AriZona แบรนด์ชาที่ไม่เคยขึ้นราคาตลอด 30 ปี ของเศรษฐีชา ที่รวยสุดในโลก

AriZona แบรนด์ชาที่ไม่เคยขึ้นราคาตลอด 30 ปี ของเศรษฐีชา ที่รวยสุดในโลก

AriZona แบรนด์ชาที่ไม่เคยขึ้นราคาตลอด 30 ปี ของเศรษฐีชา ที่รวยสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าให้นึกถึงแบรนด์ชาพร้อมดื่ม หลายคนน่าจะนึกถึงโออิชิ และอิชิตัน ของคนไทย
ไม่ก็ชาเขียว​อิโต เอ็น ของญี่ปุ่น หรืออาจจะเป็นชาลิปตัน จากสหราชอาณาจักร
ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะแทบไม่รู้จัก แบรนด์ชาพร้อมดื่มจากสหรัฐอเมริกาเลย
แต่รู้หรือไม่ว่า เศรษฐีชาที่รวยสุดในโลก คือชาวอเมริกันที่ชื่อว่า “คุณ Don Vultaggio (ดอน วูตาจิโอ)”
โดยความมั่งคั่ง 220,000 ล้านบาทของเขา มาจากการขาย AriZona แบรนด์ชาอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา
กลยุทธ์ธุรกิจที่น่าสนใจของชา AriZona ก็คือ ไม่เคยขึ้นราคาเลย โดยขายราคาระดับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ มีทอน คือที่ 0.99 เซนต์ หรือประมาณ 35 บาท มาตลอด 31 ปี..
คุณ Don Vultaggio ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ให้คุณเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เงิน เพียงแค่เข้าแอปฯ ShopBit ก่อนช้อปปิ้งออนไลน์ใน Shopee, Lazada, Tops, Klook ฯลฯ ทุกครั้ง ก็รับไปเลย Bitcoin แบบฟรี ๆ
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1971
คุณ Don Vultaggio ที่เรียนไม่จบ ม.ปลาย ตัดสินใจลาออกจากงานพาร์ตไทม์ที่ร้านขายของชำ เพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
คุณ Vultaggio เลยไปชวนเพื่อนสมัยเด็กอย่างคุณ John Ferolito มาร่วมหุ้นกันซื้อรถตู้ Volkswagen มือสอง และปรับเป็น Beer Truck สำหรับขายเบียร์หลายยี่ห้อ
หลังจากสั่งสมประสบการณ์ขายเบียร์อยู่สิบกว่าปี ในปี 1985 ทั้งคู่ก็ตัดสินใจทำเบียร์ของตัวเองขึ้นมาหลายยี่ห้อ เช่น Midnight Dragon และ Crazy Horse
ซึ่งเบียร์ของทั้งคู่ ขายดีมาก แต่โชคร้ายในปี 1992 เบียร์ Crazy Horse ถูกประท้วงโดยชนพื้นเมืองอเมริกัน ว่าชื่อไม่เหมาะสม และเหยียดเชื้อชาติ
จนทางการสหรัฐอเมริกา สั่งแบน Crazy Horse เลยต้องเปลี่ยนชื่อเป็น Crazy Stallion แทน
ทำให้คุณ Vultaggio และคุณ Ferolito อยากหาสินค้าตัวใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยง และหาช่องทางทำเงินใหม่ ๆ
ในปีเดียวกันนั้น ทั้งสองก็เห็นโอกาสในตลาดชาพร้อมดื่ม ที่มี Snapple เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้วตอนนั้น
แต่ทั้งคู่มั่นใจว่า สามารถทำชาพร้อมดื่ม ที่ทั้งอร่อยและถูกกว่ามาขายได้ เลยเกิดเป็นแบรนด์ชากระป๋อง ที่ชื่อว่า AriZona ภายใต้บริษัท Arizona Beverages ขึ้นมา
สินค้าตัวแรกของ AriZona คือ ชาเลมอนราสป์เบอร์รี ก่อนจะตามมาอีกหลายรสชาติ หนึ่งในนั้นคือ ชาเขียวโสมน้ำผึ้ง ที่กลายเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ จนถึงทุกวันนี้
จุดเด่นของ AriZona คือ ชากระป๋องแบบ Big Can ขนาด 24 ออนซ์ ที่คุณ Vultaggio ได้แรงบันดาลใจมาจากเบียร์กระป๋องใหญ่ยี่ห้อ Schlitz
และ AriZona ยังขายในราคาแค่ 0.99 เซนต์ หรือประมาณ 35 บาท เท่านั้น
ซึ่งเท่ากับชาขนาด 16 ออนซ์ของคู่แข่งอย่าง Snapple ในตอนนั้นเลย
นอกจากนี้ AriZona ยังมีโลโกและแพ็กเกจจิงสีพาสเทลที่โดดเด่นและแปลกตา ซึ่งออกแบบโดยภรรยาของคุณ Vultaggio เอง
โดย AriZona ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เปิดตัว และเพียงแค่ 3 ปีแรก บริษัทก็ทำยอดขายได้ 18 ล้านกระป๋อง
ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ AriZona ขายดี คือ “ราคาถูก”
ตามหลักคิดของคุณ Vultaggio ที่มองว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจคือ การตั้งราคาที่จะทำให้คนกลับมาซื้อซ้ำ ๆ
และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ ผ่านไปแล้วกว่า 30 ปี AriZona แบบ Big Can ยังขายในราคาเดิมที่ 0.99 เซนต์..
ถ้าเทียบตามอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา จำนวนเงิน 0.99 เซนต์ (ประมาณ 35 บาท) เมื่อปี 1992
ตอนนี้มีมูลค่าเท่ากับ 2.17 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 76 บาท) หรือเพิ่มขึ้นมาเกือบ 120%
ซึ่งหลายคนก็น่าจะตั้งคำถามว่า ทำไม AriZona ถึงขายราคาเดิมมาได้ถึง 30 กว่าปี ทั้งที่ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ต้องบอกว่า นี่คือความตั้งใจของคุณ Vultaggio ที่ไม่อยากขึ้นราคา เพราะกลัวจะเสียลูกค้าประจำไป และยอมที่จะได้อัตรากำไรน้อยลงจากเมื่อก่อน
ทำให้ AriZona ต้องพยายามลดต้นทุนทุกทางที่ทำได้ เพื่อที่จะขายราคาเดิม ตั้งแต่
- ลดปริมาณชาลง แต่ใส่ในกระป๋องเท่าเดิม จาก 24 ออนซ์ เหลือ 23 ออนซ์
- ใช้เทคโนโลยีช่วยลดปริมาณอะลูมิเนียมลง 40% เพื่อลดต้นทุนค่ากระป๋อง
- เปลี่ยนมาจัดส่งสินค้าในช่วงเวลากลางคืนแทน เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด ที่เป็นทั้งต้นทุนค่าน้ำมันและเวลา
- และที่สำคัญที่สุดคือ AriZona ใช้งบในการโฆษณาน้อยมาก
นอกจากนี้ AriZona ยังออกสินค้ามาอีกหลายตัว เช่น ชาแบบขวด หรือกาแฟ
ซึ่งทางแบรนด์เลือกขึ้นราคาสินค้าประเภทอื่นแทนแบบ Big Can ที่เป็นซิกเนเชอร์
เช่น ชาแบบขวด ขนาด 20 ออนซ์ เพิ่มราคาขายเป็น 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่แบบ Big Can ยังคงรักษาราคาเดิมที่ 0.99 เซนต์
ต้องบอกว่า การคงราคาเท่าเดิม เป็นจุดยืนที่ชัดเจนของแบรนด์ และนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะทำให้ AriZona กลายเป็นแบรนด์ชาอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา จนถึงทุกวันนี้
อย่างในปี 2023 รายได้ของ Arizona Beverages อยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท หรือมากกว่ายอดขายอิชิตัน ของคุณตัน ภาสกรนที ถึง 11 เท่า
ซึ่งเจ้าของ Arizona Beverages ตอนนี้คือคุณ Vultaggio กับลูกชายอีก 2 คน คือคุณ Spencer และคุณ Wesley Vultaggio
เพราะก่อนหน้านี้ คุณ Vultaggio มีความเห็นไม่ตรงกันกับคุณ Ferolito ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง
ความขัดแย้งของทั้งคู่ ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันอยู่ 6 ปี
ซึ่งสุดท้ายได้ข้อสรุปในปี 2015 ว่า คุณ Vultaggio จะซื้อหุ้นส่วนของคุณ Ferolito ด้วยจำนวนเงิน 14,000 ล้านบาท
มาถึงวันนี้ ความมั่งคั่งของคุณ Vultaggio และลูกชายทั้งสอง รวมกันอยู่ที่ 220,000 ล้านบาท
ซึ่งถ้าเรานับเฉพาะตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ คุณ Vultaggio จะร่ำรวยเป็นรองแค่
- คุณ Zhong Shanshan นักธุรกิจชาวจีน เจ้าของน้ำดื่ม Nongfu Spring
- คุณ Mark Mateschitz มหาเศรษฐีชาวออสเตรีย ผู้เป็นทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull
- คุณ Lin Muqin ประธานบริษัท เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง Eastroc ของจีน
นั่นก็หมายความว่า คุณ Vultaggio และครอบครัว คือ มหาเศรษฐีชา ที่รวยที่สุดในโลก
แม้ธุรกิจของพวกเขา ไม่จำเป็นต้องขึ้นราคา AriZona กระป๋องซิกเนเชอร์ เลยตลอด 30 ปี..
╔═══════════╗
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากลองชิมรสชาติชา AriZona กันแน่ ๆ แต่ก่อนจะไปหาซื้อออนไลน์ จะช้อปให้คุ้มและได้เป็นเจ้าของ Bitcoin ด้วย ก็ต้องมีแอปฯ @ShopBit ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ช้อปทุกทีฟรีบิทคอยน์"
ให้คุณเป็นเจ้าของ Bitcoin ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เงิน เพียงแค่เข้าแอปฯ ShopBit ก่อนช้อปปิ้งออนไลน์ใน Shopee, Lazada, Tops, Klook ฯลฯ ทุกครั้ง ก็รับไปเลย Bitcoin แบบฟรี ๆ
พิเศษ! ฉลองการอนุมัติ Bitcoin ETFs แจกฟรี Bitcoin มูลค่า 1 USD
? เพียงกรอก Code: LONGTUNMAN
สำหรับผู้ใช้งานใหม่เท่านั้น
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ทางบริษัทฯ กำหนด
ดาวน์โหลดแอปฯ ได้แล้ววันนี้ ทั้งบน iOS และ Android: https://shopbit.page.link/longtunman
หรือ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: https://faqsupport.gitbook.io/shopbit/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon