ลอตเตอรี่ เกมที่ถูกออกแบบมาให้คนซื้อ “แพ้” ตั้งแต่แรก เจ้ามือฟันกำไร

ลอตเตอรี่ เกมที่ถูกออกแบบมาให้คนซื้อ “แพ้” ตั้งแต่แรก เจ้ามือฟันกำไร

ลอตเตอรี่ เกมที่ถูกออกแบบมาให้คนซื้อ “แพ้” ตั้งแต่แรก เจ้ามือฟันกำไร /โดย ลงทุนแมน
“คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” เป็นคำพูดติดหู ที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง
แม้ประโยคนี้อาจจะใช้ไม่ค่อยได้แล้วในยุคปัจจุบัน
แต่ความนิยมของหวยในสังคมไทย ก็ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม
โดยในประเทศไทย สลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่นั้น
ถือเป็นหนึ่งในหวยที่มีความนิยมสูงมาก เหตุผลหนึ่งเพราะเป็นหวยที่ถูกกฎหมาย
แต่เมื่อไรก็ตามที่เราซื้อลอตเตอรี่ นั่นหมายถึงเรากำลังเข้าสู่เกม ที่ถูกออกแบบมาให้เรามีโอกาส “ขาดทุน” สูงมาก
ทำไมเครื่องมือเสี่ยงดวงยอดนิยมอย่างลอตเตอรี่ ถึงเป็นเกมที่อาจไม่คุ้มค่า
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
ลอตเตอรี่ในไทยนั้น จะเป็นระบบสลากที่มีตัวเลข 6 หลัก โดยมีหมายเลขตั้งแต่ 000000 ไปจนถึง 999999 รวมกันเป็น 1 ล้านใบ ใน 1 ชุด
โดยการออกรางวัลในแต่ละงวด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือกองสลาก จะผลิตลอตเตอรี่จำนวน 100 ชุด เท่ากับว่าในหนึ่งงวด จะมีลอตเตอรี่วางจำหน่ายทั้งสิ้น 100 ล้านใบ
ซึ่งในส่วนของเงินรางวัลนั้น ทางกองสลากมีการกำหนดเงินรางวัลไว้ โดยแบ่งเป็น
- เลขท้าย 2 ตัว จำนวน 10,000 รางวัล รางวัลละ 2,000 บาท (มูลค่ารวม 20 ล้านบาท)
- เลขท้าย 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท (มูลค่ารวม 8 ล้านบาท)
- เลขหน้า 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท (มูลค่ารวม 8 ล้านบาท)
- รางวัลที่ 5 จำนวน 100 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท (มูลค่ารวม 2 ล้านบาท)
- รางวัลที่ 4 จำนวน 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท (มูลค่ารวม 2 ล้านบาท)
- รางวัลที่ 3 จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท (มูลค่ารวม 800,000 บาท)
- รางวัลที่ 2 จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท (มูลค่ารวม 1 ล้านบาท)
- รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท (มูลค่ารวม 200,000 บาท)
- รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 6 ล้านบาท
สรุปแล้วจำนวนรางวัลทั้งหมดคือ 14,168 รางวัล คิดเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 48 ล้านบาท
ซึ่งถ้าเราดูเผิน ๆ จะรู้สึกว่า จำนวนรางวัลนั้น มีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หากลองวิเคราะห์ให้ดี
การที่เราซื้อลอตเตอรี่ 1 ใบ โอกาสที่เราจะถูกรางวัลใดรางวัลหนึ่งนั้น มีเพียง 1.42% และอีกมุมก็คือ โอกาสที่จะไม่ถูกลอตเตอรี่สูงถึง 98.58%..
หรือถ้าหากเจาะลึกลงไปในแต่ละรางวัล เช่น
- รางวัลเลขท้าย 2 ตัว โอกาสที่เราจะถูกรางวัลมีแค่ 1 ใน 100 หรือ 1%
- รางวัลที่ 1 โอกาสที่เราจะถูกรางวัลมีแค่ 1 ใน 1,000,000 หรือ 0.0001%
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้การซื้อหวยนั้น เป็นการเสียเงินเพียงแค่ 80 บาทก็จริง แต่โอกาสที่เราจะขาดทุน มีมากกว่าโอกาสที่เราจะถูกรางวัลเป็นอย่างมาก
ถ้าหากยังไม่เห็นภาพ ก็ให้ลองคิดดูว่า แม้เราจะใช้เงิน 80 ล้านบาท กว้านซื้อลอตเตอรี่ 1 ชุด จำนวน 1,000,000 ใบให้ครบทั้งชุด (ซึ่งเป็นไปได้ยาก)
แม้เราจะถูกรางวัลทั้งหมดในชุดนั้น จำนวน 14,168 รางวัลแน่ ๆ และได้รับเงินกว่า 48 ล้านบาท
แต่เมื่อเทียบกับต้นทุน 80 ล้านบาท ที่เสียไปแล้ว กลับทำให้ขาดทุนถึง 32 ล้านบาท..
ซึ่งผลขาดทุน 32 ล้านบาทนั้น ก็กลายเป็นกำไรของเจ้ามือผู้ออกสลาก ซึ่งก็คือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นั่นเอง
หรือสรุปได้ว่า ในการออกลอตเตอรี่แต่ละงวดนั้น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แทบจะไม่ขาดทุนเลย หากสลากถูกขายหมด
เพราะมีการล็อกจำนวนเงินรางวัลไว้แล้วที่ 60% ของรายได้ (48 ล้านบาท / 80 ล้านบาท)
แล้วผลการดำเนินงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นอย่างไร ?
ปี 2564 มีรายได้ 168,168 ล้านบาท กำไร 6,227 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 168,759 ล้านบาท กำไร 6,653 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้ 169,041 ล้านบาท กำไร 6,760 ล้านบาท
ซึ่งจะเห็นว่า รายได้และกำไรของกองสลากนั้น มีความแข็งแกร่งมาก แม้ในช่วงที่เกิด COVID เพราะนิสัยของคนไทย ที่มักชอบเสี่ยงดวง
จึงทำให้เรายังเห็นหลาย ๆ คน เลือกที่จะซื้อลอตเตอรี่อยู่เสมอ แม้อาจไม่เคยถูกรางวัลสักงวดเลยก็ตาม
มาถึงตรงนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่า ลอตเตอรี่นั้น เป็นเกมที่ถูกออกแบบมาให้คนซื้อมีโอกาสแพ้ และขาดทุน ตั้งแต่แรก
ขณะที่เจ้ามือ คือผู้ที่ชนะ และได้รับกำไรอย่างแท้จริง..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon