เส้นทางของ โตโยต้า / โดย ลงทุนแมน
วันนี้ โตโยต้าเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์ได้มากสุดในโลก
บริษัทนี้มีรายได้ 8 ล้านล้านบาท
จึงมากพอที่จะทำให้บริษัทโตโยต้าเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก

โตโยต้ายิ่งใหญ่แค่ไหน วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง

ความเป็นมาของโตโยต้าต้องย้อนกลับไปในปี 1929

รู้ไหมว่าต้นกำเนิดของ โตโยต้า มาจากธุรกิจทอผ้า

ซึ่งเป็นปีที่คุณซากิชิ โตโยดะ เจ้าของโรงงานผลิตเครื่องทอผ้าได้ขายสิทธิบัตรเครื่องทอผ้าให้แก่บริษัท PLATT BROS ของอังกฤษในราคา 100,000 ปอนด์

หลังจากนั้นเขาได้นำเงินจำนวนนี้ไปให้แก่ลูกชายเขาคือคุณคิอิชิโร โตโยดะ ในการทดลองผลิตรถยนต์

จนกระทั่งในปี 1936 รถยนต์รุ่นแรกของโตโยต้า โมเดล AA ได้ถูกผลิตจนสำเร็จ

หลังจากที่รถรุ่นแรกเริ่มได้รับความนิยม

ในปี 1937 โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน จึงถูกก่อตั้งขึ้นโดยเป็นการแตกออกมาจากบริษัทแม่หรือ โตโยต้า อินดรัสทรีส์

ทำให้นับจนถึงวันนี้ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน มีอายุกว่า 81 ปีแล้ว

ในปี 1962 เป็นปีแรกที่ถือว่าโตโยต้าก้าวสู่ความสำเร็จมากที่สุด เนื่องจากเป็นปีที่สามารถผลิตรถยนต์ครบ 1 ล้านคัน

โตโยต้ายังเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งทั้งในญี่ปุ่นซึ่งเข้าไปซื้อขายตั้งแต่ปี 1949

และในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ หุ้นของโตโยต้าเข้าซื้อขายตั้งแต่ปี 1999

ปัจจุบัน หุ้นโตโยต้ามี market capitalization อยู่ที่ 5.9 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่าหุ้นปตท. ที่เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศไทย ประมาณ 4 เท่า

ในปี 2017 โตโยต้าผลิตรถยนต์ประมาณ 9 ล้านคัน หมายความว่า บริษัทสามารถผลิตรถยนต์ได้ 24,657 คันต่อวัน หรือ 1,027 คันใน 1 ชั่วโมง

โดยสัดส่วนยอดขายรถจะแบ่งได้ดังนี้
ประเทศในแถบแอฟริกา, อเมริกาใต้ และเอเชีย 3 ล้านคัน
ประเทศในแถบอเมริกาเหนือที่อยู่ที่ 2.8 ล้านคัน
ขณะที่ในญี่ปุ่นเองนั้นมียอดขายอยู่ที่ 2.2 ล้านคัน

โตโยต้าเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก

ในปี 2017 บริษัทได้ใช้งบประมาณในส่วนนี้ไปกว่า 297,600 ล้านบาท

หรือแปลว่า ทุกๆชั่วโมง โตโยต้าจะเสียเงินไปให้กับการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี 34 ล้านบาท..

ปัจจุบัน โรงงานผลิตรถยนต์ของโตโยต้าครอบคลุม 51 แห่งใน 28 ประเทศ และส่งไปขายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

รายได้และกำไรของ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน

ปี 2016 รายได้ 8.2 ล้านล้านบาท กำไรสุทธิ 670,480 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 8.0 ล้านล้านบาท กำไรสุทธิ 530,990 ล้านบาท

นอกจากนี้ โตโยต้า เริ่มเข้ามาในตลาดประเทศไทย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงได้ไม่นาน

โดยเป็นการเข้ามาตั้งบริษัทสาขาในประเทศไทยเมื่อปี 1956 จนต่อมาได้ก่อตั้งเป็นบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในปี 1962

ปัจจุบัน กำลังการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในประเทศไทยมีกว่า 760,000 คันต่อปี หรือคิดเป็น 8% ของยอดการผลิตทั้งหมดของโตโยต้า นับว่าเป็นประเทศที่สำคัญของโตโยต้า

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
ปี 2559 จำนวน 244,317 คัน
ปี 2560 จำนวน 239,551 คัน

รายได้และกำไรของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
ปี 2016 รายได้ 413,369 ล้านบาท กำไรสุทธิ 30,860 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 372,306 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20,916 ล้านบาท

ปิดท้ายด้วยอัตรากำไรของโตโยต้า อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่เราคิด

ถ้าให้รถโตโยต้าทั่วโลกราคา 100 บาท โตโยต้าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 6.6 บาท

ถ้าให้รถคันละ 1 ล้านบาท โตโยต้าจะมีกำไรต่อคันเพียง 66,000 บาทเท่านั้น

ซึ่งก็สอดคล้องกับบริษัทโตโยต้าในประเทศไทย

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยทุกๆ ยอดขาย 100 บาท จะเหลือเป็นกำไรสุทธิให้บริษัทประมาณ 5.6 บาท

ดูเหมือนว่าอัตรากำไรแค่ 5% - 6% ดูเหมือนจะไม่มากเท่าไร

แต่ถ้านำไปเทียบกับยอดขาย 8 ล้านล้านบาท ก็มากเพียงพอให้บริษัทโตโยต้าเป็นบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่งของโลก..
----------------------
<ad> Easy & Save บริษัทตัวแทน TOYOTA Rent a Car อย่างเป็นทางการ ผู้ให้บริการเช่ารถขับเที่ยวในญี่ปุ่น จองรถเช่าได้ที่ไทย รับ-คืนรถได้ทั่วญี่ปุ่น
https://www.easyandsave.com/
----------------------
Reference
-https://th.wikipedia.org/wiki/โตโยต้า
-https://newsroom.toyota.co.jp/en/detail/5286101
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-http://www.toyota-global.com/pages/contents/investors/financial_result/2017/pdf/q4/presentation.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/Toyota
-https://www.toyota.co.th/index.php/app/page/group/about/view/company_profile
-http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=8919
-http://www.headlightmag.com/sales-report-december-2016/
-https://finance.yahoo.com/quote/TM/
-https://www.statista.com/statistics/267272/worldwide-vehicle-production-of-toyota/
-http://www.thedrive.com/sheetmetal/15801/six-car-makers-make-the-list-of-top-20-rd-spenders