Home Credit จิกซอว์สำคัญ ที่ตอกย้ำการเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาค” ของกรุงศรี
กรุงศรี x ลงทุนแมน

หนึ่งในมูฟเมนต์ของแวดวงสถาบันการเงินที่น่าจับตามองไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น ข่าวธนาคารยักษ์ใหญ่ของไทย แห่กันปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Home Credit ในอาเซียน
​
แต่หนึ่งในธนาคารไทย ที่ถือว่าเป็นเสือปืนไว สามารถปิดดีลกับ Home Credit อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้สำเร็จตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว นั่นคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ความสำเร็จของดีลดังกล่าว ไม่เพียงเสริมจุดแข็งให้กรุงศรี ที่มีบริการครบวงจรด้านการเงิน และมีเครือข่ายที่ครอบคลุมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนอยู่แล้ว

ยังเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่ทำให้กรุงศรีเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการขยาย และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอาเซียน อีกด้วย

แล้วกรุงศรีเห็นศักยภาพอะไร ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ?
ทำไมการเข้าซื้อกิจการ Home Credit จะกลายเป็นแต้มต่อให้กรุงศรียิ่งแข็งแกร่ง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า Home Credit เป็นผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อ ที่ก่อตั้งในปี 2540 ปัจจุบัน มีเจ้าของคือ PPF ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนรายใหญ่ของสาธารณรัฐเช็ก

ที่ผ่านมา มีการดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ ทั้งในเอเชียและยุโรป แต่ด้วยกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องการโฟกัสที่ตลาดในยุโรปมากขึ้น

จึงทำให้ PPF ตัดสินใจขายกิจการ Home Credit ในเอเชีย รวมถึง Home Credit ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

พอโอกาสมา กรุงศรี จึงไม่รีรอ ตัดสินใจทุ่มงบกว่า 17,000 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อกิจการ Home Credit ทั้งในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์​

แล้วทำไม กรุงศรี ทุ่มเงินเกือบ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อปิดดีลนี้ ?

อย่างที่รู้ว่า หนึ่งในแผนขับเคลื่อนธุรกิจของกรุงศรี คือ การขยายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในอาเซียน

ดังนั้น การเข้าซื้อ Home Credit ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ จึงเป็นไพ่ใบสำคัญในการขยายพอร์ตสินเชื่อของกรุงศรี แบบก้าวกระโดด และยังเป็นประตูบานสำคัญ ที่ทำให้เข้าถึงฐานลูกค้ารายย่อยในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้อย่าง​มหาศาล

อินโดนีเซีย มีประชากรมากถึง 279 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก
ฟิลิปปินส์ มีประชากรกว่า 111 ล้านคน อยู่ในอันดับที่ 12 ของโลก

นี่จึงเป็นโอกาสการลงทุนที่ยากจะปฏิเสธ และยังเป็นเหมือนสปริงบอร์ดที่ช่วยกรุงศรี ที่มีเครือข่ายกว้างอยู่แล้ว ให้กว้างขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในอาเซียน

ที่สำคัญ ถ้าไปซูมดูศักยภาพของ Home Credit ที่อยู่ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์​ ก็ไม่ธรรมดา

เริ่มจาก ฟิลิปปินส์..

จริง ๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ กรุงศรี เข้ามารุกตลาดสินเชื่อในฟิลิปปินส์ แต่ก่อนหน้านี้ กรุงศรี ได้ขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อยผ่าน เอสบี ไฟแนนซ์ (SB Finance)

โดยมีผลิตภัณฑ์เรือธง คือ สินเชื่อคาร์ ฟอร์ แคช (Car4Cash) และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ ยังเข้าไปเร่งขยายการเติบโตของผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินเดือนล่วงหน้า (Salary Advance Loan) จนทำให้ SB Finance เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดนี้

ที่น่าภูมิใจคือ นับตั้งแต่กรุงศรีเข้าไปถือหุ้น SB Finance ในช่วงปลายปี 2566 ยังมีอัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อกว่า 40% และมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า

มาถึงการซื้อกิจการ Home Credit ฟิลิปปินส์

ต้องบอกว่า กรุงศรีอ่านเกมขาดเช่นกัน เพราะ Home Credit ฟิลิปปินส์ ไม่เพียงเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อ ณ จุดขาย (Point-of-sale Loan) ที่มีเครือข่ายมากกว่า 15,400 จุด ยังให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคลดิจิทัล และบัตรเครดิต

โดยมียอดสินเชื่อรวม 46.5 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ หรือคิดเป็น 29 พันล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) และมีฐานลูกค้าอยู่ในมือกว่า 10 ล้านราย อีกทั้งยังครองตำแหน่งแบรนด์ที่เป็นที่จดจำสูงสุดในกลุ่มตลาดสินเชื่อ ณ จุดขายในฟิลิปปินส์

ดังนั้น ภารกิจหลัก ๆ ของกรุงศรีหลังซื้อกิจการ จึงเป็นการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด เน้นสร้างการเติบโตในระยะยาว ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด​

ศักยภาพของ Home Credit ฟิลิปปินส์ว่าไร้ที่ติแล้ว ของฝั่งอินโดนีเซียก็ไม่น้อยหน้า เพราะเป็นผู้เล่นรายสำคัญในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคของอินโดนีเซียเช่นกัน

จุดแข็งของ Home Credit Indonesia คือ ดำเนินธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคในอินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2556 มีฐานลูกค้าทั้งหมดกว่า 6.2 ล้านราย แถมยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักและจดจำได้ ด้วยอัตราการรับรู้ในแบรนด์สูงถึง 95%

ปัจจุบัน มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่หลากหลาย ได้แก่

- สินเชื่อ ณ จุดขาย (POS Loan)
- สินเชื่อเงินสด (Cash Loan)
- บัตรเครดิต (Credit Card)
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
- ผลิตภัณฑ์ประกัน ฯลฯ

บริการที่ Home Credit อินโดนีเซียเป็นเจ้าตลาด คือ สินเชื่อ ณ จุดขาย ด้วยเครือข่ายการให้บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศอินโดนีเซียกว่า 21,000 จุด รวมถึงการมีเครือข่ายพันธมิตรร้านค้าปลีกและแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกกว่า 11,400 ราย

ด้วยข้อได้เปรียบนี้เอง ทำให้กรุงศรี มองว่าจะสามารถต่อยอดไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการอื่น ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า รวมถึงสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตสินเชื่อได้

มาถึงตรงนี้ คงหายข้องใจแล้วว่า ทำไมการซื้อกิจการ Home Credit ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ถึงเป็นจิกซอว์สำคัญที่เข้ามาเติมเต็มกรุงศรีที่มีเป้าหมายใหญ่ว่า จะเป็นธนาคารให้ภูมิภาค

ซึ่งแน่นอนว่า หากกรุงศรีทำสำเร็จ คนที่จะได้ประโยชน์หลัก ๆ ไม่ใช่แค่กรุงศรี

แต่เป็นประชากรในอาเซียน ที่อย่างน้อย ๆ จะมีธนาคารแห่งภูมิภาค ที่พร้อมเข้ามาเติมศักยภาพของอาเซียนที่กำลังจรัสแสงในเวทีโลก

ด้วยบริการด้านสินเชื่อที่หลากหลายและครบวงจร พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนให้ไร้พรมแดนอย่างแท้จริง..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
รู้หรือไม่ว่า หลังจากปิดดีลนี้สำเร็จ กรุงศรีจะมีบริษัทในเครือกระจายอยู่ใน 5 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว รวมฐานลูกค้าสูงกว่า 17 ล้านราย

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GO ASEAN with krungsri https://www.krungsri.com/th/asean

#GOASEANwithkrungsri
#krungsri #ชีวิตง่ายได้ทุกวัน

References
-https://www.reuters.com/markets/deals/japans-mitsubishi-ufj-buy-two-asia-units-home-credit-620-mln-source-2022-11-23/
-ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในประเทศฟิลิปปินส์ของ IPSOS ในเดือนตุลาคม 2565
-ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซียของ IPSOS ปี 2566