เที่ยวกระจุก รายได้ไม่กระจาย ปัญหาท่องเที่ยวไทย ที่ยังคงเรื้อรัง /โดย ลงทุนแมน
ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสามารถทำเงินจากการท่องเที่ยวได้มากถึง 2.2 ล้านล้านบาท

แต่จากมูลค่าทั้งหมด เม็ดเงินตรงนี้กลับมาจากกรุงเทพฯ, ภูเก็ต และชลบุรี คิดเป็น 6 ใน 10 ของรายได้การท่องเที่ยวไทยทั้งหมด..

ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาของประเทศไทย ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มีรายได้กระจุกตัวมากเกินไป

แล้วเป็นเพราะอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาเข้าใจก่อนว่า “เมืองหลัก และ เมืองรอง” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยชอบพูดกัน หมายถึงอะไร

เมืองหลัก คือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว มากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งมีทั้งหมด 22 จังหวัด

ส่วนเมืองรอง คือ จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวปีหนึ่งต่ำกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นจังหวัดที่เหลือนั่นเอง โดยแบ่งออกเป็น

- ภาคเหนือ 16 จังหวัด
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด
- ภาคกลาง 7 จังหวัด
- ภาคตะวันออก 5 จังหวัด
- ภาคใต้ 9 จังหวัด

อย่างไรก็ตาม หากเราไปดูสัดส่วนรายได้การท่องเที่ยวของเมืองหลักและเมืองรอง ต่อรายได้การท่องเที่ยวไทยทั้งหมด จะพบว่า

- สัดส่วนเมืองหลัก 80%
- สัดส่วนเมืองรอง 20%

พูดง่าย ๆ คือ ทุกรายได้ 100 บาท ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจ่ายเงิน จะเข้ากระเป๋าของเมืองหลักมากถึง 80 บาทเลยทีเดียว

แล้วทำไม รายได้การท่องเที่ยวไทยถึงกระจุกตัว ?

เหตุผลแรกเลย ก็เพราะว่า
“ทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นเที่ยวเมืองหลัก”

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยกว่า 80% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด เน้นเที่ยวเมืองหลักที่มีชื่อเสียง เช่น กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับเมืองหลักมากถึง 92% ของเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวในไทย

และไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่คนไทยก็ยังเที่ยวเมืองหลักมากถึง 52% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหมด โดยสร้างรายได้ให้เมืองหลักกว่า 63% ของเม็ดเงินที่คนไทยใช้ไปกับการท่องเที่ยวในไทย

พอเป็นแบบนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมรายได้การท่องเที่ยวไทย ถึงกระจุกตัวในเมืองหลัก ก็เพราะทั้งคนไทยและต่างชาติ เน้นเที่ยวที่เมืองหลักนั่นเอง

เหตุผลต่อมาคือ
“การเดินทางในต่างจังหวัด ไม่ค่อยสะดวกมากนัก”

รู้ไหมว่า รถโดยสารประจำทางทั้งประเทศ มีอยู่ประมาณ 57,012 คัน แบ่งออกเป็นในกรุงเทพฯ 15,874 คัน และต่างจังหวัดอีก 41,138 คัน

แม้ดูเหมือนว่า ต่างจังหวัดจะมีรถโดยสารเยอะ แต่เมื่อหารเฉลี่ยด้วยจำนวนจังหวัดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ น้อยมาก..

อีกทั้งเส้นทางเดินรถโดยสารส่วนใหญ่ เป็นการวิ่งระหว่างอำเภอ ในจังหวัดเดียวกัน มากถึง 75% ในขณะที่รถวิ่งระหว่างจังหวัด มีเพียง 10%

เท่ากับว่า หากนักท่องเที่ยวอยากไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็จะไม่มีรถโดยสารที่เชื่อมระหว่างจังหวัดมากนัก หรือก็คือ การเดินทางเที่ยวเมืองรอง ไม่ได้เชื่อมต่อถึงกันเท่าไรนัก

และต้องหันไปพึ่งพาบริการรถเช่า เพื่อให้สามารถเที่ยวในแต่ละจังหวัดได้อย่างสะดวกแทน

และเหตุผลสุดท้ายคือ “เมืองรองไม่ค่อยมี แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว”

ปัจจุบัน จำนวนห้องพักกว่า 65% ของทั้งประเทศ
กระจุกตัวอยู่เพียง 11 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี, สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่

จะเห็นได้ว่า เมืองเหล่านี้เป็นเมืองหลัก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้มีการลงทุนของธุรกิจโรงแรมทั้งไทยและต่างชาติ

อัตราการเข้าพักของเมืองหลัก ซึ่งคำนวณจากห้องพักที่มีลูกค้าต่อห้องว่าง มีมากถึง 70% ในขณะที่เมืองรอง มีอัตราการเข้าพักเพียง 30-50% เท่านั้น

พอภาพเป็นแบบนี้ ทำให้ธุรกิจที่พักในเมืองรอง จึงมีจำนวนน้อยตามไปด้วย เพราะการลงทุนอาจต้องใช้ระยะเวลาคืนทุนนานกว่า และส่งผลต่อกำไรของธุรกิจโรงแรมโดยตรง

นอกจากเรื่องที่พักแล้ว เมืองรองอาจยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่รู้ว่า ต้องมาเที่ยวอะไรในจังหวัดเหล่านั้นบ้าง หรือแต่ละจังหวัดมีจุดเด่นเรื่องอะไร

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า จริง ๆ แล้วเมืองรองมีเสน่ห์ หลายอย่างซ่อนอยู่ เพียงแต่ยังไม่ถูกนำเสนอให้น่าสนใจมากพอ

อีกทั้งการเที่ยวเมืองรอง ก็มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประสบการณ์ใหม่ ๆ ค่าใช้จ่ายที่อาจถูกลง และยังช่วยกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นอีกด้วย

ซึ่งปัจจุบัน คนไทยบางส่วนก็เริ่มหันไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพื่อสัมผัสบรรยากาศใหม่ ๆ ส่วนนักท่องเที่ยว
ต่างชาติ ก็ยังกระจุกตัวในเมืองหลักเหมือนเดิม

ดังนั้นประเทศไทย จึงต้องหาวิธีดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หันมาเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพื่อให้รายได้ท่องเที่ยว กระจายตัวกันไปให้ทั่วถึงทุกจังหวัด

และทำให้บางจังหวัดไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางผ่าน แต่ต้องกลายเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้พูดถึง ไม่ใช่นึกถึงแค่ภูเก็ต, พัทยา, หัวหิน หรือเชียงใหม่ เพียงอย่างเดียว

ซึ่งแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เพียงแต่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

แต่ก็น่าคิดว่า ตอนนี้ ยูทูบเบอร์ชาวเกาหลี อย่างพี่จอง-คัลแลน อาจช่วยโปรโมตและกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้ดีกว่า ททท. เสียอีก..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://statistics.jnto.go.jp/en/graph/#graph--Breakdown--by--number--of--visits
-https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/services/hotels/io/hotel-2022-2024
-https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=875&language=TH
-https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parbudget/ewt_dl_link.php?nid=989
-https://www.mots.go.th/news/category/705
-https://social.nia.or.th/2023/article0034/