คิดลงทุนหุ้นจีน คิดถึง MEGA10CHINA
-ซื้อ MEGA10CHINA กองทุน MEGA10CHINA-A, MEGA10CHINA-SSF, MEGA10CHINARMF ได้ในช่วง IPO 21-26 ธ.ค. 2566 ซื้อได้ที่ บลจ.ทาลิส และ ผู้สนับสนุนการขาย หลายรายทั่วประเทศ เช่น InnovestX, Finnomena, Dime, Krungsri capital Securities ฯลฯ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ประเทศจีน กำลังขึ้นมามีบทบาทต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยปี 2022 เศรษฐกิจจีนมีมูลค่า 630 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ของมูลค่าเศรษฐกิจโลกทั้งหมด

รู้ไหมว่า เราสามารถคว้าโอกาสการลงทุน จากเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้ได้..
ผ่านการลงทุนใน “MEGA10CHINA” กองทุนมีแนวทางการลงทุนใน 10 บริษัทในประเทศจีน ที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ และเป็นเจ้าของแบรนด์ที่โดดเด่นในกลุ่มTOP/BEST CHINESE BRANDS

แล้ว ทำไมถึง ต้องเป็น MEGA10CHINA ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปปี 1978 ราว 45 ปีก่อน..
ภายใต้การนำประเทศจีน ของอดีตผู้นำประเทศที่ชื่อว่า เติ้ง เสี่ยวผิง

ในตอนนั้น จีน เริ่มมีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และเปิดประเทศเพื่อรับการลงทุนจากต่างประเทศ
โดยมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับการลงทุนของต่างชาติที่ เชินเจิ้น, จูไห่, เซี่ยเหมิน และซัวเถา

การปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนในครั้งนั้น ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด
มีการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยอาศัยต้นแบบจากประเทศที่มีการพัฒนามาก่อนแล้ว
อย่างยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ญี่ปุ่น

ส่งผลให้ชนชั้นกลางของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชากรหลายร้อยล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน ทำให้ความต้องการบริโภคสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ในปี 1960 เศรษฐกิจของจีนมีสัดส่วนเพียง 4% ของเศรษฐกิจโลก
แต่ในปี 2022 สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 18%
คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของมูลค่าเศรษฐกิจโลกทั้งหมด

ทำให้จีนกลายมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในโลก
แซงหน้าญี่ปุ่นไปตั้งแต่ปี 2010 และไล่ตามสหรัฐฯ เบอร์หนึ่งของโลกด้านเศรษฐกิจใกล้มากขึ้นทุกที

ปี 2022 มูลค่า GDP ของจีนอยู่ที่ 630 ล้านล้านบาท
ขณะที่มูลค่า GDP ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 890 ล้านล้านบาท

แล้วมีปัจจัยอะไรบ้าง ที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้นมาเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกในอนาคต ?

- ประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลกมาหลายทศวรรษ
- จำนวนประชากรจีนกว่า 1,400 ล้านคน ด้วยจำนวนประชากรมหาศาลนี้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งในแง่ของการบริโภคและแรงงานในระบบ

- จีนให้ความสำคัญใน การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งถือเป็นโครงสร้างสำคัญในการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจ
- จีนถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีความเกี่ยวโยงในห่วงโซ่หลาย ๆ อุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญต่อการค้าของโลก

แน่นอนว่า พอเศรษฐกิจเติบโต ตลาดหุ้นจะมีการเติบโตล้อตามกันไปด้วย
ทั้งในมุมของเงินทุนไหลเข้าตลาด และการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

แต่ก็นั่นก็อาจไม่ใช่บริษัทจีนทั้งหมด ที่จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้..

ซึ่งจุดที่น่าสนใจของกองทุน MEGA10CHINA คือ การโฟกัสการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศจีน 10 ตัวแบบเน้น ๆ ผ่านตะแกรงการคัดเลือกอย่างมีหลักการ

กองทุน MEGA10CHINA และ กองทุน MEGA10CHINARMF จะเข้าไปลงทุนใน 10 บริษัทมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ ของจีนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange; HKEX) ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) ในกลุ่มTOP/BEST CHINESE BRANDS จากการจัดอันดับโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว โดยผู้จัดการกองทุนจะคัดเลือกและพิจารณาเน้นลงทุนในตราสารทุนที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจำนวน 10 บริษัท เพื่อให้เราได้มีส่วนร่วมความเป็นเจ้าของแบบเน้น ๆ

นอกจากนี้ MEGA10CHINA จะมีเกณฑ์คัดเลือกหุ้นเพิ่มเติม
โดยหุ้นที่เข้าไปลงทุนนั้น จะต้องไม่เป็นหุ้นที่ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลจีน
ทำให้กิจการที่เข้าไปลงทุน ล้วนเป็นกิจการที่บริหารจัดการได้อย่างอิสระ

ยกตัวอย่างหุ้น ที่คาดว่ากองทุน MEGA10CHINA และ กองทุน MEGA10CHINARMF สนใจลงทุน อย่างเช่น

- Tencent Holdings บริษัทเทคโนโลยีมูลค่ามากสุดในประเทศจีน ที่เป็นเจ้าของ wechat ซูเปอร์แอปยอดนิยมของชาวจีน และเป็นผู้พัฒนาเกมดังอย่าง RoV และ PUBG

- Alibaba บริษัท E-Commerce ที่ใหญ่อันดับ 3 ของโลก
เจ้าของ Alibabam Taobao และ Lazada อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในจีน และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์ BYD ที่ขึ้นมาแย่งส่วนแบ่งตลาดกับ Tesla

- Xiaomi เจ้าของแบรนด์สมาร์ตโฟนและสินค้าเทคโนโลยี ที่กำลังแทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก

จะเห็นว่าบริษัทเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นแบรนด์สินค้าและบริการ ที่เป็นที่รู้จักและเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนหมู่มาก สอดคล้องไปกับภาพการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศจีนในระยะยาว

ประกอบกับ สถานการณ์ดัชนี Hang Seng (HSI) ปรับตัวลดลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 10 ปี
ก็ทำให้บริษัทจีนที่มีพื้นฐานดี ราคาหุ้นลงมาจนมาถึงระดับที่น่าสนใจ ต่ำกว่าในอดีตหลายปีที่ผ่านมา

ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุน MEGA10CHINA และ กองทุน MEGA10CHINARMF ก็น่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าใจไม่น้อยทีเดียว ใน ณ ตอนนี้..

ทั้งนี้ ตัวอย่างบริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น

กองทุน MEGA10CHINARMF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเงินลงทุน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

กองทุน MEGA10CHINA มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็น
ชนิดเพื่อการออม MEGA10CHINA-SSF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเงินลงทุนในชนิดหน่วยลงทุนนี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

ชนิดสะสมมูลค่า MEGA10CHINA-A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return)

โดย กองทุน MEGA10CHINA และ MEGA10CHINARMF จะ IPO ในวันที่ 21 – 26 ธันวาคม 2566 นี้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส talisam.co.th 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และ ผู้สนับสนุนการขาย 29 ราย

1.บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
2.บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
3.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
4.บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5.บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
6.หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
8.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
9.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
10.บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
11.บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
12.บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
13.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
14.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
15.บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
16.บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน)
17.บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
18.บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
19.บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
20.บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
21.บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
22.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
23.บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
24.บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
25.บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
26.บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
27.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด
28.บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
29.บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด

เพื่อประโยชน์ของท่านอย่าลืมลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://www.talisam.co.th/terms-and-conditions/

คำเตือน :
-กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

-ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

References
-https://www.worldometers.info/gdp/gdp-by-country/
-https://economictimes.indiatimes.com/news/international/world-news/china-slowdown-means-it-may-never-overtake-us-economy-forecast-shows/articleshow/103410126.cms