เจฟฟ์ เบโซส บุคคลรวยที่สุดในโลก
เจฟฟ์ เบโซส บุคคลรวยที่สุดในโลก / โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึง Amazon คนไทยส่วนใหญ่คงนึกถึงร้านกาแฟ
แต่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้จดจำ Amazon ว่าเป็นชื่อร้านกาแฟ
แต่เป็นบริษัท E-commerce ยักษ์ใหญ่ ที่ขายสินค้าทุกประเภท
Amazon เป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับ 3 ของโลก
และ เจฟฟ์ เบโซส เจ้าของบริษัท เป็นบุคคลที่รวยสุดในโลก
ถ้าพูดถึง Amazon คนไทยส่วนใหญ่คงนึกถึงร้านกาแฟ
แต่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้จดจำ Amazon ว่าเป็นชื่อร้านกาแฟ
แต่เป็นบริษัท E-commerce ยักษ์ใหญ่ ที่ขายสินค้าทุกประเภท
Amazon เป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับ 3 ของโลก
และ เจฟฟ์ เบโซส เจ้าของบริษัท เป็นบุคคลที่รวยสุดในโลก
ในปี 2560 ที่ผ่านมา Amazon มียอดขาย 5.7 ล้านล้านบาท
ในขณะที่ GDP ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 13 ล้านล้านบาท
Amazon บริษัทเดียวขายของได้เป็น 44% ของคนไทยทั้งประเทศรวมกัน
ที่น่าสนใจคือ Amazon ใช้พนักงาน 566,000 คน
เฉลี่ยแล้วพนักงาน 1 คนของ Amazon ทำยอดขายได้ปีละ 10 ล้านบาท
ในขณะที่คนไทย 1 คนสร้างรายได้ประมาณปีละ 200,000 บาท
ต่างกัน 50 เท่า
Amazon และเจฟฟ์ เบโซส มีที่มาอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปปี 1994..
เจฟฟ์ เบโซสทำงานอยู่ในบริษัทเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) แห่งหนึ่ง และได้รับมอบหมายให้ศึกษาเทคโนโลยีใหม่ชนิดหนึ่ง
เทคโนโลยีนั้นคือ “อินเทอร์เน็ต”
ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคำๆ นี้ แต่ในตอนนั้นคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าอินเทอร์เน็ตคืออะไร
เจฟฟ์ค้นพบว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตปีละ 2300% หรือ 23 เท่าตัว
เขารีบกลับไปรายงานเจ้านายว่าอินเทอร์เน็ตกำลังจะเปลี่ยนโลก
และธุรกิจที่เจฟฟ์อยากทำคือร้านขายหนังสือออนไลน์
เจ้านายของเจฟฟ์มองว่าการขายหนังสือออนไลน์เป็นการฉีกตัวเองจากธุรกิจเทคโนโลยีการเงินที่ทำอยู่มากเกินไป จึงคัดค้านแนวคิดนี้
แต่เจฟฟ์มั่นใจว่านี่เป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้ เขาจึงคิดว่าจะลาออก
ในขณะนั้นเจฟฟ์มีหน้าที่การงานที่ดี บริษัทกำลังก้าวหน้าและอยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
เขาลังเลที่จะลาออก..
เขาลังเลที่จะลาออก..
เขาถามตัวเองว่า เมื่อเขาแก่ จนอายุ 80 ปี อะไรที่จะทำให้เขารู้สึกเสียดายที่สุดถ้าไม่ได้เลือกที่จะทำ
เจฟฟ์บอกกับตัวเองว่า เขาคงไม่เสียดายเงินเดือนสูงๆ หรือโบนัสก้อนโต
แต่เขาคงเสียดายถ้าไม่ได้ตัดสินใจลองทำธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ต แม้ว่าเขาจะล้มเหลวก็ตาม
เจฟฟ์จึงตัดสินใจลาออก และเปิดร้านขายหนังสือออนไลน์ในชื่อ Amazon.com
แล้ว Amazon กลายมาเป็นร้านที่ขายทุกอย่างได้อย่างไร?
หลายคนอาจเข้าใจว่าเจฟฟ์รักการอ่าน เขาจึงเริ่มต้นธุรกิจด้วยการขายหนังสือ
แต่อันที่จริง เจฟฟ์ไม่ได้คิดจะขายหนังสืออย่างเดียวมาตั้งแต่วันแรกที่เขาก่อตั้งบริษัท
เจฟฟ์เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนโลก และเปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าของคนทั้งโลก
แต่เจฟฟ์ก็รู้ว่า พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนแปลงช้ากว่าเทคโนโลยี
การขายสินค้าทุกประเภทตั้งแต่เริ่มต้นจึงยากและซับซ้อนเกินไปสำหรับลูกค้า
เจฟฟ์ทำรายการสินค้าออกมาหลายประเภท และวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าควรจะเริ่มขายอะไรเป็นอย่างแรก
สุดท้ายเขาตัดสินใจเลือกหนังสือ
เพราะหนังสือเป็นสินค้าที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่าย ไม่ต้องเห็นของก่อนก็กล้าสั่ง และไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าปลอม
Amazon จึงมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นร้านหนังสือออนไลน์
Amazon เติบโตเร็วแค่ไหน?
ปี 1994 เจฟฟ์ เบโซสก่อตั้งบริษัทในโรงรถที่บ้านเช่า
ปี 1995 ยอดขาย 1 ล้านดอลล่าร์
ปี 1996 ยอดขาย 16 ล้านดอลล่าร์
ปี 1997 ยอดขาย 148 ล้านดอลล่าร์ และเข้าตลาดหุ้น
ปี 1995 ยอดขาย 1 ล้านดอลล่าร์
ปี 1996 ยอดขาย 16 ล้านดอลล่าร์
ปี 1997 ยอดขาย 148 ล้านดอลล่าร์ และเข้าตลาดหุ้น
ในปี 1996 ก่อนที่ Amazon จะเข้าตลาดหุ้น บริษัท Barns&Noble (บาร์นส์แอนด์โนเบิล) ร้านขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา กังวลกับการเติบโตของ Amazon จึงนัดเจฟฟ์เพื่อขอเจรจา
Barns&Noble สนใจอยากเป็นพันธมิตรกับ Amazon พร้อมทั้งขู่ว่าถ้า Amazon ปฏิเสธข้อเสนอ Barns&Noble จะทำทุกวิถีทางให้ Amazon พ่ายแพ้
ในปีนั้น Barns&Noble มียอดขาย 2,448 ล้านดอลล่าร์ และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านดอลล่าร์
ในขณะที่ Amazon มียอดขายเพียง 16 ล้าน ไม่ถึง 1% ของ Barns&Noble และ Amazon ยังขาดทุนอยู่
ในขณะที่ Amazon มียอดขายเพียง 16 ล้าน ไม่ถึง 1% ของ Barns&Noble และ Amazon ยังขาดทุนอยู่
แต่เจฟฟ์กลับเลือกปฏิเสธข้อเสนอการร่วมเป็นพันธมิตรอย่างไม่ไยดี
Barns&Noble ทำตามคำขู่ โดยการสร้างเว็บไซต์ขายหนังสือออนไลน์ที่ใช้เงินลงทุนมากกว่า 200 ล้านดอลล่าร์
นักวิเคราะห์หุ้นทุกคนเชื่อว่า Amazon จะเป็นฝ่ายแพ้
แต่เจฟฟ์มั่นใจว่า Amazon จะชนะ
เจฟฟ์ตั้งใจจะสร้าง Amazon ให้เป็นบริษัทที่ขายสินค้าทุกอย่างในโลก เขาไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นร้านขายหนังสือ เขาจึงไม่ได้มองร้านขายหนังสือเป็นคู่แข่ง
แล้วคู่แข่งของ Amazon คือใคร?
คู่แข่งที่เจฟฟ์มองคือบริษัท Wal-Mart ห้างค้าปลีกที่มียอดขายสูงที่สุดในอเมริกา
ในปี 1998 Wal-Mart ฟ้อง Amazon ในข้อหาดึงตัวผู้บริหารและสร้างความเสียหายทางธุรกิจให้แก่ Wal-Mart
ในปีนั้น Amazon มียอดขาย 600 ล้านดอลล่าร์
ในขณะที่ Wal-Mart มียอดขาย 130,000 ล้านดอลล่าร์
ศาลจึงไม่เข้าใจว่า Amazon ที่มียอดขายเพียงไม่ถึง 1% ของ Wal-Mart จะสร้างความเสียหายทางธุรกิจให้แก่บริษัทได้อย่างไร?
ผ่านไป 20 ปี..
ปัจจุบัน บริษัท Wal-Mart มีมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านบาท
ในขณะที่ บริษัท Amazon มีมูลค่าประมาณ 22.5 ล้านล้านบาท
ในขณะที่ บริษัท Amazon มีมูลค่าประมาณ 22.5 ล้านล้านบาท
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ศาลอาจต้องกลับคำตัดสินใหม่..
ทุกวันนี้ Amazon กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับ 3 ของโลก และเจฟฟ์ เบโซส ก็กลายเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก
แต่อะไรคือสิ่งที่ทำไห้ เจฟฟ์ เบโซส ประสบความสำเร็จ?
ทำไม Amazon จึงชนะคู่แข่งที่ใหญ่กว่า 100 เท่า ได้ในหลากหลายสมรภูมิ?
สิ่งนั้นอาจเป็นเพราะเจฟฟ์มีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนอื่น
เจฟฟ์บอกว่าคนส่วนใหญ่ชอบตั้งคำถามว่าใน 10 ปีข้างหน้า จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
แต่เขาชอบตั้งคำถามกลับกัน..
เขาชอบถามตัวเองว่า “อะไรที่จะไม่เปลี่ยนไปในอีก 10 ปีข้างหน้า”
และคำตอบของเขาคือ สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือ ลูกค้าจะยังคงเรียกร้องมากขึ้น
ในอีก 10 ปีข้างหน้า ลูกค้ายังคงต้องการให้ Amazon..
1. ขายสินค้าถูกลง
2. ส่งสินค้าเร็วขึ้น
3. และมีตัวเลือกสินค้ามากขึ้น
1. ขายสินค้าถูกลง
2. ส่งสินค้าเร็วขึ้น
3. และมีตัวเลือกสินค้ามากขึ้น
เจฟฟ์บอกว่าหน้าที่ของผู้บริหารคือต้องหา Big idea ที่จะไม่เปลี่ยนไป ซึ่งมักจะมีแค่ 2-3 ไอเดียที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น
Big idea เหล่านี้จะง่ายและชัดเจน แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว little idea หลายอย่างจะทำให้ผู้บริหารสับสนและลืมสิ่งที่สำคัญจริงๆ ไป
คนส่วนมากชอบโฟกัสอะไรที่ยากหรือเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่เจฟฟ์ชอบโฟกัสสิ่งที่ง่ายและไม่เปลี่ยนแปลง
เจฟฟ์ยังบอกอีกว่า Amazon ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นบริษัทที่มองไกล
ผู้บริหารมืออาชีพมักจะมองที่ 2-3 ปีข้างหน้า เพราะเป็นกรอบเวลาที่ผู้ถือหุ้นมักใช้ประเมินผู้บริหาร
แต่เจฟฟ์เชื่อว่าทุกความสำเร็จชั่วข้ามคืน ใช้เวลาประมาณ 10 ปี (All overnight success takes about 10 years)
การมองไกล จะทำให้เราวางแผนด้วยวิธีใหม่ๆ และสามารถลำดับความสำคัญในการจัดสรรเวลาและพลังของเราไปสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง
ความสำเร็จของเจฟฟ์ เบโซสสอนอะไรเรา?
ความสำเร็จของเจฟฟ์ทำให้เรารู้ว่าเรื่องที่สำคัญ มักเป็นเรื่องที่เห็นได้ง่าย แต่ทำได้ยาก..
อีกเรื่องหนึ่งที่ความสำเร็จของเจฟฟ์สอนเราคือ เรื่องสำคัญเหล่านี้มักไม่เห็นผลของการลงมือทำในระยะสั้น
เป้าหมายที่สำคัญมักเห็นได้ง่าย แต่ทำให้สำเร็จจริงได้ยาก
ต้องอาศัยวินัย และพลังใจในการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
คนส่วนใหญ่ใจร้อน อยากเห็นผลลัพธ์เร็ว คนประสบความสำเร็จจึงมีจำนวนไม่มาก
ชีวิตของเจฟฟ์เองก็สะท้อนวิธีคิดแบบมองไกลของ Amazon ให้เราเห็นได้เป็นอย่างดี
ในวันที่เจฟฟ์เลือกว่าจะทำงานประจำหรือลาออกมาก่อตั้ง Amazon เขาเลือกที่จะมองล่วงหน้าไป 50 ปี
เพื่อถามตัวเขาเองว่าเขาจะเสียใจมั้ย หากไม่ได้ลาออกมาตั้งบริษัท
ถ้าวันนั้นเจฟฟ์เลือกอะไรที่ง่าย และเห็นผลลัพธ์เร็ว เขาน่าจะเลือกทำงานต่อ และรับโบนัสตอนปลายปี
แต่เขาคงไม่ได้เป็นคนที่รวยที่สุดในโลกอย่างทุกวันนี้
และลงทุนแมนก็คงไม่ได้เขียนเรื่องราวของเขาให้ทุกคนได้อ่านกัน..
----------------------
<ad> ถ้าเจฟฟ์ เบโซส อยากเห็นผลลัพธ์เร็วต้องเจอ Renomax
Renomax เชี่ยวชาญด้านงานรีโนเวท ตกแต่งภายใน บริการครบวงจรตั้งแต่งานระบบไฟฟ้าประปา ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำตั้งแต่งานออกแบบ การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม ควบคุมงบประมาณ ดูแลคุณภาพการตกแต่งครบจบในที่เดียว
----------------------
<ad> ถ้าเจฟฟ์ เบโซส อยากเห็นผลลัพธ์เร็วต้องเจอ Renomax
Renomax เชี่ยวชาญด้านงานรีโนเวท ตกแต่งภายใน บริการครบวงจรตั้งแต่งานระบบไฟฟ้าประปา ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำตั้งแต่งานออกแบบ การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม ควบคุมงบประมาณ ดูแลคุณภาพการตกแต่งครบจบในที่เดียว
Facebook: https://www.facebook.com/renomax.thailand
Website: www.renomax.design
Line : @renomax
Mobile: 0853025599
----------------------
Website: www.renomax.design
Line : @renomax
Mobile: 0853025599
----------------------
Reference:
-https://www.youtube.com/watch?v=LqL3tyCQ1yY
-หนังสือ Amazon ร้านออนไลน์ยอดขายหมื่นล้าน!
-หนังสือ เจฟฟ์ เบซอส กับประวัติย่อของ Amazon.com ร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-https://revenuesandprofits.com/amazon-vs-walmart-revenues-and-profits-1995-2014/
-https://www.statista.com/statistics/234488/number-of-amazon-employees/
[4571].
-https://www.youtube.com/watch?v=LqL3tyCQ1yY
-หนังสือ Amazon ร้านออนไลน์ยอดขายหมื่นล้าน!
-หนังสือ เจฟฟ์ เบซอส กับประวัติย่อของ Amazon.com ร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
-https://revenuesandprofits.com/amazon-vs-walmart-revenues-and-profits-1995-2014/
-https://www.statista.com/statistics/234488/number-of-amazon-employees/
[4571].