หุ้น SCB วันนี้ +6% หลังประกาศงบ พร้อมจ่ายเงินปันผล 9%
ล่าสุด บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้รายงานงบไตรมาส 4 และประจำปี 2566
โดยในไตรมาสที่ 4
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 42,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2%
กำไรสุทธิ 10,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.9%
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 42,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2%
กำไรสุทธิ 10,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.9%
ส่วนทั้งปี 2566 นั้น
รายได้จากการดำเนินงาน 171,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8%
กำไรสุทธิ 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9%
รายได้จากการดำเนินงาน 171,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8%
กำไรสุทธิ 43,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9%
ซึ่งแบ่งสัดส่วนรายได้ปี 2566 ออกได้เป็น
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 124,682 ล้านบาท (+15.6%)
การเติบโตมาจากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 0.44% และการเติบโตของสินเชื่อ 2.1% จากปีก่อนหน้า
การเติบโตมาจากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 0.44% และการเติบโตของสินเชื่อ 2.1% จากปีก่อนหน้า
- รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ 43,083 ล้านบาท (-4.0%)
ที่รายได้ส่วนนี้ลดลง ส่วนใหญ่เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ที่ลดลง
รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ลดลง
ที่รายได้ส่วนนี้ลดลง ส่วนใหญ่เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ที่ลดลง
รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ลดลง
- รายได้จากการลงทุนและการค้า 3,338 ล้านบาท (+97.6%)
การเติบโตส่วนใหญ่มาจาก กำไรจากการวัดมูลค่าตลาดของพอร์ตการลงทุน ที่เพิ่มขึ้น
การเติบโตส่วนใหญ่มาจาก กำไรจากการวัดมูลค่าตลาดของพอร์ตการลงทุน ที่เพิ่มขึ้น
อีกทั้ง SCB ยังได้เผยถึงกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2567 นี้ว่า
- ธุรกิจ Gen 1 (ธนาคารไทยพาณิชย์) จะยังคงสร้างผลกำไรหลัก ให้กับกลุ่มบริษัทฯ
โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของสินเชื่อ ที่ให้ผลตอบแทนบนความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำ AI มาใช้เชิงธุรกิจมากขึ้น
- ธุรกิจ Gen 2 (กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค เช่น CardX, AutoX, MONIX และ Abacus)
ในปีที่ผ่านมา กลุ่มนี้มีการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่ดี
ส่วนในปีนี้ CardX จะมุ่งไปที่การสร้างรากฐานให้มั่นคง และใช้เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่ระมัดระวังขึ้น
ส่วนในปีนี้ CardX จะมุ่งไปที่การสร้างรากฐานให้มั่นคง และใช้เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่ระมัดระวังขึ้น
AutoX ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อและสร้างแหล่งรายได้ใหม่ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อและประกันภัย ให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น
- ธุรกิจ Gen 3 (กลุ่มดิจิทัลแพลตฟอร์มและระบบนิเวศ เช่น InnovestX, Robinhood และ SCB 10X)
จะหันมามุ่งเน้นการทำกำไรมากขึ้น ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพ โดย InnovestX จะปรับปรุงอันดับทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแพลตฟอร์ม Robinhood จะมีการลดเงินอุดหนุนลง เพื่อให้สามารถทำกำไรได้ ภายในปี 2570
สำหรับ SCB 10X ได้ใช้เงินทุนเต็มแล้ว และได้มีการทำกำไรจากเงินลงทุนออกไปบางส่วน
ซึ่งพอร์ตการลงทุนของ SCB 10X ช่วยสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับกลุ่มบริษัทฯ
ซึ่งพอร์ตการลงทุนของ SCB 10X ช่วยสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับกลุ่มบริษัทฯ
โดย ณ สิ้นปี 2566 SCB 10X มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการอยู่ 18,800 ล้านบาท
และมี IRR ของเงินทุนที่ใช้ อยู่ที่ 16.1%
และมี IRR ของเงินทุนที่ใช้ อยู่ที่ 16.1%
นอกจากผลประกอบการ และกลยุทธ์ธุรกิจแล้ว
SCB ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล จากผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตรา 10.34 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 34,816 ล้านบาท
SCB ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล จากผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตรา 10.34 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 34,816 ล้านบาท
โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น
และจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในครั้งนี้อีก 7.84 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567
ดังนั้น ด้วยราคาหุ้น ณ ตอนนี้ที่ 111 บาท
เมื่อได้รับเงินปันผลหุ้นละ 10.34 บาท
ก็จะคิดเป็น Dividend Yield ที่ 9.3%
เมื่อได้รับเงินปันผลหุ้นละ 10.34 บาท
ก็จะคิดเป็น Dividend Yield ที่ 9.3%
ซึ่งหลังจากที่ผลประกอบการของบริษัทได้เผยออกมา พร้อมกับการประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง
ก็ทำให้ราคาหุ้น SCB วันนี้ปรับตัวขึ้นทันที 6.7%
และมีมูลค่าบริษัทเป็น 373,749 ล้านบาท
ก็ทำให้ราคาหุ้น SCB วันนี้ปรับตัวขึ้นทันที 6.7%
และมีมูลค่าบริษัทเป็น 373,749 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ราคาหุ้นจะดีดตัวขึ้นมา
แต่หากเทียบกับกำไรปีล่าสุด ที่ 43,521 ล้านบาท
ราคาหุ้นตอนนี้ ก็กำลังถูกซื้อขายกันที่ P/E เพียง 8.6 เท่า..
ราคาหุ้นตอนนี้ ก็กำลังถูกซื้อขายกันที่ P/E เพียง 8.6 เท่า..
คำเตือน : โพสต์นี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล ไม่ได้แนะนำให้ซื้อ หรือ ขาย แต่อย่างใด
Tag: SCB