ถอดบทเรียนความสำเร็จของ Leicester City ภายใต้ปรัชญา "THE POWER OF POSSIBILITIES"  ที่สร้างความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นเสมอ

ถอดบทเรียนความสำเร็จของ Leicester City ภายใต้ปรัชญา "THE POWER OF POSSIBILITIES" ที่สร้างความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นเสมอ

[Advertorial]
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Leicester City ทีมฟุตบอลของคนไทย สามารถสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการคว้าถ้วยแชมเปี้ยนชิพ
และกลับมาทวงคืนบัลลังก์ ขึ้นเป็น 1 ใน 20 สโมสรฟุตบอล ในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ
ที่น่าสนใจคือ พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ก็สามารถกลับไปยืนหยัดในจุดเดิมที่พวกเขาเคยอยู่
การได้แชมป์ นอกจากจะมอบเกียรติยศและความสุขกลับคืนสู่แฟนบอลแล้ว มูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมถึงรายได้ของสโมสรก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อย่างน้อย ๆ ก็มากกว่า 4,800 ล้านบาทต่อปี ที่จะได้รับจากส่วนแบ่งลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด
ซึ่งเคล็ดลับความสำเร็จ ก็คือ ความเชื่อในพลังของความเป็นไปได้ “THE POWER OF POSSIBILITIES” ปรัชญาการบริหารของ King Power ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง และสร้างความสำเร็จให้กับสโมสรของคนไทย
เรื่องราวความสำเร็จของ Leicester City เป็นอย่างไร ?
แล้วพวกเขา ได้อะไรจากการเลื่อนชั้นในครั้งนี้บ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
พรีเมียร์ลีก คือลีกฟุตบอลที่ใหญ่และมีอายุเก่าแก่นับร้อยปี และเป็นลีกกีฬาที่มีฐานแฟนคลับติดตามมากที่สุดรายการหนึ่งของโลก
ซึ่งด้วยความนิยมที่กระจายอยู่ทั่วโลก พรีเมียร์ลีกจึงช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี อย่างมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในฤดูกาล 2025-2026 ก็พุ่งสูงถึง 300,000 ล้านบาท
แค่การได้ร่วมแข่งขันในลีก ก็ถือว่าเป็นความฝัน และเกียรติประวัติของนักฟุตบอลทั่วโลก
ทำให้ในปีฤดูกาล 2013-2014 การที่ Leicester City ทีมฟุตบอลของคนไทย สามารถฝ่าฟันอุปสรรค เข้าไปเป็น 1 ใน 20 สโมสรที่ได้ร่วมชิงแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ
รวมถึงการช็อกโลกด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ในฤดูกาล 2015-2016 ในรอบ 132 ปี เป็นครั้งแรกของสโมสร กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของทีม Leicester City และแฟนบอลทั่วโลก
โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ก็คือ King Power บริษัทที่เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกเพื่อการท่องเที่ยวชั้นนำรายแรกของคนไทย
ที่ได้พาความมุ่งมั่นและความฝันของคนไทย ไปสู่การเข้าซื้อและเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล Leicester City ของอังกฤษ ในปี 2010
แม้ในเวลานั้น Leicester City อาจไม่ใช่ทีมที่เด่นดัง
แต่ด้วยความหลงใหลในเกมฟุตบอล และความเชื่อในปรัชญา “THE POWER OF POSSIBILITIES”
ทำให้ Leicester City สามารถก้าวจากทีมฟุตบอลในลีกรอง สู่แชมป์พรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้สำเร็จ ในระยะเวลาเพียง 3 ปี หลังจากที่ King Power เข้ามาบริหาร
และยังสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ ซึ่งเป็นถ้วยเก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ ในปี 2021 เป็นการได้แชมป์เอฟเอคัพ ในรอบ 137 ปี เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
อย่างไรก็ตาม ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันในปี 2023 เมื่อ Leicester City พลาดท่า และร่วงหล่นจากการเป็น 1 ใน 20 ทีมที่จะได้ชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก
ทีมที่เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์เอฟเอคัพ แต่อยู่ ๆ ต้องมาร่วงตกชั้น ทำให้ทั้งนักเตะ สตาฟโคช ผู้บริหาร รวมถึงแฟนบอล ต่างก็เสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ด้วยจิตวิญญาณของแชมป์ ทำให้ King Power ได้ตัดสินใจแก้ไขความผิดพลาด และปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อพาทีมฟุตบอลของคนไทย กลับไปยืนหยัดในฐานะสโมสรฟุตบอลระดับแนวหน้าอีกครั้ง
อย่างเช่น การกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อหาสิ่งใหม่ ๆ ทั้งการจ้างผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่มีแนวทางแตกต่างจากที่คุ้นเคย
หรือการปรับตัว และบริหารจัดการทรัพยากรของทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างการซื้อขายนักเตะ หรือการปรับโครงสร้างทีมเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายของทีม คือการคว้าแชมป์ในลีกแชมเปี้ยนชิพ และได้เลื่อนแชมป์กลับไปยังพรีเมียร์ลีก
ซึ่ง Leicester City ที่มาพร้อมกับปรัชญา The Power of Possibilities, The Power of Champions ได้แสดงให้เห็นเเล้วว่า ทุกอย่างนั้นเป็นไปได้เสมอ
เพราะฤดูกาลล่าสุด Leicester City สามารถคว้าถ้วยในรายการแชมเปี้ยนชิพ และสามารถเลื่อนชั้นกลับเข้าไปแข่งขันในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น
แล้ว Leicester City ได้อะไรจากการคว้าแชมป์ และกลับสู่พรีเมียร์ลีก ในครั้งนี้ ?
เรื่องแรกเลยก็คือ มูลค่าของสโมสร
ที่แต่เดิม Forbes ได้ประเมินมูลค่าของสโมสรในปี 2023 ไว้ที่ 28,900 ล้านบาท แต่มูลค่าในตอนนั้นเป็นช่วงที่สโมสร ยังอยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิพ
ทำให้การได้เลื่อนชั้นไปยังลีกที่สูงกว่า เม็ดเงินทางเศรษฐกิจมากกว่า ส่งผลให้มูลค่าของสโมสรก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เรื่องต่อมาคือ รายได้ของสโมสรจะพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน
อย่างเช่น รายได้จากสัญญาถ่ายทอดสด ที่แต่เดิมได้ 7 ล้านปอนด์ต่อปี ก็จะได้รับอย่างน้อย 104 ล้านปอนด์ต่อปี หรือ 4,800 ล้านบาทต่อปี เมื่อเข้าสู่พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากสปอนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงรายได้ค่าตั๋วและสินค้าอื่น ๆ ของสโมสรก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
และความสำเร็จนี้ ไม่ได้แค่นำความสุขและความภาคภูมิใจกลับสู่ชาวเมืองเลสเตอร์ และแฟนบอลทีม Leicester City เท่านั้น
แต่การคว้าถ้วยแชมเปี้ยนชิพของ Leicester City ก็ได้นำความสุขมาสู่แฟนบอลชาวไทย
ทำให้ Leicester City กลายเป็นทีมของคนไทย
และความภูมิใจของคนไทย ได้อย่างเต็มภาคภูมิ..
#LCFCTH
#ThePowerOfPossibilities
#ThePowerOfChampions
#ทีมของคนไทยความภูมิใจของคนไทย
#KingPower
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon