ากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งไทร์พลัสได้มีการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อการสื่อสารถึง Brand DNA นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบรนด์จึงดึงหนุ่มมาริโอ้มาร่วมงานอีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะสามารถสื่อสารภาพลักษณ์ที่จริงใจ อัธยาศัยดี และเข้าถึงง่ายให้ผู้บริโภคเข้าใจได้อย่างตรงไปตรงมาแล้ว มาริโอ้ยังเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงการมานานกว่าสิบปี เป็นที่รู้จักของคนหลายเจน นับตั้งแต่ผู้ใหญ่วัยทำงานไปจนถึงกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษารุ่นใหม่ที่กำลังจะเติบโตไปเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีรถยนต์ในอนาคต ดังนั้น การใช้มาริโอ้เป็นแบรนด์พรีเซ็นเตอร์จึงตอบโจทย์เรื่อง Generation Shift เพื่อส่งพลังแห่งการสื่อสารผ่านตัวแคมเปญใหม่นี้ได้อย่างคมชัด ตรงเป้า และครอบคุลมกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ทั้งหมด
ไทร์พลัสยังสื่อสารแนวคิดการบริการด้วยใจและความเข้าถึงง่าย ผ่านมาตรฐานบริการระดับสูงและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน ซึ่งต้องผ่านการฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะของพนักงานศูนย์ไทร์พลัสให้ได้มาตรฐานเทียบเท่ากันทุกแห่ง ไทร์พลัสยังกำหนดให้ศูนย์บริการทุกสาขามุ่งสู่วิสัยทัศน์เดียวกันในการสร้างประสบการณ์ “ทัชใจ” ให้แก่ลูกค้าในทุกมิติตามพันธะสัญญาที่บริษัทสื่อสารออกไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดรับความคิดเห็นจากหลายช่องทางเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการ “เปิดใจ” เพื่อสร้างบริการ “ทัชใจ” ของไทร์พลัสได้อย่างชัดเจน
“ความเข้าถึงง่าย” ยังเห็นได้จากแผนการขยายสาขาไทร์พลัสอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ไทร์พลัสดำเนินงานมากกว่า 160 สาขาทั่วประเทศ และยังมีแผนการขยายสาขาเฉลี่ย 10-15 แห่งต่อปี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายทางธุรกิจ และที่สำคัญคือเพื่อทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์และสามารถเข้าถึงบริการของไทร์พลัสได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยให้แคมเปญ “ทัชใจ” จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น