Mixue แบรนด์จีน ที่สาขาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนไล่กวดแบรนด์อเมริกัน

Mixue แบรนด์จีน ที่สาขาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนไล่กวดแบรนด์อเมริกัน

Mixue แบรนด์จีน ที่สาขาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด จนไล่กวดแบรนด์อเมริกัน /โดย ลงทุนแมน
ปัจจุบันแบรนด์จีน ได้แทรกซึมเข้าไปเขย่าผู้นำตลาดในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยี, ยานยนต์, บันเทิง
หรือแม้แต่อุตสาหกรรมร้านอาหารและเครื่องดื่ม
ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงนึกไม่ถึงว่าจะมีแบรนด์จีนแบรนด์ไหน สามารถแข่งขันในระดับโลกได้
เพราะเชนร้านอาหารระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น KFC, McDonald’s, Subway, Pizza Hut ล้วนแล้วแต่มาจากสหรัฐฯ กันทั้งนั้น
แต่วันนี้ ภาพกำลังเปลี่ยนไป โดยมีแบรนด์จีนที่กำลังมาแรง เข้ามาท้าชิงบัลลังก์ในตลาดนี้แล้ว
ซึ่งแบรนด์ที่ว่า ก็คือ “Mixue”
รู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ Mixue มีจำนวนสาขามากถึง 36,153 สาขาทั่วโลก
ซึ่งมีสาขามากสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก แซงหน้า KFC และเป็นรองเพียง McDonald’s, Subway, Starbucks เท่านั้น
และหากนับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์มา โดยเฉลี่ยแล้ว Mixue จะสามารถเปิดสาขาใหม่ ได้วันละ 4 สาขา เลยทีเดียว
โมเดลธุรกิจ Mixue เป็นอย่างไร
ทำไมถึงประสบความสำเร็จ และขยายสาขาได้รวดเร็วขนาดนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Mixue มีจุดเริ่มต้นจากร้านน้ำแข็งไสเล็ก ๆ ในปี 1997 โดยคุณ Zhang Hongchao สมัยตอนเรียนปริญญาตรี ที่เมืองเจิ้งโจว ด้วยเงินตั้งต้น 17,000 บาท
จนกระทั่งเจอจุดเปลี่ยน เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตของไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ซึ่งเริ่มเป็นเมนูยอดนิยมของคนจีน แต่กลับขายกันในราคาที่แพงมาก
คุณ Zhang จึงตัดสินใจเข้ามาเล่นในตลาดนี้ โดยใช้กลยุทธ์ตั้งราคาขายถูกเข้าสู้ เพื่อดึงดูดลูกค้า และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ได้ (Mass)
อย่างไรก็ดี การที่ธุรกิจขายของถูก แต่ยังทำกำไรได้นั้น ก็แลกมาด้วยการที่ Mixue ต้องขายไอศกรีม
และชานม ให้ได้จำนวนมากเช่นกัน
ประกอบกับการควบคุมต้นทุนให้ได้อย่างต่อเนื่อง
และการควบคุมต้นทุนของ Mixue ที่ว่านี้ ก็มีตั้งแต่
- มีโรงงานผลิตวัตถุดิบของตัวเอง
- มีครัวกลางเป็นของตัวเอง
- ระบบซัปพลายเชนด้วยเครือข่ายคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงเรื่องของ Economies of Scale ที่ Mixue ได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด เมื่อธุรกิจมียอดขายและจำนวนสาขามากขึ้น
พอเป็นแบบนี้ จึงทำให้ Mixue มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนที่ดี จนมีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งราว 20%
ซึ่งการจะขายให้ได้จำนวนมาก ก็ต้องมีสาขามากตามมาด้วย และกลยุทธ์ที่ Mixue ใช้ในการขยายสาขา นั่นคือ โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ นั่นเอง
และก็น่าคิดว่า หากเทียบกับเจ้าตลาด อย่าง McDonald’s เชนร้านอาหารที่มีจำนวนสาขาเยอะที่สุดในโลก ด้วยจำนวนสาขากว่า 40,275 สาขา
Mixue จะสามารถขึ้นมาท้าชิง และเทียบชั้นกับ McDonald’s ได้หรือไม่ ?
คำตอบคือ อาจจะเป็นไปได้..
เพราะเหตุผลแรกเลย คือ
“ใช้แฟรนไชส์ เป็นอาวุธขยายธุรกิจเหมือนกัน”
อย่างที่เห็นกันมาแล้วว่า โมเดลแฟรนไชส์ ช่วยให้ Mixue ติดปีกจนเติบโตอย่างก้าวกระโดด
โดยที่แบรนด์ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนของตัวเองในการขยายสาขา
อีกทั้งโมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ ยังทำให้ Mixue มีแหล่งรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เพราะแบรนด์จะหารายได้จากการขายวัตถุดิบ และแพ็กเกจจิง ให้แก่คนที่ซื้อแฟรนไชส์ไป
โดย Mixue มีรายได้หลัก มาจากการขายวัตถุดิบ 72%
ส่วนอีก 16% เป็นรายได้จากการขายแพ็กเกจจิง
สำหรับทาง McDonald’s เองก็มีรายได้จากแฟรนไชส์เป็นหลักถึง 61% แต่สิ่งที่ต่างกันออกไปคือ รายได้ของ McDonald’s จะมาจากส่วนแบ่งยอดขาย ค่าธรรมเนียมแรกเข้า ไปจนถึงค่าเช่าที่ดินที่ McDonald’s ปล่อยเช่าให้คนซื้อแฟรนไชส์
ถึงแม้ Mixue และ McDonald’s จะมีรายละเอียดในการเก็บเงินจากคนซื้อแฟรนไชส์ต่างกัน แต่สุดท้ายรายได้ตรงนี้ ก็สร้างเงินสดให้บริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ เหมือนกันอยู่ดี
เรื่องต่อมา คือ
“โมเดลธุรกิจ ทำซ้ำได้ง่าย”
หากเราไปดูเมนูของทั้งสองธุรกิจ จะพบว่า
เป็นเมนูที่มีไม่เยอะ ทำให้ควบคุมต้นทุนได้ดี และยังประหยัดเวลาในการเสิร์ฟแต่ละออร์เดอร์อีกด้วย
เมื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ก็แค่เอาเมนู
ที่มีเพียงหยิบมือ ไปทำซ้ำในหลาย ๆ พื้นที่
ทำให้ดำเนินการได้ง่าย และขยายสาขาไปได้อย่างรวดเร็ว
เทียบกับแบรนด์ร้านอาหารจีนอื่น ที่กำลังขยายสาขา เช่น Haidilao เชนร้านหม้อไฟชื่อดัง กลับมีสาขาเพียง 1,600 สาขา ก็เพราะว่ามีเมนูจำนวนมาก และใช้พื้นที่ร้านพอสมควร ทำให้มีต้นทุนสูง
แตกต่างจาก Mixue ที่ลูกค้าเข้ามาซื้อชานมหรือไอศกรีม ก็สามารถเลือกได้ว่า ซื้อแล้วออกไป
หรือหากจะทานในร้าน ก็ใช้เวลาทานไม่นานนัก
และเรื่องสุดท้าย คือ
“เจาะกลุ่มลูกค้าได้กว้าง”
Mixue เน้นชูสินค้าอย่างชานมและไอศกรีม ซึ่งเป็นของกินที่รู้จักกันทั่วไปอยู่แล้ว จึงสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย
แถมเมนูของทาง Mixue ยังมีราคาที่เข้าถึงง่ายมาก
ส่วน McDonald’s เอง ก็มีเมนูที่ง่ายและไม่ซับซ้อน
แถมจัดเมนูเป็นเซต เพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ว่า อยากทานแบบไหน และไม่ทานแบบไหน
พอเป็นแบบนี้ เลยทำให้ทั้งคู่เจาะตลาด Mass โดยเฉพาะลูกค้าระดับกลางและล่างได้ไม่ยาก
ทีนี้ หากเราลองมาดูผลประกอบการของทั้งคู่กัน
ผลประกอบการของ Mixue
ปี 2021 รายได้ 51,336 ล้านบาท กำไร 9,475 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 67,329 ล้านบาท กำไร 9,903 ล้านบาท
9 เดือนแรก ปี 2023
รายได้ 76,345 ล้านบาท กำไร 11,907 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Mixue มีรายได้และกำไรที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
และที่น่าสนใจคือ ธุรกิจมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 16%
บางคนอาจสงสัยว่า ในเมื่อ Mixue ขายถูกขนาดนี้ ทำไมถึงมีอัตรากำไรที่ค่อนข้างดี แทนที่ Margin จะบาง
เรื่องนี้ต้องบอกว่า มาจากโมเดลแฟรนไชส์ ที่ Mixue มีรายได้หลัก ๆ เป็นแบบ B2B ด้วยการขายวัตถุดิบ และแพ็กเกจจิง ให้แฟรนไชซี ไม่ใช่มีรายได้จากการขายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง
และเรื่องความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้ดี อย่างที่บอกไปตอนต้น นั่นเอง
ส่วน McDonald’s ในปี 2022 ที่ผ่านมา
มีรายได้ 803,741 ล้านบาท
กำไร 214,170 ล้านบาท
อัตรากำไร 27%
เห็นได้ว่า Mixue หากเทียบกับ McDonald’s
ยังมีรายได้ห่างกันอยู่ 12 เท่า
กำไรห่างกันมากถึง 22 เท่า
แถมมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ตาม หากดูการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา
Mixue มีรายได้เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี
ส่วน McDonald’s มีอัตราการเติบโตเพียง 10% ต่อปี
และถ้า Mixue สามารถคงความโตแรงเอาไว้เหมือนเดิมได้
ภายในปี 2033 จะมีรายได้อยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท
ส่วน McDonald’s ถ้ายังโตเหมือนเดิม ภายในปี 2033 จะมีรายได้อยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท
เท่ากับว่า ในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า หรืออาจเร็วกว่านั้น
Mixue อาจมีรายได้แซง McDonald’s ก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
คาดว่า Mixue จะเตรียมจดทะเบียน IPO เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ภายในปีนี้
โดยมีการประเมินกันเอาไว้ว่า Mixue อาจมีมูลค่าบริษัทประมาณ 330,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://equalocean.com/analysis/2023102820323
-https://corporate.mcdonalds.com/content/dam/sites/corp/nfl/pdf/MCD_2023_Annual_Report
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mixue_Ice_Cream_%26_Tea
-https://www.bluetreesavings.com/post/how-mcdonalds-really-makes-money
-https://www1.hkexnews.hk/app/sehk/2024/106124/documents/sehk24010203325.pdf
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon