คนไต้หวัน ก่อตั้งบริษัทอเมริกัน ที่ตอนนี้ใหญ่กว่า หุ้นจีนทั้งหมดรวมกัน

คนไต้หวัน ก่อตั้งบริษัทอเมริกัน ที่ตอนนี้ใหญ่กว่า หุ้นจีนทั้งหมดรวมกัน

คนไต้หวัน ก่อตั้งบริษัทอเมริกัน ที่ตอนนี้ใหญ่กว่า หุ้นจีนทั้งหมดรวมกัน /โดย ลงทุนแมน
ประเทศจีนมี 1,400 ล้านคน
ไต้หวันมี 23 ล้านคน
แต่คนไต้หวันคนนี้ ได้ก่อตั้งบริษัทหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้บริษัทนี้ มีมูลค่ามากกว่าหุ้นจีน H-Share ทั้งหมดรวมกัน ซึ่งรวมถึงทั้ง Alibaba, Tencent, Xiaomi, BYD, Meituan ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของจีนรวมกัน
บริษัทนี้ชื่อ NVIDIA..
ไม่ใช่แค่บริษัทจีนทั้งหมด แม้แต่ Google และ Amazon ก็เพิ่งถูกบริษัท NVIDIA แซงหน้า
ในตอนนี้ NVIDIA มีมูลค่า 65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 88,000% ในช่วง 25 ปี
และตอนนี้ NVIDIA เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุด เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นรองเพียง Microsoft, Apple และ Saudi Aramco เท่านั้น..
มูลค่าระดับนี้ หากนำไปเทียบกับบริษัทจีนแผ่นดินใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง หรือ H-Share
รวมทั้งหมด 323 บริษัท จะมีมูลค่ารวมกัน 24 ล้านล้านบาท
เท่ากับว่า NVIDIA เพียงบริษัทเดียวเป็นเกือบ 3 เท่าของหุ้นจีนใน H-Share ทั้งหมด
ซึ่งความยิ่งใหญ่ของ NVIDIA ทุกวันนี้ เกิดจากฝีมือของ “คุณเจนเซน หวง”
ชาวเมืองไถหนาน จากเกาะไต้หวัน ซึ่งครั้งหนึ่งเขาและครอบครัว ก็เคยอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย
แต่ด้วยความวุ่นวายทางการเมือง และสงครามเวียดนาม ทำให้พ่อแม่ของคุณเจนเซน ตัดสินใจส่งคุณเจนเซน ในวัย 9 ขวบ พร้อมกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไปอยู่กับคุณลุงและคุณป้าของเขาที่สหรัฐอเมริกา
ซึ่งคุณเจนเซน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Oregon State University และ Stanford University ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
และที่น่าสนใจคือ ก่อนเขาจะตั้งบริษัท NVIDIA ขึ้นมา เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรออกแบบ Microprocessor ที่ AMD มาก่อน..
โดยคุณเจนเซน เริ่มก่อตั้ง NVIDIA ขึ้นมาในปี 1993 กับเพื่อนอีก 2 คน ด้วยเงินทุน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเช่าห้องเล็ก ๆ ไว้เป็นสำนักงาน ที่ไม่มีแม้แต่เครื่องปรับอากาศ
แถมก่อนที่ NVIDIA จะออกผลิตภัณฑ์รุ่นแรกของบริษัทได้ เมื่อปี 1995
NVIDIA ต้องประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง จนเกือบล้มละลายอยู่หลายครั้ง..
แต่คุณเจนเซน ก็สามารถพา NVIDIA ก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมาได้
จนธุรกิจเติบโต และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด ในเวลาต่อมา
แล้วในตอนนี้ NVIDIA มีรายได้มาจากอะไรบ้าง ?
NVIDIA ผลิตชิปประมวลผลเป็นหลัก และมีรายได้มาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ
- ธุรกิจศูนย์ข้อมูล 80%
- ธุรกิจการ์ดจอเกม 16%
และอื่น ๆ เช่น กราฟิก และยานยนต์ อีก 4%
โดยธุรกิจศูนย์ข้อมูลของ NVIDIA เป็นธุรกิจ ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
จากความต้องการ ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในโลก ที่ทะลักเข้ามา เพราะทุกคนต่างก็อยากทำ AI ซึ่ง AI ต้องใช้ชิปประมวลผล
อย่างในกรณีล่าสุด ก็เช่น META เจ้าของเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม
ที่มีรายงานว่าจะลงทุนซื้อชิปประมวลผล NVIDIA H100 จำนวน 350,000 ตัว
ราคาตัวละประมาณ 1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 350,000 ล้านบาท เพื่อรองรับกระแส AI
จนมีคนกล่าวกันว่า
ในยุคนี้การสะสมอาวุธทำสงคราม ก็คือการสะสมชิปประมวลผล..
สิ่งที่น่าสนใจต่อไป สำหรับนักลงทุนก็คือ
ปัจจุบัน หุ้น NVIDIA กับหุ้นจีน H-Share ตลาดให้ตัวคูณไปที่กำไรของบริษัทต่างกันราว “ฟ้ากับเหว”
- NVIDIA มูลค่า 65 ล้านล้านบาท
- มีกำไร 12 เดือนล่าสุด อยู่ราว 0.7 ล้านล้านบาท
คิดเป็นมูลค่าต่อกำไร หรือ P/E สูงเกือบ 100 เท่า
ในขณะที่ หุ้นจีน H-Share มูลค่า 24 ล้านล้านบาท
กำไรรวม ทั้งหมด 323 บริษัท รวมกัน 2.6 ล้านล้านบาท
ซึ่งยังมีกำไรเป็นเกือบ 4 เท่าของ NVIDIA แต่ตลาดไม่ให้ค่า จึงมี P/E เพียง 9 เท่า
สรุปง่าย ๆ ก็คือ คนยอมจ่ายเงินเพื่อเป็นเจ้าของ NVIDIA มากกว่าตลาดหุ้นจีน H-Share ทั้งหมด ทั้งที่ NVIDIA ยังมีกำไรน้อยกว่าเยอะ
ปิดท้ายด้วยเรื่องชวนคิด
ถ้าย้อนกลับไปยังช่วงวัยเด็กของคุณเจนเซน หวง
ในเวลานั้น ถ้าเขาไม่ได้ย้ายจากประเทศไทย ไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
วันนี้ ก็อาจจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อว่า “NVIDIA” เกิดขึ้นมาบนโลก
ซึ่งเส้นทางชีวิตของคุณเจนเซน ในโลกคู่ขนาน ที่ไม่ได้ขายชิปประมวลผล
ตอนนี้ใน Universe นั้น คุณเจนเซนจะกำลังทำอาชีพอะไรอยู่ในเมืองไทย
ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon