Vitaboost บริการจัดอาหารเสริมตามผลเลือด / โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราเดินเข้าร้านขายยาน่าจะเห็น
วิตามินหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกใช้
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า วิตามินแบบไหนที่เหมาะกับเราที่สุด
เรื่องนี้มีแนวคิดที่น่าสนใจอย่างไร

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

สมัยก่อนที่เราเคยเรียนวิทยาศาสตร์สมัยมัธยมปลาย
เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า “พันธุกรรม”

พันธุกรรมทำให้คนเราแต่ละคนแตกต่างกัน รวมถึงการที่สภาวะร่างกายของแต่ละคนเองอาจจะไม่เหมือนกัน

เมื่อคนเรามีสภาวะร่างกายที่แตกต่างกัน

เราก็ต้องหาสิ่งที่น่าจะเหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด

ซึ่งเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับสารอาหารที่เราได้รับในทุกวันนี้

จากข้อมูลของสำนักโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีคนไทยเพียง 26% ทานอาหารครบ 5 หมู่และทานผักผลไม้เพียงพอ

ประชากรไทยปัจจุบันนี้มีจำนวนทั้งหมด 66 ล้านคน
แปลว่ามีคนไทยที่รับประทานอาหารครบตามมาตรฐานเพียง 17 ล้านคน

แสดงว่าอีก 49 ล้านคนที่เหลือก็อาจจะมีความจำเป็นต้องทานอาหารตามรายการที่กำหนดมากขึ้น

หรือไม่เช่นนั้นเราก็คงต้องใช้อาหารเสริมที่เป็นวิตามินมาเป็นตัวช่วย

จึงทำให้ตลาดวิตามินเติบโตทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา

ตัวอย่างของบริษัทวิตามินที่เราน่าจะรู้จักกันดีคือ Blackmores และ Mega

เราลองไปดูยอดขายของทั้ง 2 บริษัทนี้กัน

ปี 2015 Blackmores มีรายได้อยู่ที่ 11,998 ล้านบาท Mega มีรายได้อยู่ที่ 8,096 ล้านบาท
ปี 2016 Blackmores มีรายได้อยู่ที่ 18,247 ล้านบาท Mega มีรายได้อยู่ที่ 8,842 ล้านบาท

ทั้ง 2 บริษัทนี้มียอดขายไปในทิศทางเดียวกันคือเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตก็น่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ถ้าเราต้องการให้วิตามินมาเป็นตัวช่วย เราควรจะกินวิตามินในปริมาณเท่าไหร่เพื่อให้ได้ผลและอันตรายต่อตับไตน้อยที่สุด

สิ่งนี้ทำให้มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น เรียกว่า “การทำวิตามินเฉพาะบุคคล”

ธุรกิจนี้มีมานานแล้วแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เนื่องจากต้องมีการตรวจเลือดเพื่อดูว่าสภาวะร่างกายของคนนั้นขาดอะไรอยู่ แล้วจึงนำไปผลิตและจ่ายให้แก่คนๆนั้น

เรื่องที่น่าสนใจคือมีบริษัทหนึ่งชื่อ Vitaboost

บริษัทนี้เป็นของคนไทยที่ได้พยายามที่จะนำแนวคิดนี้มาใช้กับคนทั่วไปที่ซื้อวิตามินกินเอง

สิ่งที่ Vitaboost แก้ปัญหา คือ Vitaboost จะให้บริการลูกค้าถึงบ้านเพื่อไปเก็บเลือดมาตรวจ โดยใช้พยาบาลวิชาชีพ และให้ผู้ใช้บริการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพเพื่อประเมินสุขภาพและความเสี่ยง

ในเรื่องค่าใช้จ่ายการประเมินผลเลือดและคำนวณวิตามิน Vitaboost ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงด้วยการใช้เทคโนโลยี อัลกอริทึม ในการวิเคราะห์ผลเลือดและไลฟ์สไตล์

หลังจากได้ผลเลือดมาแล้ว Vitaboost ก็จะนำผลที่ได้มาประเมินว่าร่างกายเรามีวิตามินอะไรขาด รวมถึง ความผิดปกติในร่างกายอื่น ๆ เช่น ไขมันสูง น้ำตาลสูง ค่าตับสูง ซึ่งร่างกายของแต่ละคนจะต้องการวิตามินที่ไม่เหมือนกัน

แพทย์และเภสัชกรของ Vitaboost จึงผลิตวิตามินออกมาโดยเฉพาะตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้

สำหรับการติดตามผลประวัติสุขภาพ ถ้าเป็นในสมัยก่อนน่าจะถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าในสมัยนี้เรามีมือถือที่ทำได้หลายอย่าง Vitaboost จึงแก้ปัญหาด้วยการทำบันทึกประวัติสุขภาพในแอปพลิเคชัน เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

โดยเรายังสามารถอัพโหลดผลตรวจสุขภาพประจำปีที่ตรวจมาจากที่อื่นเข้าระบบเพื่อให้ระบบวิเคราะห์ผลเลือด หรือ คำแนะนำในการปฎิบัติตัว รวมทั้ง อาหารที่ควรทานไม่ควรทานได้ด้วย

จากการพัฒนาแนวคิดอย่างเป็นขั้นตอนของ Vitaboost นี่เป็นตัวอย่างของคนที่อยากจะทำอะไรสักอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่น

จุดเริ่มต้นของ Vitaboost มีแนวคิดที่น่าสนใจซ่อนอยู่

นั่นคือการนำธุรกิจที่เคยมีอยู่แล้วในโรงพยาบาล มาขยายออกสู่ตลาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น

ในบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องมองหาไอเดียใหม่ๆเสมอไป แต่เราสามารถนำสิ่งที่มีอยู่แล้วแต่ยังเป็นตลาดเล็กอยู่ มาพัฒนาต่อยอดให้เป็นธุรกิจสำหรับตลาดใหม่ที่ใหญ่ขึ้นได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามต้องหมายเหตุว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือทุกคนควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานผักผลไม้ให้เพียงพอต่อความต้องการ บทความนี้มีเจตนานำเสนอธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ไม่ได้ชี้นำว่าทุกคนควรจะทานวิตามินดังกล่าว
----------------------
<ad> ธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่หนังสือลงทุนแมน 2.0 ยังอยู่ที่เดิม สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดตามได้ฟรีที่ แอพลงทุนแมน https://www.longtunman.com/app, instagram, twitter, youtube, line โดยค้นหา ไอดีชื่อ longtunman ในแพลตฟอร์มนั้น
----------------------

Reference
-https://blog.vitaboost.me/what-is-personalized-supplements/
-https://www.bangkokhospital.com/index.php/th/health-tips/vitamins-for-healthy-people
-https://nutrition.org/multivitamins-and-moving-toward-personalized-nutrition/
-http://amexpharmacy.com/part-i-of-iv-personalized-vitamins-vs-multi-vitamins/
[5200].