เคอรี่ หุ้นดีดขึ้น 5% หลังแจ้งความคืบหน้า เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่
เคอรี่ หุ้นดีดขึ้น 5% หลังแจ้งความคืบหน้า เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่
- เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานว่า บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่
- เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX รายงานว่า บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่
โดยให้ SF Holding บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ของจีน เข้ามาถือหุ้นตรง
จากเดิมที่ SF Holding ถือหุ้นทางอ้อม ผ่านทาง KLN ที่เข้ามาถือหุ้น KEX ในสัดส่วน 52% ในตลาดหุ้นไทย
จากเดิมที่ SF Holding ถือหุ้นทางอ้อม ผ่านทาง KLN ที่เข้ามาถือหุ้น KEX ในสัดส่วน 52% ในตลาดหุ้นไทย
หรือก็คือ KLN จะไม่ได้ถือหุ้น KEX แล้ว แต่ให้ตัวบริษัทแม่ซึ่งก็คือ SF Holding เข้ามาถือเอง
- สิ่งที่ทำคือ KLN จะจ่ายปันผลเป็นหุ้น KEX ทั้งหมดที่ถืออยู่ ให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้แก่
1) SFTH (บริษัทในเครือ SF Holding)
2) ผู้ถือหุ้นรายย่อย ของ KLN
1) SFTH (บริษัทในเครือ SF Holding)
2) ผู้ถือหุ้นรายย่อย ของ KLN
เมื่อจ่ายปันผลเป็นหุ้นแล้ว จะทำให้ SFTH กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KEX 26.8%
และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ KLN ก็จะมาถือหุ้น KEX แทน
และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ KLN ก็จะมาถือหุ้น KEX แทน
ซึ่งหลังจาก SFTH เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่เกิน 25% ทำให้ต้องทำ Tender Offer หรือการเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการด้วย ซึ่งบริษัทได้เสนอราคาซื้อหุ้น KEX ที่ 5.50 บาท
- SF Holding คือใคร ?
SF เป็นบริษัทขนส่งรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจีน ที่เน้นการส่งพัสดุด่วน (Courier) ภายใต้ชื่อแบรนด์ SF Express โดยเน้นขนส่งสินค้า ที่ผู้คนซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Alibaba และ JD.com เป็นหลัก
และ SF ยังได้เข้าซื้อกิจการ DHL ในจีน เมื่อปี 2019
- ความคืบหน้าของดีล SF Holding กับ KEX
เมื่อคืนนี้ KEX ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า การประกาศจ่ายปันผลเป็นหุ้น KEX ทั้งหมด ของ KLN ได้รับการไฟเขียวจาก ก.ล.ต. แล้ว
แต่มีเงื่อนไขว่า
1) KLN ต้องดำเนินการให้ SFTH ทำ Tender Offer ให้สำเร็จ โดยกำหนดเงื่อนไขและราคาที่ไม่ด้อยไปกว่ากรณีที่ KLN เป็นผู้รับซื้อด้วยตนเอง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย ตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่
1) KLN ต้องดำเนินการให้ SFTH ทำ Tender Offer ให้สำเร็จ โดยกำหนดเงื่อนไขและราคาที่ไม่ด้อยไปกว่ากรณีที่ KLN เป็นผู้รับซื้อด้วยตนเอง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย ตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่
2) KLN ต้องดำเนินการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลเงื่อนไขฯ ตามข้อแรก ให้นักลงทุนทราบ
นอกจากนี้ จะมีการยื่น Tender Offer ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 และจะเริ่มรับซื้อหลักทรัพย์ ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 โดยประมาณ
ซึ่งธุรกรรมนี้ จะเสร็จสิ้นประมาณช่วงเดือนมีนาคม 2567
- สำหรับผลประกอบการ KEX ย้อนหลัง
ปี 2563 รายได้ 19,010 ล้านบาท กำไร 1,405 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 18,972 ล้านบาท กำไร 47 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 17,145 ล้านบาท ขาดทุน 2,830 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 19,010 ล้านบาท กำไร 1,405 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 18,972 ล้านบาท กำไร 47 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 17,145 ล้านบาท ขาดทุน 2,830 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2566 รายได้ 8,995 ล้านบาท ขาดทุน 2,725 ล้านบาท
- ในช่วง 3 ปีเศษ ๆ ที่ผ่านมา ราคาหุ้น KEX ได้ปรับตัวลงมาแล้วกว่า -89%
จากสงครามราคา และการแข่งขันที่ดุเดือด ในประเทศไทย
จากสงครามราคา และการแข่งขันที่ดุเดือด ในประเทศไทย
จนบริษัทต้องปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุน และหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อสู้ศึกที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงที่ตรงไหน..
คำเตือน : โพสต์นี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล ไม่ได้แนะนำให้ซื้อ หรือ ขาย แต่อย่างใด
Tag: KEX